GeForce RTX 4060 เทียบกับ Radeon RX Vega M GH
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX Vega M GH กับ GeForce RTX 4060 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4060 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX Vega M GH อย่างมหาศาลถึง 200% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 330 | 58 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 2 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 100.00 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.71 | 30.59 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Polaris 22 | AD107 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 1 กุมภาพันธ์ 2018 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 18 พฤษภาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $299 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1536 | 3072 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1063 MHz | 1830 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1190 MHz | 2460 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,000 million | 18,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 100 Watt | 115 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 114.2 | 236.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 3.656 TFLOPS | 15.11 TFLOPS |
ROPs | 64 | 48 |
TMUs | 96 | 96 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 96 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 24 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | IGP | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 240 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | ไม่มีข้อมูล | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 1024 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 800 MHz | 2125 MHz |
204.8 จีบี/s | 272.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | - | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 59
−129%
| 135
+129%
|
1440p | 38
−73.7%
| 66
+73.7%
|
4K | 28
−35.7%
| 38
+35.7%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 2.21 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 4.53 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 7.87 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 40−45
−407%
|
213
+407%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−366%
|
135
+366%
|
Cyberpunk 2077 | 39
−256%
|
139
+256%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 40−45
−279%
|
159
+279%
|
Battlefield 5 | 81
−82.7%
|
140−150
+82.7%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−276%
|
109
+276%
|
Cyberpunk 2077 | 30
−257%
|
107
+257%
|
Far Cry 5 | 55−60
−236%
|
185
+236%
|
Fortnite | 85−90
−129%
|
200−210
+129%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−176%
|
180−190
+176%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−441%
|
238
+441%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
−193%
|
170−180
+193%
|
Valorant | 120−130
−105%
|
260−270
+105%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 40−45
−124%
|
94
+124%
|
Battlefield 5 | 66
−124%
|
140−150
+124%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−214%
|
91
+214%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 200−210
−33.7%
|
270−280
+33.7%
|
Cyberpunk 2077 | 23
−291%
|
90
+291%
|
Dota 2 | 108
−178%
|
300−310
+178%
|
Far Cry 5 | 51
−231%
|
169
+231%
|
Fortnite | 85−90
−129%
|
200−210
+129%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−176%
|
180−190
+176%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−402%
|
221
+402%
|
Grand Theft Auto V | 60
−158%
|
155
+158%
|
Metro Exodus | 32
−234%
|
107
+234%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
−193%
|
170−180
+193%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 60
−258%
|
215
+258%
|
Valorant | 120−130
−105%
|
260−270
+105%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60
−147%
|
140−150
+147%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−162%
|
76
+162%
|
Cyberpunk 2077 | 23
−248%
|
80
+248%
|
Dota 2 | 95
−195%
|
280−290
+195%
|
Far Cry 5 | 47
−238%
|
159
+238%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−176%
|
180−190
+176%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−195%
|
130−140
+195%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
−193%
|
170−180
+193%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 34
−226%
|
111
+226%
|
Valorant | 120−130
−105%
|
260−270
+105%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 85−90
−129%
|
200−210
+129%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 110−120
−181%
|
300−350
+181%
|
Grand Theft Auto V | 24−27
−246%
|
90
+246%
|
Metro Exodus | 20−22
−215%
|
63
+215%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
−10.8%
|
170−180
+10.8%
|
Valorant | 160−170
−82%
|
290−300
+82%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 43
−172%
|
110−120
+172%
|
Counter-Strike 2 | 18−20
−189%
|
55−60
+189%
|
Cyberpunk 2077 | 4
−1100%
|
48
+1100%
|
Far Cry 5 | 35−40
−203%
|
109
+203%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−260%
|
140−150
+260%
|
Forza Horizon 5 | 27−30
−193%
|
85−90
+193%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 24−27
−208%
|
80
+208%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 35−40
−261%
|
130−140
+261%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 12−14
−208%
|
40−45
+208%
|
Counter-Strike 2 | 7−8
−257%
|
24−27
+257%
|
Grand Theft Auto V | 27−30
−207%
|
89
+207%
|
Metro Exodus | 11
−245%
|
38
+245%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 21−24
−205%
|
67
+205%
|
Valorant | 85−90
−217%
|
280−290
+217%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 21
−271%
|
75−80
+271%
|
Counter-Strike 2 | 7−8
−28.6%
|
9
+28.6%
|
Cyberpunk 2077 | 6−7
−233%
|
20
+233%
|
Dota 2 | 55−60
−198%
|
170−180
+198%
|
Far Cry 5 | 16−18
−218%
|
54
+218%
|
Forza Horizon 4 | 27−30
−254%
|
95−100
+254%
|
Forza Horizon 5 | 14−16
−186%
|
40−45
+186%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 14−16
−400%
|
75−80
+400%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 16−18
−319%
|
65−70
+319%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 35−40
+0%
|
35−40
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX Vega M GH และ RTX 4060 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4060 เร็วกว่า 129% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4060 เร็วกว่า 74% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4060 เร็วกว่า 36% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 4060 เร็วกว่า 1100%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4060 เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 17.07 | 51.29 |
ความใหม่ล่าสุด | 1 กุมภาพันธ์ 2018 | 18 พฤษภาคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 100 วัตต์ | 115 วัตต์ |
RX Vega M GH มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 15%
ในทางกลับกัน RTX 4060 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 200.5% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 5 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 180%
GeForce RTX 4060 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX Vega M GH ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX Vega M GH เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 4060 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป