GeForce RTX 5060 เทียบกับ Radeon RX 7900 XTX
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 7900 XTX และ GeForce RTX 5060 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7900 XTX มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 5060 อย่างน่าประทับใจ 50% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 12 | 69 |
จัดอันดับตามความนิยม | 59 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 33.26 | 100.00 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 15.76 | 25.71 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 3.0 (2022−2025) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 31 | GB206 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 3 พฤศจิกายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 19 พฤษภาคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $999 | $299 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 5060 มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 7900 XTX อยู่ 201%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 6144 | 3840 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1929 MHz | 2280 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2498 MHz | 2497 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 57,700 million | 21,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 355 Watt | 145 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 959.2 | 299.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 61.39 TFLOPS | 19.18 TFLOPS |
ROPs | 192 | 48 |
TMUs | 384 | 120 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 120 |
Ray Tracing Cores | 96 | 30 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 5.0 x8 |
ความยาว | 287 mm | 241 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2500 MHz | 1750 MHz |
960.0 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1a, 2x DisplayPort 2.1, 1x USB Type-C | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.4 |
CUDA | - | 12.0 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 238
+49.7%
| 159
−49.7%
|
1440p | 158
+103%
| 78
−103%
|
4K | 100
+92.3%
| 52
−92.3%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.20
−123%
| 1.88
+123%
|
1440p | 6.32
−64.9%
| 3.83
+64.9%
|
4K | 9.99
−73.7%
| 5.75
+73.7%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 355
+35%
|
260−270
−35%
|
Cyberpunk 2077 | 250
+107%
|
120−130
−107%
|
HELLDIVERS 2 | 211
+68.8%
|
120−130
−68.8%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 190−200
+25.7%
|
150−160
−25.7%
|
Counter-Strike 2 | 348
+32.3%
|
260−270
−32.3%
|
Cyberpunk 2077 | 240
+98.3%
|
120−130
−98.3%
|
Far Cry 5 | 212
−17.5%
|
249
+17.5%
|
Fortnite | 300−350
+38.5%
|
210−220
−38.5%
|
Forza Horizon 4 | 338
+76%
|
190−200
−76%
|
Forza Horizon 5 | 269
+75.8%
|
150−160
−75.8%
|
HELLDIVERS 2 | 203
+62.4%
|
120−130
−62.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0.6%
|
170−180
−0.6%
|
Valorant | 450−500
+66.9%
|
270−280
−66.9%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 190−200
+25.7%
|
150−160
−25.7%
|
Counter-Strike 2 | 339
+28.9%
|
260−270
−28.9%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 217
+79.3%
|
120−130
−79.3%
|
Dota 2 | 197
+51.5%
|
130−140
−51.5%
|
Far Cry 5 | 205
−10.7%
|
227
+10.7%
|
Fortnite | 300−350
+38.5%
|
210−220
−38.5%
|
Forza Horizon 4 | 330
+71.9%
|
190−200
−71.9%
|
Forza Horizon 5 | 254
+66%
|
150−160
−66%
|
Grand Theft Auto V | 175
−2.9%
|
180
+2.9%
|
HELLDIVERS 2 | 198
+58.4%
|
120−130
−58.4%
|
Metro Exodus | 239
+92.7%
|
120−130
−92.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0.6%
|
170−180
−0.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 545
+92.6%
|
283
−92.6%
|
Valorant | 450−500
+66.9%
|
270−280
−66.9%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+25.7%
|
150−160
−25.7%
|
Cyberpunk 2077 | 207
+71.1%
|
120−130
−71.1%
|
Dota 2 | 178
+61.8%
|
110−120
−61.8%
|
Far Cry 5 | 189
−12.7%
|
213
+12.7%
|
Forza Horizon 4 | 295
+53.6%
|
190−200
−53.6%
|
HELLDIVERS 2 | 197
+57.6%
|
120−130
−57.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0.6%
|
170−180
−0.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 298
+108%
|
143
−108%
|
Valorant | 450−500
+66.9%
|
270−280
−66.9%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+38.5%
|
210−220
−38.5%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 267
+93.5%
|
130−140
−93.5%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+44.5%
|
350−400
−44.5%
|
Grand Theft Auto V | 165
+26%
|
131
−26%
|
Metro Exodus | 161
+106%
|
75−80
−106%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
+57%
|
300−350
−57%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+59.3%
|
120−130
−59.3%
|
Cyberpunk 2077 | 146
+128%
|
60−65
−128%
|
Far Cry 5 | 187
+29%
|
145
−29%
|
Forza Horizon 4 | 290
+88.3%
|
150−160
−88.3%
|
HELLDIVERS 2 | 154
+90.1%
|
80−85
−90.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 238
+125%
|
106
−125%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+8.6%
|
130−140
−8.6%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 67
+6.3%
|
60−65
−6.3%
|
Grand Theft Auto V | 186
+48.8%
|
125
−48.8%
|
HELLDIVERS 2 | 53
+26.2%
|
40−45
−26.2%
|
Metro Exodus | 108
+125%
|
45−50
−125%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 197
+121%
|
89
−121%
|
Valorant | 300−350
+13%
|
290−300
−13%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+63.9%
|
80−85
−63.9%
|
Counter-Strike 2 | 43
−46.5%
|
60−65
+46.5%
|
Cyberpunk 2077 | 73
+143%
|
30−33
−143%
|
Dota 2 | 159
+59%
|
100−105
−59%
|
Far Cry 5 | 159
+112%
|
75
−112%
|
Forza Horizon 4 | 227
+112%
|
100−110
−112%
|
HELLDIVERS 2 | 83
+97.6%
|
40−45
−97.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+17.1%
|
80−85
−17.1%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+9.7%
|
70−75
−9.7%
|
นี่คือวิธีที่ RX 7900 XTX และ RTX 5060 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7900 XTX เร็วกว่า 50% ในความละเอียด 1080p
- RX 7900 XTX เร็วกว่า 103% ในความละเอียด 1440p
- RX 7900 XTX เร็วกว่า 92% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 7900 XTX เร็วกว่า 143%
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 5060 เร็วกว่า 47%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 7900 XTX เหนือกว่าใน 56การทดสอบ (89%)
- RTX 5060 เหนือกว่าใน 5การทดสอบ (8%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 74.65 | 49.78 |
ความใหม่ล่าสุด | 3 พฤศจิกายน 2022 | 19 พฤษภาคม 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 8 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 355 วัตต์ | 145 วัตต์ |
RX 7900 XTX มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 50% และ
ในทางกลับกัน RTX 5060 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 144.8%
Radeon RX 7900 XTX เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 5060 ในการทดสอบประสิทธิภาพ