GeForce RTX 4070 SUPER เทียบกับ Radeon Pro Vega 56
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon Pro Vega 56 กับ GeForce RTX 4070 SUPER รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4070 SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า Pro Vega 56 อย่างมหาศาลถึง 143% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 179 | 11 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 18 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 46.01 | 67.50 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 10.53 | 24.45 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.0 (2017−2020) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 10 | AD104 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชันแบบพกพา | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 14 สิงหาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $399 | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4070 SUPER มีความคุ้มค่ามากกว่า Pro Vega 56 อยู่ 47%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3584 | 7168 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1138 MHz | 1980 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1250 MHz | 2475 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,500 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 210 Watt | 220 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 280.0 | 554.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 8.96 TFLOPS | 35.48 TFLOPS |
ROPs | 64 | 80 |
TMUs | 224 | 224 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 224 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 56 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 267 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 2048 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 786 MHz | 1313 MHz |
402.4 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.1.125 | 1.3 |
CUDA | - | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 96
−130%
| 221
+130%
|
1440p | 55−60
−149%
| 137
+149%
|
4K | 57
−42.1%
| 81
+42.1%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.16
−53.3%
| 2.71
+53.3%
|
1440p | 7.25
−65.9%
| 4.37
+65.9%
|
4K | 7.00
+5.6%
| 7.40
−5.6%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 85−90
−155%
|
210−220
+155%
|
Counter-Strike 2 | 60−65
−195%
|
186
+195%
|
Cyberpunk 2077 | 65−70
−193%
|
196
+193%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 85−90
−155%
|
210−220
+155%
|
Battlefield 5 | 110−120
−66.1%
|
180−190
+66.1%
|
Counter-Strike 2 | 60−65
−189%
|
182
+189%
|
Cyberpunk 2077 | 65−70
−175%
|
184
+175%
|
Far Cry 5 | 95−100
−107%
|
203
+107%
|
Fortnite | 130−140
−119%
|
300−350
+119%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
−150%
|
290−300
+150%
|
Forza Horizon 5 | 85−90
−138%
|
200−210
+138%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−48.7%
|
170−180
+48.7%
|
Valorant | 190−200
−125%
|
400−450
+125%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 85−90
−155%
|
210−220
+155%
|
Battlefield 5 | 110−120
−66.1%
|
180−190
+66.1%
|
Counter-Strike 2 | 60−65
−152%
|
159
+152%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−1.5%
|
270−280
+1.5%
|
Cyberpunk 2077 | 65−70
−137%
|
159
+137%
|
Dota 2 | 107
−143%
|
260−270
+143%
|
Far Cry 5 | 95−100
−104%
|
200
+104%
|
Fortnite | 130−140
−119%
|
300−350
+119%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
−150%
|
290−300
+150%
|
Forza Horizon 5 | 85−90
−138%
|
200−210
+138%
|
Grand Theft Auto V | 100−110
−64.8%
|
173
+64.8%
|
Metro Exodus | 65−70
−172%
|
185
+172%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−48.7%
|
170−180
+48.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 116
−255%
|
412
+255%
|
Valorant | 190−200
−125%
|
400−450
+125%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
−66.1%
|
180−190
+66.1%
|
Counter-Strike 2 | 60−65
−121%
|
139
+121%
|
Cyberpunk 2077 | 65−70
−115%
|
144
+115%
|
Dota 2 | 102
−135%
|
240−250
+135%
|
Far Cry 5 | 95−100
−93.9%
|
190
+93.9%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
−150%
|
290−300
+150%
|
Forza Horizon 5 | 85−90
−141%
|
210−220
+141%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−48.7%
|
170−180
+48.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 64
−214%
|
201
+214%
|
Valorant | 190−200
−125%
|
400−450
+125%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 130−140
−119%
|
300−350
+119%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 24−27
−223%
|
80−85
+223%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 200−210
−149%
|
500−550
+149%
|
Grand Theft Auto V | 55−60
−160%
|
148
+160%
|
Metro Exodus | 40−45
−181%
|
118
+181%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 220−230
−113%
|
450−500
+113%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 80−85
−137%
|
190−200
+137%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−188%
|
92
+188%
|
Far Cry 5 | 70−75
−161%
|
183
+161%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
−224%
|
250−260
+224%
|
Forza Horizon 5 | 50−55
−126%
|
120−130
+126%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 50−55
−191%
|
154
+191%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 75−80
−101%
|
150−160
+101%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 24−27
−196%
|
70−75
+196%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−314%
|
55−60
+314%
|
Grand Theft Auto V | 55−60
−181%
|
166
+181%
|
Metro Exodus | 24−27
−185%
|
74
+185%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 42
−217%
|
133
+217%
|
Valorant | 180−190
−84.4%
|
300−350
+84.4%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 45−50
−189%
|
130−140
+189%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−35.7%
|
19
+35.7%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−214%
|
44
+214%
|
Dota 2 | 96
−140%
|
230−240
+140%
|
Far Cry 5 | 35−40
−186%
|
103
+186%
|
Forza Horizon 4 | 50−55
−304%
|
210−220
+304%
|
Forza Horizon 5 | 30−33
−133%
|
70−75
+133%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 35−40
−174%
|
95−100
+174%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 35−40
−126%
|
75−80
+126%
|
นี่คือวิธีที่ Pro Vega 56 และ RTX 4070 SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 130% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 149% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 42% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 314%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 SUPER เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 31.72 | 77.16 |
ความใหม่ล่าสุด | 14 สิงหาคม 2017 | 8 มกราคม 2024 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 210 วัตต์ | 220 วัตต์ |
Pro Vega 56 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 4.8%
ในทางกลับกัน RTX 4070 SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 143.3% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 6 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 180%
GeForce RTX 4070 SUPER เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon Pro Vega 56 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon Pro Vega 56 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพา ในขณะที่ GeForce RTX 4070 SUPER เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป