Radeon RX 7700 XT เทียบกับ RX 6800
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 6800 และ Radeon RX 7700 XT โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7700 XT มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 6800 อย่างน้อย 1% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 46 | 43 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 50.26 | 71.43 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 15.83 | 16.39 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 2.0 (2020−2024) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 21 | Navi 32 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 28 ตุลาคม 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 25 สิงหาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $579 | $449 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 7700 XT มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 6800 อยู่ 42%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3840 | 3456 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1700 MHz | 1435 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2105 MHz | 2544 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 26,800 million | 28,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 250 Watt | 245 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 505.2 | 549.5 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 16.17 TFLOPS | 35.17 TFLOPS |
ROPs | 96 | 96 |
TMUs | 240 | 216 |
Ray Tracing Cores | 60 | 54 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 2250 MHz |
512.0 จีบี/s | 432.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 2x DisplayPort, 1x USB Type-C | 1x HDMI 2.1a, 2x DisplayPort 2.1, 1x USB Type-C |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.1 | 2.2 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 177
−6.2%
| 188
+6.2%
|
1440p | 99
−3%
| 102
+3%
|
4K | 61
+7%
| 57
−7%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.27
−37%
| 2.39
+37%
|
1440p | 5.85
−32.9%
| 4.40
+32.9%
|
4K | 9.49
−20.5%
| 7.88
+20.5%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 262
−1.1%
|
265
+1.1%
|
Counter-Strike 2 | 186
+5.7%
|
176
−5.7%
|
Cyberpunk 2077 | 135
−43%
|
193
+43%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 198
−0.5%
|
199
+0.5%
|
Battlefield 5 | 150−160
−0.6%
|
150−160
+0.6%
|
Counter-Strike 2 | 148
+2.1%
|
145
−2.1%
|
Cyberpunk 2077 | 115
−37.4%
|
158
+37.4%
|
Far Cry 5 | 197
+4.8%
|
188
−4.8%
|
Fortnite | 230−240
−2.1%
|
230−240
+2.1%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
−35.6%
|
278
+35.6%
|
Forza Horizon 5 | 232
+45.9%
|
150−160
−45.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 290−300
−1.7%
|
290−300
+1.7%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 120
+0.8%
|
119
−0.8%
|
Battlefield 5 | 150−160
−0.6%
|
150−160
+0.6%
|
Counter-Strike 2 | 118
−2.5%
|
121
+2.5%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 104
−26.9%
|
132
+26.9%
|
Dota 2 | 145
+3.6%
|
140−150
−3.6%
|
Far Cry 5 | 186
+2.8%
|
181
−2.8%
|
Fortnite | 230−240
−2.1%
|
230−240
+2.1%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
−32.7%
|
272
+32.7%
|
Forza Horizon 5 | 210
+32.1%
|
150−160
−32.1%
|
Grand Theft Auto V | 159
−4.4%
|
166
+4.4%
|
Metro Exodus | 147
−3.4%
|
152
+3.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 269
−9.7%
|
295
+9.7%
|
Valorant | 290−300
−1.7%
|
290−300
+1.7%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 150−160
−0.6%
|
150−160
+0.6%
|
Counter-Strike 2 | 130−140
+20.9%
|
110
−20.9%
|
Cyberpunk 2077 | 99
−23.2%
|
122
+23.2%
|
Dota 2 | 128
+6.7%
|
120−130
−6.7%
|
Far Cry 5 | 174
+4.2%
|
167
−4.2%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
−12.7%
|
231
+12.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 152
−10.5%
|
168
+10.5%
|
Valorant | 290−300
−1.7%
|
290−300
+1.7%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 230−240
−2.1%
|
230−240
+2.1%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 40−45
−2.3%
|
45−50
+2.3%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 350−400
−2.1%
|
350−400
+2.1%
|
Grand Theft Auto V | 125
+19%
|
105
−19%
|
Metro Exodus | 89
−1.1%
|
90
+1.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 300−350
−2.1%
|
300−350
+2.1%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
−1.5%
|
130−140
+1.5%
|
Cyberpunk 2077 | 74
−8.1%
|
80
+8.1%
|
Far Cry 5 | 163
+3.8%
|
157
−3.8%
|
Forza Horizon 4 | 160−170
−18%
|
197
+18%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 110−120
−6.2%
|
120
+6.2%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 140−150
−1.4%
|
150−160
+1.4%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 45−50
+0%
|
45−50
+0%
|
Counter-Strike 2 | 30−33
−3.3%
|
30−35
+3.3%
|
Grand Theft Auto V | 132
+17.9%
|
112
−17.9%
|
Metro Exodus | 55
−3.6%
|
57
+3.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 99
+11.2%
|
89
−11.2%
|
Valorant | 300−350
−1%
|
300−350
+1%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 90−95
−1.1%
|
90−95
+1.1%
|
Counter-Strike 2 | 14
−14.3%
|
16
+14.3%
|
Cyberpunk 2077 | 34
−5.9%
|
36
+5.9%
|
Dota 2 | 102
+2%
|
100−105
−2%
|
Far Cry 5 | 91
+11%
|
82
−11%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
−13.6%
|
134
+13.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 90−95
−3.3%
|
90−95
+3.3%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
−1.3%
|
75−80
+1.3%
|
นี่คือวิธีที่ RX 6800 และ RX 7700 XT แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7700 XT เร็วกว่า 6% ในความละเอียด 1080p
- RX 7700 XT เร็วกว่า 3% ในความละเอียด 1440p
- RX 6800 เร็วกว่า 7% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Forza Horizon 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RX 6800 เร็วกว่า 46%
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RX 7700 XT เร็วกว่า 43%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 6800 เหนือกว่าใน 14การทดสอบ (23%)
- RX 7700 XT เหนือกว่าใน 41การทดสอบ (67%)
- เสมอกันใน 6การทดสอบ (10%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 56.77 | 57.61 |
ความใหม่ล่าสุด | 28 ตุลาคม 2020 | 25 สิงหาคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 250 วัตต์ | 245 วัตต์ |
RX 6800 มีข้อได้เปรียบ
ในทางกลับกัน RX 7700 XT มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 1.5% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 40%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 2%
ด้วยความแตกต่างของประสิทธิภาพที่น้อยมาก จึงไม่สามารถตัดสินผู้ชนะระหว่าง Radeon RX 6800 และ Radeon RX 7700 XT ได้อย่างชัดเจน