Radeon RX 7800 XT เทียบกับ VII
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon VII และ Radeon RX 7800 XT โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7800 XT มีประสิทธิภาพดีกว่า VII อย่างน่าสนใจ 48% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 100 | 37 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 74 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 23.03 | 68.09 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 9.88 | 16.35 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.1 (2018−2022) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 20 | Navi 32 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 กุมภาพันธ์ 2019 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 25 สิงหาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $699 | $499 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 7800 XT มีความคุ้มค่ามากกว่า Radeon VII อยู่ 196%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3840 | 3840 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1400 MHz | 1295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1750 MHz | 2430 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,230 million | 28,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 295 Watt | 263 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 420.0 | 583.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 13.44 TFLOPS | 37.32 TFLOPS |
ROPs | 64 | 96 |
TMUs | 240 | 240 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 60 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 280 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 4096 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1000 MHz | 2438 MHz |
1024 จีบี/s | 624.1 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.0b, 3x DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1a, 3x DisplayPort 2.1 |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.1 | 2.2 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 120
−77.5%
| 213
+77.5%
|
1440p | 74
−66.2%
| 123
+66.2%
|
4K | 57
−26.3%
| 72
+26.3%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 5.83
−149%
| 2.34
+149%
|
1440p | 9.45
−133%
| 4.06
+133%
|
4K | 12.26
−76.9%
| 6.93
+76.9%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 220−230
−57.4%
|
351
+57.4%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
−170%
|
248
+170%
|
Hogwarts Legacy | 90−95
−140%
|
218
+140%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 136
−21.3%
|
160−170
+21.3%
|
Counter-Strike 2 | 220−230
−59.2%
|
355
+59.2%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
−113%
|
196
+113%
|
Far Cry 5 | 99
−106%
|
204
+106%
|
Fortnite | 195
−37.4%
|
260−270
+37.4%
|
Forza Horizon 4 | 163
−70.6%
|
278
+70.6%
|
Forza Horizon 5 | 120−130
−126%
|
276
+126%
|
Hogwarts Legacy | 90−95
−107%
|
188
+107%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 157
−12.7%
|
170−180
+12.7%
|
Valorant | 220−230
−40.2%
|
300−350
+40.2%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 137
−20.4%
|
160−170
+20.4%
|
Counter-Strike 2 | 220−230
−26.9%
|
283
+26.9%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
−77.2%
|
163
+77.2%
|
Dota 2 | 160
−43.8%
|
230−240
+43.8%
|
Far Cry 5 | 95
−106%
|
196
+106%
|
Fortnite | 154
−74%
|
260−270
+74%
|
Forza Horizon 4 | 157
−66.2%
|
261
+66.2%
|
Forza Horizon 5 | 120−130
−110%
|
256
+110%
|
Grand Theft Auto V | 111
−60.4%
|
178
+60.4%
|
Hogwarts Legacy | 90−95
−58.2%
|
144
+58.2%
|
Metro Exodus | 88
−95.5%
|
172
+95.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 158
−12%
|
170−180
+12%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 139
−163%
|
366
+163%
|
Valorant | 220−230
−40.2%
|
300−350
+40.2%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 127
−29.9%
|
160−170
+29.9%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
−63%
|
150
+63%
|
Dota 2 | 147
−42.9%
|
210−220
+42.9%
|
Far Cry 5 | 91
−100%
|
182
+100%
|
Forza Horizon 4 | 130
−70.8%
|
222
+70.8%
|
Hogwarts Legacy | 90−95
−18.7%
|
108
+18.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 143
−23.8%
|
170−180
+23.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 75
−167%
|
200
+167%
|
Valorant | 197
−62.9%
|
300−350
+62.9%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 114
−135%
|
260−270
+135%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 100−110
−69.9%
|
175
+69.9%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−57.5%
|
400−450
+57.5%
|
Grand Theft Auto V | 43
−226%
|
140
+226%
|
Metro Exodus | 56
−89.3%
|
106
+89.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 260−270
−43.1%
|
350−400
+43.1%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−105
−43%
|
140−150
+43%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−115%
|
99
+115%
|
Far Cry 5 | 95−100
−85.3%
|
176
+85.3%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
−77.2%
|
202
+77.2%
|
Hogwarts Legacy | 45−50
−66%
|
78
+66%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 75−80
−96%
|
147
+96%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 100−110
−43.8%
|
150−160
+43.8%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 45−50
+11.9%
|
42
−11.9%
|
Grand Theft Auto V | 62
−145%
|
152
+145%
|
Hogwarts Legacy | 24−27
−56%
|
35−40
+56%
|
Metro Exodus | 37
−70.3%
|
63
+70.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 54
−119%
|
118
+119%
|
Valorant | 240−250
−33.3%
|
300−350
+33.3%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 73
−39.7%
|
100−110
+39.7%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
−63.8%
|
75−80
+63.8%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
−114%
|
45
+114%
|
Dota 2 | 78
−41%
|
110−120
+41%
|
Far Cry 5 | 59
−76.3%
|
104
+76.3%
|
Forza Horizon 4 | 77
−113%
|
164
+113%
|
Hogwarts Legacy | 24−27
−84%
|
46
+84%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 58
−65.5%
|
95−100
+65.5%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 44
−79.5%
|
75−80
+79.5%
|
นี่คือวิธีที่ Radeon VII และ RX 7800 XT แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7800 XT เร็วกว่า 78% ในความละเอียด 1080p
- RX 7800 XT เร็วกว่า 66% ในความละเอียด 1440p
- RX 7800 XT เร็วกว่า 26% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ Radeon VII เร็วกว่า 12%
- ในเกม Grand Theft Auto V ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 7800 XT เร็วกว่า 226%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- Radeon VII เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
- RX 7800 XT เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (95%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 36.71 | 54.19 |
ความใหม่ล่าสุด | 7 กุมภาพันธ์ 2019 | 25 สิงหาคม 2023 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 295 วัตต์ | 263 วัตต์ |
RX 7800 XT มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 47.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 40%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 12.2%
Radeon RX 7800 XT เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon VII ในการทดสอบประสิทธิภาพ