GeForce RTX 4060 เทียบกับ Radeon VII
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon VII และ GeForce RTX 4060 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4060 มีประสิทธิภาพดีกว่า VII อย่างมาก 20% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 93 | 58 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 2 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 24.89 | 100.00 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 10.02 | 30.75 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.1 (2018−2022) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 20 | AD107 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 กุมภาพันธ์ 2019 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 18 พฤษภาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $699 | $299 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4060 มีความคุ้มค่ามากกว่า Radeon VII อยู่ 302%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3840 | 3072 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1400 MHz | 1830 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1750 MHz | 2460 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,230 million | 18,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 295 Watt | 115 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 420.0 | 236.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 13.44 TFLOPS | 15.11 TFLOPS |
ROPs | 64 | 48 |
TMUs | 240 | 96 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 96 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 24 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | 280 mm | 240 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 4096 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1000 MHz | 2125 MHz |
1024 จีบี/s | 272.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.0b, 3x DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.1 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | - | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 125
−8%
| 135
+8%
|
1440p | 81
+22.7%
| 66
−22.7%
|
4K | 60
+57.9%
| 38
−57.9%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 5.59
−152%
| 2.21
+152%
|
1440p | 8.63
−90.5%
| 4.53
+90.5%
|
4K | 11.65
−48.1%
| 7.87
+48.1%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 120−130
−77.5%
|
213
+77.5%
|
Counter-Strike 2 | 90−95
−46.7%
|
135
+46.7%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
−49.5%
|
139
+49.5%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 120−130
−32.5%
|
159
+32.5%
|
Battlefield 5 | 136
−8.8%
|
140−150
+8.8%
|
Counter-Strike 2 | 90−95
−18.5%
|
109
+18.5%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
−15.1%
|
107
+15.1%
|
Far Cry 5 | 99
−86.9%
|
185
+86.9%
|
Fortnite | 195
−4.6%
|
200−210
+4.6%
|
Forza Horizon 4 | 163
−11.7%
|
180−190
+11.7%
|
Forza Horizon 5 | 110−120
−103%
|
238
+103%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 157
−10.2%
|
170−180
+10.2%
|
Valorant | 230−240
−14.3%
|
260−270
+14.3%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 120−130
+27.7%
|
94
−27.7%
|
Battlefield 5 | 137
−8%
|
140−150
+8%
|
Counter-Strike 2 | 90−95
+1.1%
|
91
−1.1%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
+3.3%
|
90
−3.3%
|
Dota 2 | 160
−18.8%
|
190−200
+18.8%
|
Far Cry 5 | 95
−77.9%
|
169
+77.9%
|
Fortnite | 154
−32.5%
|
200−210
+32.5%
|
Forza Horizon 4 | 157
−15.9%
|
180−190
+15.9%
|
Forza Horizon 5 | 110−120
−88.9%
|
221
+88.9%
|
Grand Theft Auto V | 111
−39.6%
|
155
+39.6%
|
Metro Exodus | 88
−21.6%
|
107
+21.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 158
−9.5%
|
170−180
+9.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 139
−54.7%
|
215
+54.7%
|
Valorant | 230−240
−14.3%
|
260−270
+14.3%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 127
−16.5%
|
140−150
+16.5%
|
Counter-Strike 2 | 90−95
+21.1%
|
76
−21.1%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
+16.3%
|
80
−16.3%
|
Dota 2 | 147
−15.6%
|
170−180
+15.6%
|
Far Cry 5 | 91
−74.7%
|
159
+74.7%
|
Forza Horizon 4 | 130
−40%
|
180−190
+40%
|
Forza Horizon 5 | 110−120
−19.7%
|
140−150
+19.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 143
−21%
|
170−180
+21%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 75
−48%
|
111
+48%
|
Valorant | 197
−33.5%
|
260−270
+33.5%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 114
−78.9%
|
200−210
+78.9%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
−15.6%
|
35−40
+15.6%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−20.9%
|
300−350
+20.9%
|
Grand Theft Auto V | 43
−109%
|
90
+109%
|
Metro Exodus | 56
−12.5%
|
63
+12.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 260−270
−12.7%
|
290−300
+12.7%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
−15.8%
|
110−120
+15.8%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−2.1%
|
48
+2.1%
|
Far Cry 5 | 95−100
−13.5%
|
109
+13.5%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
−26.3%
|
140−150
+26.3%
|
Forza Horizon 5 | 70−75
−14.3%
|
80−85
+14.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 75−80
−5.3%
|
80
+5.3%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 100−110
−23.8%
|
130−140
+23.8%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 30−35
−25%
|
40−45
+25%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
−25%
|
24−27
+25%
|
Grand Theft Auto V | 62
−43.5%
|
89
+43.5%
|
Metro Exodus | 37
−2.7%
|
38
+2.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 54
−24.1%
|
67
+24.1%
|
Valorant | 240−250
−17%
|
280−290
+17%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 73
−6.8%
|
75−80
+6.8%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
+122%
|
9
−122%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
+5%
|
20
−5%
|
Dota 2 | 78
−15.4%
|
90−95
+15.4%
|
Far Cry 5 | 59
+9.3%
|
54
−9.3%
|
Forza Horizon 4 | 77
−28.6%
|
95−100
+28.6%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−13.6%
|
50−55
+13.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 58
−29.3%
|
75−80
+29.3%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 44
−52.3%
|
65−70
+52.3%
|
นี่คือวิธีที่ Radeon VII และ RTX 4060 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4060 เร็วกว่า 8% ในความละเอียด 1080p
- Radeon VII เร็วกว่า 23% ในความละเอียด 1440p
- Radeon VII เร็วกว่า 58% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ Radeon VII เร็วกว่า 122%
- ในเกม Grand Theft Auto V ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4060 เร็วกว่า 109%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- Radeon VII เหนือกว่าใน 8การทดสอบ (13%)
- RTX 4060 เหนือกว่าใน 51การทดสอบ (84%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 42.62 | 51.11 |
ความใหม่ล่าสุด | 7 กุมภาพันธ์ 2019 | 18 พฤษภาคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 295 วัตต์ | 115 วัตต์ |
Radeon VII มีข้อได้เปรียบ
ในทางกลับกัน RTX 4060 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 19.9% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 40%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 156.5%
GeForce RTX 4060 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon VII ในการทดสอบประสิทธิภาพ