Radeon RX 7800 XT เทียบกับ RX 6650 XT
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 6650 XT และ Radeon RX 7800 XT โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7800 XT มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 6650 XT อย่างน่าสนใจ 41% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 82 | 33 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 66 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 62.74 | 67.93 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 17.47 | 16.46 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 2.0 (2020−2024) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 23 | Navi 32 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 10 พฤษภาคม 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 25 สิงหาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $399 | $499 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 7800 XT มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 6650 XT อยู่ 8%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 3840 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2055 MHz | 1295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2635 MHz | 2430 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 11,060 million | 28,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 176 Watt | 263 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 337.3 | 583.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 10.79 TFLOPS | 37.32 TFLOPS |
ROPs | 64 | 96 |
TMUs | 128 | 240 |
Ray Tracing Cores | 32 | 60 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2190 MHz | 2438 MHz |
280.3 จีบี/s | 624.1 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1a, 3x DisplayPort 2.1 |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.1 | 2.2 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 142
−52.1%
| 216
+52.1%
|
1440p | 66
−87.9%
| 124
+87.9%
|
4K | 36
−97.2%
| 71
+97.2%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.81
−21.6%
| 2.31
+21.6%
|
1440p | 6.05
−50.2%
| 4.02
+50.2%
|
4K | 11.08
−57.7%
| 7.03
+57.7%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 212
−52.8%
|
324
+52.8%
|
Counter-Strike 2 | 137
−75.9%
|
241
+75.9%
|
Cyberpunk 2077 | 128
−93.8%
|
248
+93.8%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 153
−58.8%
|
243
+58.8%
|
Battlefield 5 | 130−140
−19.7%
|
160−170
+19.7%
|
Counter-Strike 2 | 104
−92.3%
|
200
+92.3%
|
Cyberpunk 2077 | 108
−81.5%
|
196
+81.5%
|
Far Cry 5 | 173
−17.9%
|
204
+17.9%
|
Fortnite | 170−180
−50.8%
|
260−270
+50.8%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
−74.8%
|
278
+74.8%
|
Forza Horizon 5 | 133
−108%
|
276
+108%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
−10.6%
|
170−180
+10.6%
|
Valorant | 230−240
−35.6%
|
300−350
+35.6%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 89
−62.9%
|
145
+62.9%
|
Battlefield 5 | 130−140
−19.7%
|
160−170
+19.7%
|
Counter-Strike 2 | 84
−94%
|
163
+94%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 88
−85.2%
|
163
+85.2%
|
Dota 2 | 171
−40.4%
|
240−250
+40.4%
|
Far Cry 5 | 163
−20.2%
|
196
+20.2%
|
Fortnite | 170−180
−50.8%
|
260−270
+50.8%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
−64.2%
|
261
+64.2%
|
Forza Horizon 5 | 120−130
−110%
|
256
+110%
|
Grand Theft Auto V | 147
−21.1%
|
178
+21.1%
|
Metro Exodus | 102
−68.6%
|
172
+68.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
−10.6%
|
170−180
+10.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 182
−101%
|
366
+101%
|
Valorant | 230−240
−35.6%
|
300−350
+35.6%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
−19.7%
|
160−170
+19.7%
|
Counter-Strike 2 | 74
−101%
|
149
+101%
|
Cyberpunk 2077 | 78
−92.3%
|
150
+92.3%
|
Dota 2 | 136
−39.7%
|
190−200
+39.7%
|
Far Cry 5 | 151
−20.5%
|
182
+20.5%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
−39.6%
|
222
+39.6%
|
Forza Horizon 5 | 107
−40.2%
|
150−160
+40.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
−10.6%
|
170−180
+10.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 107
−86.9%
|
200
+86.9%
|
Valorant | 230−240
−35.6%
|
300−350
+35.6%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 170−180
−50.8%
|
260−270
+50.8%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
−54.5%
|
50−55
+54.5%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 280−290
−50%
|
400−450
+50%
|
Grand Theft Auto V | 77
−81.8%
|
140
+81.8%
|
Metro Exodus | 58
−82.8%
|
106
+82.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 260−270
−38.7%
|
350−400
+38.7%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
−37.5%
|
140−150
+37.5%
|
Cyberpunk 2077 | 44
−125%
|
99
+125%
|
Far Cry 5 | 114
−54.4%
|
176
+54.4%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−68.3%
|
202
+68.3%
|
Forza Horizon 5 | 70−75
−37%
|
100−105
+37%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 80−85
−83.8%
|
147
+83.8%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 110−120
−37.3%
|
150−160
+37.3%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 30−35
−50%
|
50−55
+50%
|
Counter-Strike 2 | 21−24
−71.4%
|
35−40
+71.4%
|
Grand Theft Auto V | 72
−111%
|
152
+111%
|
Metro Exodus | 37
−70.3%
|
63
+70.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 56
−111%
|
118
+111%
|
Valorant | 250−260
−28%
|
300−350
+28%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 65−70
−53%
|
100−110
+53%
|
Counter-Strike 2 | 8
−163%
|
21
+163%
|
Cyberpunk 2077 | 18
−150%
|
45
+150%
|
Dota 2 | 97
−34%
|
130−140
+34%
|
Far Cry 5 | 55
−89.1%
|
104
+89.1%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
−105%
|
164
+105%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
−38.3%
|
65−70
+38.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
−65.5%
|
95−100
+65.5%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 55−60
−43.6%
|
75−80
+43.6%
|
นี่คือวิธีที่ RX 6650 XT และ RX 7800 XT แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7800 XT เร็วกว่า 52% ในความละเอียด 1080p
- RX 7800 XT เร็วกว่า 88% ในความละเอียด 1440p
- RX 7800 XT เร็วกว่า 97% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 7800 XT เร็วกว่า 163%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 7800 XT เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 44.10 | 62.10 |
ความใหม่ล่าสุด | 10 พฤษภาคม 2022 | 25 สิงหาคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 176 วัตต์ | 263 วัตต์ |
RX 6650 XT มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 49.4%
ในทางกลับกัน RX 7800 XT มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 40.8% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 40%
Radeon RX 7800 XT เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 6650 XT ในการทดสอบประสิทธิภาพ