Radeon RX 6600 เทียบกับ RX 7600
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 7600 และ Radeon RX 6600 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7600 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 6600 อย่างปานกลาง 10% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 87 | 118 |
จัดอันดับตามความนิยม | 89 | 14 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 93.50 | 66.17 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 18.03 | 20.51 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 3.0 (2022−2025) | RDNA 2.0 (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 33 | Navi 23 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 24 พฤษภาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) | 13 ตุลาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $269 | $329 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 7600 มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 6600 อยู่ 41%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 1792 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1720 MHz | 1626 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2655 MHz | 2491 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,300 million | 11,060 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 165 Watt | 132 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 339.8 | 279.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 21.75 TFLOPS | 8.928 TFLOPS |
ROPs | 64 | 64 |
TMUs | 128 | 112 |
Ray Tracing Cores | 32 | 28 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | 204 mm | 190 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2250 MHz | 1750 MHz |
288.0 จีบี/s | 224.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1a, 3x DisplayPort 2.1 | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12.0 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.2 | 2.1 |
Vulkan | 1.3 | 1.2 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 145
+30.6%
| 111
−30.6%
|
1440p | 67
+19.6%
| 56
−19.6%
|
4K | 35
+16.7%
| 30
−16.7%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 1.86
+59.8%
| 2.96
−59.8%
|
1440p | 4.01
+46.3%
| 5.88
−46.3%
|
4K | 7.69
+42.7%
| 10.97
−42.7%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 213
+26%
|
169
−26%
|
Counter-Strike 2 | 135
+21.6%
|
111
−21.6%
|
Cyberpunk 2077 | 148
+38.3%
|
107
−38.3%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 158
+31.7%
|
120
−31.7%
|
Battlefield 5 | 130−140
+6.3%
|
120−130
−6.3%
|
Counter-Strike 2 | 108
+28.6%
|
84
−28.6%
|
Cyberpunk 2077 | 117
+28.6%
|
91
−28.6%
|
Far Cry 5 | 183
+18.8%
|
154
−18.8%
|
Fortnite | 170−180
+7.5%
|
160−170
−7.5%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+9.2%
|
140−150
−9.2%
|
Forza Horizon 5 | 110−120
−4.2%
|
123
+4.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+7.6%
|
140−150
−7.6%
|
Valorant | 230−240
+6.9%
|
210−220
−6.9%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 93
+32.9%
|
70
−32.9%
|
Battlefield 5 | 130−140
+6.3%
|
120−130
−6.3%
|
Counter-Strike 2 | 90
+32.4%
|
68
−32.4%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0.4%
|
270−280
−0.4%
|
Cyberpunk 2077 | 100
+37%
|
73
−37%
|
Far Cry 5 | 174
+22.5%
|
142
−22.5%
|
Fortnite | 170−180
+7.5%
|
160−170
−7.5%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+9.2%
|
140−150
−9.2%
|
Forza Horizon 5 | 110−120
+20.4%
|
98
−20.4%
|
Grand Theft Auto V | 150
+9.5%
|
137
−9.5%
|
Metro Exodus | 113
+37.8%
|
82
−37.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+7.6%
|
140−150
−7.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 210
+42.9%
|
147
−42.9%
|
Valorant | 230−240
+6.9%
|
210−220
−6.9%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+6.3%
|
120−130
−6.3%
|
Counter-Strike 2 | 81
+37.3%
|
59
−37.3%
|
Cyberpunk 2077 | 90
+52.5%
|
59
−52.5%
|
Far Cry 5 | 163
+21.6%
|
134
−21.6%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+9.2%
|
140−150
−9.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+7.6%
|
140−150
−7.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 123
+36.7%
|
90
−36.7%
|
Valorant | 230−240
+6.9%
|
210−220
−6.9%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 170−180
+7.5%
|
160−170
−7.5%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
+6.7%
|
30−33
−6.7%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+10%
|
250−260
−10%
|
Grand Theft Auto V | 77
+20.3%
|
64
−20.3%
|
Metro Exodus | 65
+35.4%
|
48
−35.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 260−270
+4.8%
|
240−250
−4.8%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
+7.4%
|
90−95
−7.4%
|
Cyberpunk 2077 | 56
+64.7%
|
34
−64.7%
|
Far Cry 5 | 115
+26.4%
|
91
−26.4%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
+11.7%
|
100−110
−11.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 86
+26.5%
|
65−70
−26.5%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 100−110
+11.6%
|
95−100
−11.6%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 30−35
+13.8%
|
27−30
−13.8%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
+11.1%
|
18−20
−11.1%
|
Grand Theft Auto V | 82
+36.7%
|
60
−36.7%
|
Metro Exodus | 38
+31%
|
29
−31%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 59
+34.1%
|
44
−34.1%
|
Valorant | 240−250
+9.5%
|
220−230
−9.5%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
+10.3%
|
55−60
−10.3%
|
Counter-Strike 2 | 11
+57.1%
|
7
−57.1%
|
Cyberpunk 2077 | 24
+71.4%
|
14
−71.4%
|
Far Cry 5 | 57
+29.5%
|
44
−29.5%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
+13.2%
|
65−70
−13.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
+17%
|
45−50
−17%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 50−55
+15.2%
|
45−50
−15.2%
|
Full HD
High Preset
Dota 2 | 150
+0%
|
150
+0%
|
Full HD
Ultra Preset
Dota 2 | 107
+0%
|
107
+0%
|
Forza Horizon 5 | 85
+0%
|
85
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 60
+0%
|
60
+0%
|
4K
Ultra Preset
Dota 2 | 85
+0%
|
85
+0%
|
Forza Horizon 5 | 29
+0%
|
29
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX 7600 และ RX 6600 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7600 เร็วกว่า 31% ในความละเอียด 1080p
- RX 7600 เร็วกว่า 20% ในความละเอียด 1440p
- RX 7600 เร็วกว่า 17% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 7600 เร็วกว่า 71%
- ในเกม Forza Horizon 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RX 6600 เร็วกว่า 4%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 7600 เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (88%)
- RX 6600 เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (1%)
- เสมอกันใน 7การทดสอบ (10%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 42.68 | 38.84 |
ความใหม่ล่าสุด | 24 พฤษภาคม 2023 | 13 ตุลาคม 2021 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 6 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 165 วัตต์ | 132 วัตต์ |
RX 7600 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 9.9% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 16.7%
ในทางกลับกัน RX 6600 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 25%
ด้วยความแตกต่างของประสิทธิภาพที่น้อยมาก จึงไม่สามารถตัดสินผู้ชนะระหว่าง Radeon RX 7600 และ Radeon RX 6600 ได้อย่างชัดเจน