GeForce RTX 4070 SUPER เทียบกับ Radeon VII
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon VII และ GeForce RTX 4070 SUPER โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4070 SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า VII อย่างน่าประทับใจ 82% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 93 | 11 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 18 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 24.89 | 67.48 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 10.02 | 24.45 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.1 (2018−2022) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 20 | AD104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 กุมภาพันธ์ 2019 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $699 | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4070 SUPER มีความคุ้มค่ามากกว่า Radeon VII อยู่ 171%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3840 | 7168 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1400 MHz | 1980 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1750 MHz | 2475 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,230 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 295 Watt | 220 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 420.0 | 554.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 13.44 TFLOPS | 35.48 TFLOPS |
ROPs | 64 | 80 |
TMUs | 240 | 224 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 224 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 56 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 280 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 4096 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1000 MHz | 1313 MHz |
1024 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.0b, 3x DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.1 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | - | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 125
−76.8%
| 221
+76.8%
|
1440p | 81
−69.1%
| 137
+69.1%
|
4K | 60
−35%
| 81
+35%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 5.59
−106%
| 2.71
+106%
|
1440p | 8.63
−97.4%
| 4.37
+97.4%
|
4K | 11.65
−57.5%
| 7.40
+57.5%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 120−130
−83.3%
|
220−230
+83.3%
|
Counter-Strike 2 | 90−95
−102%
|
186
+102%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
−111%
|
196
+111%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 120−130
−83.3%
|
220−230
+83.3%
|
Battlefield 5 | 136
−36.8%
|
180−190
+36.8%
|
Counter-Strike 2 | 90−95
−97.8%
|
182
+97.8%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
−97.8%
|
184
+97.8%
|
Far Cry 5 | 99
−105%
|
203
+105%
|
Fortnite | 195
−54.9%
|
300−350
+54.9%
|
Forza Horizon 4 | 163
−80.4%
|
290−300
+80.4%
|
Forza Horizon 5 | 110−120
−76.9%
|
200−210
+76.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 157
−12.7%
|
170−180
+12.7%
|
Valorant | 230−240
−86.1%
|
400−450
+86.1%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 120−130
−83.3%
|
220−230
+83.3%
|
Battlefield 5 | 137
−35.8%
|
180−190
+35.8%
|
Counter-Strike 2 | 90−95
−72.8%
|
159
+72.8%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
−71%
|
159
+71%
|
Dota 2 | 160
−81.3%
|
290−300
+81.3%
|
Far Cry 5 | 95
−111%
|
200
+111%
|
Fortnite | 154
−96.1%
|
300−350
+96.1%
|
Forza Horizon 4 | 157
−87.3%
|
290−300
+87.3%
|
Forza Horizon 5 | 110−120
−76.9%
|
200−210
+76.9%
|
Grand Theft Auto V | 111
−55.9%
|
173
+55.9%
|
Metro Exodus | 88
−110%
|
185
+110%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 158
−12%
|
170−180
+12%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 139
−196%
|
412
+196%
|
Valorant | 230−240
−86.1%
|
400−450
+86.1%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 127
−46.5%
|
180−190
+46.5%
|
Counter-Strike 2 | 90−95
−51.1%
|
139
+51.1%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
−54.8%
|
144
+54.8%
|
Dota 2 | 147
−76.9%
|
260−270
+76.9%
|
Far Cry 5 | 91
−109%
|
190
+109%
|
Forza Horizon 4 | 130
−126%
|
290−300
+126%
|
Forza Horizon 5 | 110−120
−79.5%
|
210−220
+79.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 143
−23.8%
|
170−180
+23.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 75
−168%
|
201
+168%
|
Valorant | 197
−117%
|
400−450
+117%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 114
−165%
|
300−350
+165%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
−159%
|
80−85
+159%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−89%
|
500−550
+89%
|
Grand Theft Auto V | 43
−244%
|
148
+244%
|
Metro Exodus | 56
−111%
|
118
+111%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 260−270
−86.5%
|
450−500
+86.5%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
−90.1%
|
190−200
+90.1%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−95.7%
|
92
+95.7%
|
Far Cry 5 | 95−100
−90.6%
|
183
+90.6%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
−127%
|
250−260
+127%
|
Forza Horizon 5 | 70−75
−71.4%
|
120−130
+71.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 75−80
−103%
|
154
+103%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 100−110
−43.8%
|
150−160
+43.8%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 30−35
−122%
|
70−75
+122%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
−190%
|
55−60
+190%
|
Grand Theft Auto V | 62
−168%
|
166
+168%
|
Metro Exodus | 37
−100%
|
74
+100%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 54
−146%
|
133
+146%
|
Valorant | 240−250
−37.8%
|
300−350
+37.8%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 73
−86.3%
|
130−140
+86.3%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
+5.3%
|
19
−5.3%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
−110%
|
44
+110%
|
Dota 2 | 78
−79.5%
|
140−150
+79.5%
|
Far Cry 5 | 59
−74.6%
|
103
+74.6%
|
Forza Horizon 4 | 77
−183%
|
210−220
+183%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−81.8%
|
80−85
+81.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 58
−65.5%
|
95−100
+65.5%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 44
−79.5%
|
75−80
+79.5%
|
นี่คือวิธีที่ Radeon VII และ RTX 4070 SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 77% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 69% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 35% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ Radeon VII เร็วกว่า 5%
- ในเกม Grand Theft Auto V ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 244%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- Radeon VII เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
- RTX 4070 SUPER เหนือกว่าใน 58การทดสอบ (95%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 42.62 | 77.70 |
ความใหม่ล่าสุด | 7 กุมภาพันธ์ 2019 | 8 มกราคม 2024 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 295 วัตต์ | 220 วัตต์ |
Radeon VII มีข้อได้เปรียบ
ในทางกลับกัน RTX 4070 SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 82.3% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 40%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 34.1%
GeForce RTX 4070 SUPER เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon VII ในการทดสอบประสิทธิภาพ