Radeon RX 7900 XTX เทียบกับ RX 6650 XT
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 6650 XT และ Radeon RX 7900 XTX โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7900 XTX มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 6650 XT อย่างน่าประทับใจ 81% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 82 | 9 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 53 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 62.73 | 34.83 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 17.47 | 15.64 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 2.0 (2020−2024) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 23 | Navi 31 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 10 พฤษภาคม 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 3 พฤศจิกายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $399 | $999 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 6650 XT มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 7900 XTX อยู่ 80%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 6144 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2055 MHz | 1929 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2635 MHz | 2498 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 11,060 million | 57,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 176 Watt | 355 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 337.3 | 959.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 10.79 TFLOPS | 61.39 TFLOPS |
ROPs | 64 | 192 |
TMUs | 128 | 384 |
Ray Tracing Cores | 32 | 96 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 287 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 24 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 384 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2190 MHz | 2500 MHz |
280.3 จีบี/s | 960.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1a, 2x DisplayPort 2.1, 1x USB Type-C |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.1 | 2.2 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 142
−71.1%
| 243
+71.1%
|
1440p | 66
−148%
| 164
+148%
|
4K | 36
−181%
| 101
+181%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.81
+46.3%
| 4.11
−46.3%
|
1440p | 6.05
+0.8%
| 6.09
−0.8%
|
4K | 11.08
−12.1%
| 9.89
+12.1%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 212
−69.3%
|
359
+69.3%
|
Counter-Strike 2 | 137
−56.2%
|
214
+56.2%
|
Cyberpunk 2077 | 128
−95.3%
|
250
+95.3%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 153
−89.5%
|
290
+89.5%
|
Battlefield 5 | 130−140
−38.7%
|
190−200
+38.7%
|
Counter-Strike 2 | 104
−132%
|
241
+132%
|
Cyberpunk 2077 | 108
−122%
|
240
+122%
|
Far Cry 5 | 173
−22.5%
|
212
+22.5%
|
Fortnite | 170−180
−70.6%
|
300−350
+70.6%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
−113%
|
338
+113%
|
Forza Horizon 5 | 133
−102%
|
269
+102%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
−10.6%
|
170−180
+10.6%
|
Valorant | 230−240
−91.5%
|
450−500
+91.5%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 89
−124%
|
199
+124%
|
Battlefield 5 | 130−140
−38.7%
|
190−200
+38.7%
|
Counter-Strike 2 | 84
−162%
|
220
+162%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 88
−147%
|
217
+147%
|
Dota 2 | 171
−15.2%
|
197
+15.2%
|
Far Cry 5 | 163
−25.8%
|
205
+25.8%
|
Fortnite | 170−180
−70.6%
|
300−350
+70.6%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
−108%
|
330
+108%
|
Forza Horizon 5 | 120−130
−108%
|
254
+108%
|
Grand Theft Auto V | 147
−19%
|
175
+19%
|
Metro Exodus | 102
−134%
|
239
+134%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
−10.6%
|
170−180
+10.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 182
−199%
|
545
+199%
|
Valorant | 230−240
−91.5%
|
450−500
+91.5%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
−38.7%
|
190−200
+38.7%
|
Counter-Strike 2 | 74
−178%
|
206
+178%
|
Cyberpunk 2077 | 78
−165%
|
207
+165%
|
Dota 2 | 136
−30.9%
|
178
+30.9%
|
Far Cry 5 | 151
−25.2%
|
189
+25.2%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
−85.5%
|
295
+85.5%
|
Forza Horizon 5 | 107
−77.6%
|
190−200
+77.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
−10.6%
|
170−180
+10.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 107
−179%
|
298
+179%
|
Valorant | 230−240
−91.5%
|
450−500
+91.5%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 170−180
−70.6%
|
300−350
+70.6%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
−176%
|
90−95
+176%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 280−290
−81.7%
|
500−550
+81.7%
|
Grand Theft Auto V | 77
−114%
|
165
+114%
|
Metro Exodus | 58
−178%
|
161
+178%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 260−270
−82.3%
|
450−500
+82.3%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
−88.5%
|
190−200
+88.5%
|
Cyberpunk 2077 | 44
−232%
|
146
+232%
|
Far Cry 5 | 114
−64%
|
187
+64%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−142%
|
290
+142%
|
Forza Horizon 5 | 70−75
−78.1%
|
130−140
+78.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 80−85
−203%
|
242
+203%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 110−120
−37.3%
|
150−160
+37.3%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 30−35
−118%
|
70−75
+118%
|
Counter-Strike 2 | 21−24
−200%
|
60−65
+200%
|
Grand Theft Auto V | 72
−158%
|
186
+158%
|
Metro Exodus | 37
−192%
|
108
+192%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 56
−257%
|
200
+257%
|
Valorant | 250−260
−32.8%
|
300−350
+32.8%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 65−70
−106%
|
130−140
+106%
|
Counter-Strike 2 | 8
−588%
|
55
+588%
|
Cyberpunk 2077 | 18
−306%
|
73
+306%
|
Dota 2 | 97
−63.9%
|
159
+63.9%
|
Far Cry 5 | 55
−189%
|
159
+189%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
−184%
|
227
+184%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
−70.2%
|
80−85
+70.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
−65.5%
|
95−100
+65.5%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 55−60
−43.6%
|
75−80
+43.6%
|
นี่คือวิธีที่ RX 6650 XT และ RX 7900 XTX แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7900 XTX เร็วกว่า 71% ในความละเอียด 1080p
- RX 7900 XTX เร็วกว่า 148% ในความละเอียด 1440p
- RX 7900 XTX เร็วกว่า 181% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 7900 XTX เร็วกว่า 588%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 7900 XTX เหนือกว่าใน 62การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 44.41 | 80.26 |
ความใหม่ล่าสุด | 10 พฤษภาคม 2022 | 3 พฤศจิกายน 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 24 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 176 วัตต์ | 355 วัตต์ |
RX 6650 XT มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 101.7%
ในทางกลับกัน RX 7900 XTX มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 80.7% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 5 เดือนและและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 40%
Radeon RX 7900 XTX เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 6650 XT ในการทดสอบประสิทธิภาพ