GeForce RTX 3070 เทียบกับ Radeon Pro 5500M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon Pro 5500M กับ GeForce RTX 3070 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 3070 มีประสิทธิภาพดีกว่า Pro 5500M อย่างมหาศาลถึง 229% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 319 | 45 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 40 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 57.68 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 14.24 | 18.08 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 1.0 (2019−2020) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 14 | GA104 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชันแบบพกพา | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 13 พฤศจิกายน 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 1 กันยายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $499 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1536 | 5888 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1000 MHz | 1500 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1450 MHz | 1725 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,400 million | 17,400 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 85 Watt | 220 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 139.2 | 317.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 4.454 TFLOPS | 20.31 TFLOPS |
ROPs | 32 | 96 |
TMUs | 96 | 184 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 184 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 46 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 242 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | 1750 MHz |
192.0 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2 |
CUDA | - | 8.5 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 59
−154%
| 150
+154%
|
1440p | 60
−63.3%
| 98
+63.3%
|
4K | 34
−88.2%
| 64
+88.2%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 3.33 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 5.09 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 7.80 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 40−45
−512%
|
263
+512%
|
Counter-Strike 2 | 30−33
−397%
|
149
+397%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−320%
|
147
+320%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 40−45
−356%
|
196
+356%
|
Battlefield 5 | 76
−96.1%
|
149
+96.1%
|
Counter-Strike 2 | 30−33
−350%
|
135
+350%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−297%
|
139
+297%
|
Far Cry 5 | 55−60
−175%
|
154
+175%
|
Fortnite | 90−95
−159%
|
230−240
+159%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−204%
|
200−210
+204%
|
Forza Horizon 5 | 41
−288%
|
159
+288%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 60−65
−190%
|
170−180
+190%
|
Valorant | 130−140
−126%
|
290−300
+126%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 40−45
−163%
|
113
+163%
|
Battlefield 5 | 62
−113%
|
132
+113%
|
Counter-Strike 2 | 30−33
−290%
|
117
+290%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 208
−33.7%
|
270−280
+33.7%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−260%
|
126
+260%
|
Dota 2 | 111
−19.8%
|
133
+19.8%
|
Far Cry 5 | 55−60
−164%
|
148
+164%
|
Fortnite | 90−95
−159%
|
230−240
+159%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−204%
|
200−210
+204%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
−222%
|
148
+222%
|
Grand Theft Auto V | 69
−101%
|
139
+101%
|
Metro Exodus | 37
−224%
|
120
+224%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 60−65
−190%
|
170−180
+190%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 68
−238%
|
230
+238%
|
Valorant | 130−140
−126%
|
290−300
+126%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 59
−102%
|
119
+102%
|
Counter-Strike 2 | 30−33
−250%
|
105
+250%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−191%
|
102
+191%
|
Dota 2 | 107
−16.8%
|
125
+16.8%
|
Far Cry 5 | 55
−156%
|
141
+156%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−204%
|
200−210
+204%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
−226%
|
150−160
+226%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 60−65
−190%
|
170−180
+190%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 39
−210%
|
121
+210%
|
Valorant | 28
−746%
|
237
+746%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 90−95
−159%
|
230−240
+159%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 118
−224%
|
350−400
+224%
|
Grand Theft Auto V | 35
−180%
|
98
+180%
|
Metro Exodus | 22
−241%
|
75
+241%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 107
−63.6%
|
170−180
+63.6%
|
Valorant | 160−170
−102%
|
300−350
+102%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 47
−119%
|
103
+119%
|
Counter-Strike 2 | 18−20
−216%
|
60−65
+216%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−313%
|
62
+313%
|
Far Cry 5 | 40
−213%
|
125
+213%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−312%
|
160−170
+312%
|
Forza Horizon 5 | 30−33
−217%
|
95−100
+217%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 24−27
−342%
|
110−120
+342%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 35−40
−305%
|
150−160
+305%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 12−14
−254%
|
45−50
+254%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−288%
|
30−35
+288%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 71
−224%
|
230−240
+224%
|
Grand Theft Auto V | 25
−368%
|
117
+368%
|
Metro Exodus | 12−14
−277%
|
49
+277%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 21−24
−291%
|
90
+291%
|
Valorant | 90−95
−234%
|
300−350
+234%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 14
−400%
|
70
+400%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−100%
|
16
+100%
|
Cyberpunk 2077 | 6−7
−400%
|
30
+400%
|
Dota 2 | 54
−131%
|
125
+131%
|
Far Cry 5 | 20
−250%
|
70
+250%
|
Forza Horizon 4 | 27−30
−314%
|
120−130
+314%
|
Forza Horizon 5 | 14−16
−221%
|
45−50
+221%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 16−18
−481%
|
90−95
+481%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 16−18
−388%
|
75−80
+388%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 40−45
+0%
|
40−45
+0%
|
นี่คือวิธีที่ Pro 5500M และ RTX 3070 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3070 เร็วกว่า 154% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3070 เร็วกว่า 63% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3070 เร็วกว่า 88% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 3070 เร็วกว่า 746%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3070 เหนือกว่าใน 63การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 17.61 | 57.87 |
ความใหม่ล่าสุด | 13 พฤศจิกายน 2019 | 1 กันยายน 2020 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 85 วัตต์ | 220 วัตต์ |
Pro 5500M มีข้อได้เปรียบ มีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 14.3%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 158.8%
ในทางกลับกัน RTX 3070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 228.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 9 เดือน
GeForce RTX 3070 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon Pro 5500M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon Pro 5500M เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพา ในขณะที่ GeForce RTX 3070 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป