GeForce RTX 3080 เทียบกับ Radeon Pro Vega 56
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon Pro Vega 56 กับ GeForce RTX 3080 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 3080 มีประสิทธิภาพดีกว่า Pro Vega 56 อย่างมหาศาลถึง 104% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 175 | 26 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 46.66 | 46.38 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 10.55 | 14.12 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.0 (2017−2020) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 10 | GA102 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชันแบบพกพา | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 14 สิงหาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 1 กันยายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $399 | $699 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
Pro Vega 56 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 3080 อยู่ 1%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3584 | 8704 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1138 MHz | 1440 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1250 MHz | 1710 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,500 million | 28,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 210 Watt | 320 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 280.0 | 465.1 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 8.96 TFLOPS | 29.77 TFLOPS |
ROPs | 64 | 96 |
TMUs | 224 | 272 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 272 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 68 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 285 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 10 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 2048 Bit | 320 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 786 MHz | 1188 MHz |
402.4 จีบี/s | 760.3 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.0 |
Vulkan | 1.1.125 | 1.2 |
CUDA | - | 8.5 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 100
−68%
| 168
+68%
|
1440p | 60−65
−108%
| 125
+108%
|
4K | 61
−42.6%
| 87
+42.6%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.99
+4.3%
| 4.16
−4.3%
|
1440p | 6.65
−18.9%
| 5.59
+18.9%
|
4K | 6.54
+22.8%
| 8.03
−22.8%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 60−65
−144%
|
150−160
+144%
|
Cyberpunk 2077 | 65−70
−124%
|
150−160
+124%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 90−95
−27.2%
|
110−120
+27.2%
|
Counter-Strike 2 | 60−65
−144%
|
150−160
+144%
|
Cyberpunk 2077 | 65−70
−98.5%
|
133
+98.5%
|
Forza Horizon 4 | 140−150
−157%
|
383
+157%
|
Forza Horizon 5 | 80−85
−81%
|
152
+81%
|
Metro Exodus | 80−85
−59.3%
|
129
+59.3%
|
Red Dead Redemption 2 | 65−70
−98.5%
|
131
+98.5%
|
Valorant | 120−130
−116%
|
277
+116%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 90−95
−27.2%
|
110−120
+27.2%
|
Counter-Strike 2 | 60−65
−144%
|
150−160
+144%
|
Cyberpunk 2077 | 65−70
−86.6%
|
125
+86.6%
|
Dota 2 | 36
−308%
|
147
+308%
|
Far Cry 5 | 85−90
−39.8%
|
123
+39.8%
|
Fortnite | 150−160
−70.7%
|
250−260
+70.7%
|
Forza Horizon 4 | 140−150
−119%
|
326
+119%
|
Forza Horizon 5 | 80−85
−110%
|
176
+110%
|
Grand Theft Auto V | 100−110
−40%
|
147
+40%
|
Metro Exodus | 80−85
−46.9%
|
119
+46.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 180−190
−17.5%
|
210−220
+17.5%
|
Red Dead Redemption 2 | 65−70
−80.3%
|
119
+80.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 100−110
−59.6%
|
170−180
+59.6%
|
Valorant | 120−130
−56.3%
|
200
+56.3%
|
World of Tanks | 270−280
−1.1%
|
270−280
+1.1%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 90−95
−27.2%
|
110−120
+27.2%
|
Counter-Strike 2 | 60−65
−144%
|
150−160
+144%
|
Cyberpunk 2077 | 65−70
−74.6%
|
117
+74.6%
|
Dota 2 | 102
−32.4%
|
135
+32.4%
|
Far Cry 5 | 85−90
−43.2%
|
120−130
+43.2%
|
Forza Horizon 4 | 140−150
−92.6%
|
287
+92.6%
|
Forza Horizon 5 | 80−85
−66.7%
|
140
+66.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 180−190
−17.5%
|
210−220
+17.5%
|
Valorant | 120−130
−109%
|
268
+109%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 55−60
−96.5%
|
112
+96.5%
|
Grand Theft Auto V | 55−60
−96.5%
|
112
+96.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Red Dead Redemption 2 | 30−35
−171%
|
84
+171%
|
World of Tanks | 200−210
−116%
|
400−450
+116%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
−40.3%
|
85−90
+40.3%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−169%
|
85−90
+169%
|
Cyberpunk 2077 | 30−33
−163%
|
79
+163%
|
Far Cry 5 | 100−110
−58.4%
|
160−170
+58.4%
|
Forza Horizon 4 | 85−90
−146%
|
219
+146%
|
Forza Horizon 5 | 50−55
−142%
|
126
+142%
|
Metro Exodus | 70−75
−48.6%
|
107
+48.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 50−55
−173%
|
140−150
+173%
|
Valorant | 90−95
−167%
|
248
+167%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
−155%
|
75−80
+155%
|
Dota 2 | 55−60
−142%
|
143
+142%
|
Grand Theft Auto V | 55−60
−142%
|
143
+142%
|
Metro Exodus | 24−27
−150%
|
65
+150%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 100−110
−107%
|
200−210
+107%
|
Red Dead Redemption 2 | 20−22
−180%
|
56
+180%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 55−60
−142%
|
143
+142%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 35−40
−133%
|
80−85
+133%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−155%
|
75−80
+155%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
−242%
|
41
+242%
|
Dota 2 | 96
−34.4%
|
129
+34.4%
|
Far Cry 5 | 45−50
−133%
|
100−110
+133%
|
Fortnite | 40−45
−123%
|
95−100
+123%
|
Forza Horizon 4 | 50−55
−165%
|
135
+165%
|
Forza Horizon 5 | 27−30
−169%
|
78
+169%
|
Valorant | 45−50
−226%
|
153
+226%
|
นี่คือวิธีที่ Pro Vega 56 และ RTX 3080 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 เร็วกว่า 68% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3080 เร็วกว่า 108% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3080 เร็วกว่า 43% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Dota 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 3080 เร็วกว่า 308%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 เหนือกว่าใน 63การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 32.14 | 65.53 |
ความใหม่ล่าสุด | 14 สิงหาคม 2017 | 1 กันยายน 2020 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 10 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 210 วัตต์ | 320 วัตต์ |
Pro Vega 56 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 52.4%
ในทางกลับกัน RTX 3080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 103.9% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 75%
GeForce RTX 3080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon Pro Vega 56 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon Pro Vega 56 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพา ในขณะที่ GeForce RTX 3080 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ