GeForce MX450 เทียบกับ Radeon Pro 5500M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon Pro 5500M กับ GeForce MX450 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
Pro 5500M มีประสิทธิภาพดีกว่า MX450 อย่างน่าประทับใจ 81% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 319 | 467 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 14.24 | 26.76 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 1.0 (2019−2020) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 14 | N17S-G5 / GP107-670-A1 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชันแบบพกพา | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 13 พฤศจิกายน 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 1 สิงหาคม 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1536 | 896 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1000 MHz | 1395 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1450 MHz | 1575 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,400 million | 4,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 85 Watt | 25 Watt (12 - 29 Watt TGP) |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 139.2 | 100.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 4.454 TFLOPS | 3.226 TFLOPS |
ROPs | 32 | 32 |
TMUs | 96 | 64 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 4.0 x4 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR5, GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 2 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 64 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | 10000 MHz |
192.0 จีบี/s | 64.03 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | No outputs |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
Optimus | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2 |
CUDA | - | 7.5 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 59
+96.7%
| 30
−96.7%
|
1440p | 60
+233%
| 18
−233%
|
4K | 34
+36%
| 25
−36%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 40−45
+95.5%
|
21−24
−95.5%
|
Counter-Strike 2 | 30−33
+76.5%
|
16−18
−76.5%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+9.4%
|
32
−9.4%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 40−45
+95.5%
|
21−24
−95.5%
|
Battlefield 5 | 76
+55.1%
|
49
−55.1%
|
Counter-Strike 2 | 30−33
+76.5%
|
16−18
−76.5%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+59.1%
|
22
−59.1%
|
Far Cry 5 | 55−60
+64.7%
|
34
−64.7%
|
Fortnite | 90−95
+49.2%
|
61
−49.2%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
+70%
|
40−45
−70%
|
Forza Horizon 5 | 41
+20.6%
|
34
−20.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 60−65
+84.8%
|
30−35
−84.8%
|
Valorant | 130−140
+46.1%
|
85−90
−46.1%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 40−45
+95.5%
|
21−24
−95.5%
|
Battlefield 5 | 62
+63.2%
|
38
−63.2%
|
Counter-Strike 2 | 30−33
+275%
|
8
−275%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 208
+48.6%
|
140−150
−48.6%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+169%
|
13
−169%
|
Dota 2 | 111
+26.1%
|
88
−26.1%
|
Far Cry 5 | 55−60
+93.1%
|
29
−93.1%
|
Fortnite | 90−95
+133%
|
39
−133%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
+70%
|
40−45
−70%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
+100%
|
21−24
−100%
|
Grand Theft Auto V | 69
+81.6%
|
38
−81.6%
|
Metro Exodus | 37
+270%
|
10
−270%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 60−65
+84.8%
|
30−35
−84.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 68
+106%
|
33
−106%
|
Valorant | 130−140
+46.1%
|
85−90
−46.1%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 59
+96.7%
|
30
−96.7%
|
Counter-Strike 2 | 30−33
+76.5%
|
16−18
−76.5%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+338%
|
8
−338%
|
Dota 2 | 107
+32.1%
|
81
−32.1%
|
Far Cry 5 | 55
+104%
|
27
−104%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
+70%
|
40−45
−70%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
+109%
|
22
−109%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 60−65
+84.8%
|
30−35
−84.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 39
+95%
|
20
−95%
|
Valorant | 28
−218%
|
85−90
+218%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 90−95
+264%
|
25
−264%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 118
+68.6%
|
70−75
−68.6%
|
Grand Theft Auto V | 35
+218%
|
11
−218%
|
Metro Exodus | 22
+120%
|
10−11
−120%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 107
+128%
|
45−50
−128%
|
Valorant | 160−170
+60.8%
|
100−110
−60.8%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 47
+114%
|
22
−114%
|
Counter-Strike 2 | 18−20
+58.3%
|
12−14
−58.3%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
+87.5%
|
8−9
−87.5%
|
Far Cry 5 | 40
+100%
|
20
−100%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
+86.4%
|
21−24
−86.4%
|
Forza Horizon 5 | 30−33
+87.5%
|
16−18
−87.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 24−27
+85.7%
|
14−16
−85.7%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 35−40
+94.7%
|
18−20
−94.7%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 12−14
+62.5%
|
8−9
−62.5%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
+167%
|
3−4
−167%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 71
+103%
|
35−40
−103%
|
Grand Theft Auto V | 25
+25%
|
20−22
−25%
|
Metro Exodus | 12−14
+160%
|
5−6
−160%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 21−24
+130%
|
10−11
−130%
|
Valorant | 90−95
+91.7%
|
45−50
−91.7%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 14
+27.3%
|
10−12
−27.3%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
+167%
|
3−4
−167%
|
Cyberpunk 2077 | 6−7
+100%
|
3−4
−100%
|
Dota 2 | 54
+68.8%
|
32
−68.8%
|
Far Cry 5 | 20
+122%
|
9−10
−122%
|
Forza Horizon 4 | 27−30
+93.3%
|
14−16
−93.3%
|
Forza Horizon 5 | 14−16
+100%
|
7−8
−100%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 16−18
+77.8%
|
9−10
−77.8%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 16−18
+77.8%
|
9−10
−77.8%
|
นี่คือวิธีที่ Pro 5500M และ GeForce MX450 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- Pro 5500M เร็วกว่า 97% ในความละเอียด 1080p
- Pro 5500M เร็วกว่า 233% ในความละเอียด 1440p
- Pro 5500M เร็วกว่า 36% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ Pro 5500M เร็วกว่า 338%
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ GeForce MX450 เร็วกว่า 218%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- Pro 5500M เหนือกว่าใน 66การทดสอบ (99%)
- GeForce MX450 เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (1%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 17.61 | 9.73 |
ความใหม่ล่าสุด | 13 พฤศจิกายน 2019 | 1 สิงหาคม 2020 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 2 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 85 วัตต์ | 25 วัตต์ |
Pro 5500M มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 81% และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 71.4%
ในทางกลับกัน GeForce MX450 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 8 เดือนและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 240%
Radeon Pro 5500M เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce MX450 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon Pro 5500M เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพา ในขณะที่ GeForce MX450 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพาเช่นกัน