GeForce RTX 2060 Max-Q เทียบกับ Radeon HD 8970M Crossfire
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon HD 8970M Crossfire และ GeForce RTX 2060 Max-Q โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 2060 Max-Q มีประสิทธิภาพดีกว่า HD 8970M Crossfire อย่างมหาศาล 35% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 309 | 225 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 6.39 | 26.62 |
สถาปัตยกรรม | GCN (2012−2015) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | Neptune CF | TU106 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 1 พฤษภาคม 2012 (เมื่อ 12 ปี ปีที่แล้ว) | 29 มกราคม 2020 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2560 | 1920 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 850 MHz | 975 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 900 MHz | 1185 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | ไม่มีข้อมูล | 10,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 28 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 200 Watt | 65 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | ไม่มีข้อมูล | 142.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | ไม่มีข้อมูล | 4.55 TFLOPS |
ROPs | ไม่มีข้อมูล | 48 |
TMUs | ไม่มีข้อมูล | 120 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 240 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 30 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | large |
อินเทอร์เฟซ | ไม่มีข้อมูล | PCIe 3.0 x16 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | ไม่มีข้อมูล | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | ไม่มีข้อมูล | 6 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 2x 256 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 4800 MHz | 1375 MHz |
ไม่มีข้อมูล | 264.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | ไม่มีข้อมูล | No outputs |
รองรับ G-SYNC | - | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
VR Ready | ไม่มีข้อมูล | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 11.1 | 12 Ultimate (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | ไม่มีข้อมูล | 6.5 |
OpenGL | ไม่มีข้อมูล | 4.6 |
OpenCL | ไม่มีข้อมูล | 1.2 |
Vulkan | - | 1.2.131 |
CUDA | - | 7.5 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 69
−33.3%
| 92
+33.3%
|
1440p | 30−35
−46.7%
| 44
+46.7%
|
4K | 30−35
−40%
| 42
+40%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 45−50
−41.3%
|
65−70
+41.3%
|
Counter-Strike 2 | 100−105
−37%
|
130−140
+37%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−37.8%
|
50−55
+37.8%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 45−50
−41.3%
|
65−70
+41.3%
|
Battlefield 5 | 70−75
−27%
|
90−95
+27%
|
Counter-Strike 2 | 100−105
−37%
|
130−140
+37%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−37.8%
|
50−55
+37.8%
|
Far Cry 5 | 55−60
−33.9%
|
75−80
+33.9%
|
Fortnite | 95−100
−15.8%
|
110
+15.8%
|
Forza Horizon 4 | 70−75
−30.6%
|
90−95
+30.6%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
−33.9%
|
75−80
+33.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 65−70
−39.4%
|
90−95
+39.4%
|
Valorant | 130−140
−20.7%
|
160−170
+20.7%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 45−50
−41.3%
|
65−70
+41.3%
|
Battlefield 5 | 70−75
−27%
|
90−95
+27%
|
Counter-Strike 2 | 100−105
−37%
|
130−140
+37%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 128
−99.2%
|
250−260
+99.2%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−37.8%
|
50−55
+37.8%
|
Dota 2 | 100−110
−16.5%
|
120
+16.5%
|
Far Cry 5 | 55−60
−33.9%
|
75−80
+33.9%
|
Fortnite | 95−100
−12.6%
|
107
+12.6%
|
Forza Horizon 4 | 70−75
−30.6%
|
90−95
+30.6%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
−33.9%
|
75−80
+33.9%
|
Grand Theft Auto V | 65−70
−42.4%
|
94
+42.4%
|
Metro Exodus | 35−40
−54.1%
|
57
+54.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 65−70
−39.4%
|
90−95
+39.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 45−50
−114%
|
105
+114%
|
Valorant | 130−140
−20.7%
|
160−170
+20.7%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 70−75
−27%
|
90−95
+27%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−37.8%
|
50−55
+37.8%
|
Dota 2 | 100−110
−11.7%
|
115
+11.7%
|
Far Cry 5 | 55−60
−33.9%
|
75−80
+33.9%
|
Forza Horizon 4 | 70−75
−30.6%
|
90−95
+30.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 65−70
−39.4%
|
90−95
+39.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 45−50
−16.3%
|
57
+16.3%
|
Valorant | 130−140
+45.2%
|
93
−45.2%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 95−100
+17.3%
|
81
−17.3%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 35−40
−44.4%
|
50−55
+44.4%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 120−130
−30.5%
|
160−170
+30.5%
|
Grand Theft Auto V | 27−30
−48.3%
|
40−45
+48.3%
|
Metro Exodus | 21−24
−45.5%
|
30−35
+45.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
−6.1%
|
170−180
+6.1%
|
Valorant | 170−180
−19.4%
|
200−210
+19.4%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 50−55
−32%
|
65−70
+32%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
−43.8%
|
21−24
+43.8%
|
Far Cry 5 | 35−40
−38.5%
|
50−55
+38.5%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−38.6%
|
60−65
+38.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
−42.9%
|
40−45
+42.9%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 40−45
−40%
|
55−60
+40%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 14−16
−35.7%
|
18−20
+35.7%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−60%
|
24−27
+60%
|
Grand Theft Auto V | 30−35
−37.5%
|
40−45
+37.5%
|
Metro Exodus | 14−16
−42.9%
|
20−22
+42.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 24−27
−40%
|
35
+40%
|
Valorant | 95−100
−40.8%
|
130−140
+40.8%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 24−27
−38.5%
|
35−40
+38.5%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−60%
|
24−27
+60%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
−42.9%
|
10−11
+42.9%
|
Dota 2 | 60−65
−29.5%
|
79
+29.5%
|
Far Cry 5 | 18−20
−42.1%
|
27−30
+42.1%
|
Forza Horizon 4 | 30−35
−35.5%
|
40−45
+35.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 16−18
−47.1%
|
24−27
+47.1%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 18−20
−44.4%
|
24−27
+44.4%
|
นี่คือวิธีที่ HD 8970M Crossfire และ RTX 2060 Max-Q แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 2060 Max-Q เร็วกว่า 33% ในความละเอียด 1080p
- RTX 2060 Max-Q เร็วกว่า 47% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2060 Max-Q เร็วกว่า 40% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ HD 8970M Crossfire เร็วกว่า 45%
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 2060 Max-Q เร็วกว่า 114%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- HD 8970M Crossfire เหนือกว่าใน 2การทดสอบ (3%)
- RTX 2060 Max-Q เหนือกว่าใน 61การทดสอบ (97%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 16.06 | 21.73 |
ความใหม่ล่าสุด | 1 พฤษภาคม 2012 | 29 มกราคม 2020 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 28 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 200 วัตต์ | 65 วัตต์ |
RTX 2060 Max-Q มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 35.3% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 7 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 133.3%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 207.7%
GeForce RTX 2060 Max-Q เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon HD 8970M Crossfire ในการทดสอบประสิทธิภาพ