GeForce RTX 3060 เทียบกับ Radeon Pro 5500M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon Pro 5500M กับ GeForce RTX 3060 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 3060 มีประสิทธิภาพดีกว่า Pro 5500M อย่างมหาศาลถึง 152% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 327 | 91 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 4 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 67.51 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 14.15 | 17.81 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 1.0 (2019−2020) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 14 | GA106 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชันแบบพกพา | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 13 พฤศจิกายน 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 12 มกราคม 2021 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $329 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1536 | 3584 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1000 MHz | 1320 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1450 MHz | 1777 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,400 million | 12,000 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 85 Watt | 170 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 139.2 | 199.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 4.454 TFLOPS | 12.74 TFLOPS |
ROPs | 32 | 48 |
TMUs | 96 | 112 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 112 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 28 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 242 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | 1875 MHz |
192.0 จีบี/s | 360.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | - | 8.6 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 57
−102%
| 115
+102%
|
1440p | 59
−13.6%
| 67
+13.6%
|
4K | 32
−34.4%
| 43
+34.4%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 2.86 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 4.91 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 7.65 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 90−95
−146%
|
230−240
+146%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−126%
|
79
+126%
|
Hogwarts Legacy | 30−35
−216%
|
95−100
+216%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 76
−80.3%
|
130−140
+80.3%
|
Counter-Strike 2 | 90−95
−146%
|
230−240
+146%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−123%
|
78
+123%
|
Far Cry 5 | 55−60
−165%
|
146
+165%
|
Fortnite | 90−95
−94.5%
|
170−180
+94.5%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−132%
|
150−160
+132%
|
Forza Horizon 5 | 31
−300%
|
124
+300%
|
Hogwarts Legacy | 30−35
−216%
|
95−100
+216%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 60−65
−161%
|
150−160
+161%
|
Valorant | 130−140
−80.8%
|
230−240
+80.8%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 62
−121%
|
130−140
+121%
|
Counter-Strike 2 | 90−95
−146%
|
230−240
+146%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 208
−33.7%
|
270−280
+33.7%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−114%
|
75
+114%
|
Dota 2 | 111
−40.5%
|
156
+40.5%
|
Far Cry 5 | 55−60
−145%
|
135
+145%
|
Fortnite | 90−95
−94.5%
|
170−180
+94.5%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−132%
|
150−160
+132%
|
Forza Horizon 5 | 50−55
−108%
|
110
+108%
|
Grand Theft Auto V | 69
−104%
|
141
+104%
|
Hogwarts Legacy | 30−35
−216%
|
95−100
+216%
|
Metro Exodus | 37
−119%
|
81
+119%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 60−65
−161%
|
150−160
+161%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 68
−163%
|
179
+163%
|
Valorant | 130−140
−80.8%
|
230−240
+80.8%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 59
−132%
|
130−140
+132%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−82.9%
|
64
+82.9%
|
Dota 2 | 107
−37.4%
|
147
+37.4%
|
Far Cry 5 | 55
−131%
|
127
+131%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−132%
|
150−160
+132%
|
Hogwarts Legacy | 30−35
−216%
|
95−100
+216%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 60−65
−161%
|
150−160
+161%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 39
−123%
|
87
+123%
|
Valorant | 28
−739%
|
230−240
+739%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 90−95
−94.5%
|
170−180
+94.5%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
−227%
|
100−110
+227%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 118
−142%
|
280−290
+142%
|
Grand Theft Auto V | 35
−131%
|
81
+131%
|
Metro Exodus | 22
−127%
|
50
+127%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 107
−63.6%
|
170−180
+63.6%
|
Valorant | 160−170
−62.2%
|
260−270
+62.2%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 47
−121%
|
100−110
+121%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−160%
|
39
+160%
|
Far Cry 5 | 40
−135%
|
94
+135%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−190%
|
110−120
+190%
|
Hogwarts Legacy | 18−20
−178%
|
50−55
+178%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 24−27
−188%
|
72
+188%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 35−40
−197%
|
110−120
+197%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 12−14
−277%
|
45−50
+277%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 71
−139%
|
170−180
+139%
|
Grand Theft Auto V | 25
−228%
|
82
+228%
|
Hogwarts Legacy | 10−11
−170%
|
27−30
+170%
|
Metro Exodus | 12−14
−146%
|
32
+146%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 21−24
−183%
|
65
+183%
|
Valorant | 90−95
−171%
|
240−250
+171%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 14
−371%
|
65−70
+371%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−277%
|
45−50
+277%
|
Cyberpunk 2077 | 6−7
−200%
|
18
+200%
|
Dota 2 | 54
−113%
|
115
+113%
|
Far Cry 5 | 20
−140%
|
48
+140%
|
Forza Horizon 4 | 27−30
−176%
|
80−85
+176%
|
Hogwarts Legacy | 10−11
−170%
|
27−30
+170%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 16−18
−263%
|
55−60
+263%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 16−18
−244%
|
55−60
+244%
|
นี่คือวิธีที่ Pro 5500M และ RTX 3060 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3060 เร็วกว่า 102% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3060 เร็วกว่า 14% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3060 เร็วกว่า 34% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 3060 เร็วกว่า 739%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 3060 เหนือกว่า Pro 5500M ในการทดสอบทั้ง 66 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 15.20 | 38.24 |
ความใหม่ล่าสุด | 13 พฤศจิกายน 2019 | 12 มกราคม 2021 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 85 วัตต์ | 170 วัตต์ |
Pro 5500M มีข้อได้เปรียบ มีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 14.3%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 100%
ในทางกลับกัน RTX 3060 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 151.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และ
GeForce RTX 3060 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon Pro 5500M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon Pro 5500M เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพา ในขณะที่ GeForce RTX 3060 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป