Radeon RX 7800 XT เทียบกับ Pro WX 3200
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon Pro WX 3200 กับ Radeon RX 7800 XT รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX 7800 XT มีประสิทธิภาพดีกว่า Pro WX 3200 อย่างมหาศาลถึง 902% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 591 | 35 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 66 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 13.61 | 68.02 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 6.62 | 16.40 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | Polaris 23 | Navi 32 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชัน | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 2 กรกฎาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 25 สิงหาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $199 | $499 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 7800 XT มีความคุ้มค่ามากกว่า Pro WX 3200 อยู่ 400%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 640 | 3840 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1082 MHz | 1295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | ไม่มีข้อมูล | 2430 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 2,200 million | 28,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 65 Watt | 263 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 34.62 | 583.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 1.385 TFLOPS | 37.32 TFLOPS |
ROPs | 16 | 96 |
TMUs | 32 | 240 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 60 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x8 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 267 mm |
ความกว้าง | MXM Module | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1000 MHz | 2438 MHz |
64 จีบี/s | 624.1 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 4x mini-DisplayPort | 1x HDMI 2.1a, 3x DisplayPort 2.1 |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 19
−1016%
| 212
+1016%
|
1440p | 12−14
−925%
| 123
+925%
|
4K | 8
−800%
| 72
+800%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 10.47
−345%
| 2.35
+345%
|
1440p | 16.58
−309%
| 4.06
+309%
|
4K | 24.88
−259%
| 6.93
+259%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 14−16
−2214%
|
324
+2214%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−1200%
|
351
+1200%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
−1967%
|
248
+1967%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 14−16
−1636%
|
243
+1636%
|
Battlefield 5 | 24−27
−560%
|
160−170
+560%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−1215%
|
355
+1215%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
−1533%
|
196
+1533%
|
Far Cry 5 | 20
−920%
|
204
+920%
|
Fortnite | 35−40
−663%
|
260−270
+663%
|
Forza Horizon 4 | 27−30
−930%
|
278
+930%
|
Forza Horizon 5 | 16−18
−1625%
|
276
+1625%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 21−24
−705%
|
170−180
+705%
|
Valorant | 65−70
−378%
|
300−350
+378%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 14−16
−936%
|
145
+936%
|
Battlefield 5 | 24−27
−560%
|
160−170
+560%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−948%
|
283
+948%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 95−100
−184%
|
270−280
+184%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
−1258%
|
163
+1258%
|
Dota 2 | 49
−818%
|
450−500
+818%
|
Far Cry 5 | 18
−989%
|
196
+989%
|
Fortnite | 35−40
−663%
|
260−270
+663%
|
Forza Horizon 4 | 27−30
−867%
|
261
+867%
|
Forza Horizon 5 | 16−18
−1500%
|
256
+1500%
|
Grand Theft Auto V | 21−24
−748%
|
178
+748%
|
Metro Exodus | 10
−1620%
|
172
+1620%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 21−24
−705%
|
170−180
+705%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 15
−2340%
|
366
+2340%
|
Valorant | 65−70
−378%
|
300−350
+378%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 24−27
−560%
|
160−170
+560%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
−1150%
|
150
+1150%
|
Dota 2 | 35
−900%
|
350−400
+900%
|
Far Cry 5 | 17
−971%
|
182
+971%
|
Forza Horizon 4 | 27−30
−722%
|
222
+722%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 21−24
−705%
|
170−180
+705%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 10
−1900%
|
200
+1900%
|
Valorant | 65−70
−378%
|
300−350
+378%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 35−40
−663%
|
260−270
+663%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 9−10
−1844%
|
175
+1844%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 45−50
−853%
|
400−450
+853%
|
Grand Theft Auto V | 7−8
−1900%
|
140
+1900%
|
Metro Exodus | 5−6
−2020%
|
106
+2020%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 35−40
−373%
|
170−180
+373%
|
Valorant | 65−70
−462%
|
350−400
+462%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 9−10
−1489%
|
140−150
+1489%
|
Cyberpunk 2077 | 5−6
−1880%
|
99
+1880%
|
Far Cry 5 | 12−14
−1367%
|
176
+1367%
|
Forza Horizon 4 | 14−16
−1343%
|
202
+1343%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 9−10
−1533%
|
147
+1533%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 12−14
−1158%
|
150−160
+1158%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 5−6
−920%
|
50−55
+920%
|
Grand Theft Auto V | 16−18
−794%
|
152
+794%
|
Metro Exodus | 0−1 | 63 |
The Witcher 3: Wild Hunt | 5
−2260%
|
118
+2260%
|
Valorant | 30−33
−967%
|
300−350
+967%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 4−5
−2425%
|
100−110
+2425%
|
Cyberpunk 2077 | 2−3
−2150%
|
45
+2150%
|
Dota 2 | 9
−900%
|
90−95
+900%
|
Far Cry 5 | 6−7
−1633%
|
104
+1633%
|
Forza Horizon 4 | 9−10
−1722%
|
164
+1722%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 6−7
−1500%
|
95−100
+1500%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 6−7
−1217%
|
75−80
+1217%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 42
+0%
|
42
+0%
|
4K
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 75−80
+0%
|
75−80
+0%
|
นี่คือวิธีที่ Pro WX 3200 และ RX 7800 XT แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7800 XT เร็วกว่า 1016% ในความละเอียด 1080p
- RX 7800 XT เร็วกว่า 925% ในความละเอียด 1440p
- RX 7800 XT เร็วกว่า 800% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Battlefield 5 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 7800 XT เร็วกว่า 2425%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 7800 XT เหนือกว่าใน 57การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 5.40 | 54.13 |
ความใหม่ล่าสุด | 2 กรกฎาคม 2019 | 25 สิงหาคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 65 วัตต์ | 263 วัตต์ |
Pro WX 3200 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 304.6%
ในทางกลับกัน RX 7800 XT มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 902.4% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 180%
Radeon RX 7800 XT เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon Pro WX 3200 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon Pro WX 3200 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน ในขณะที่ Radeon RX 7800 XT เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป