GeForce RTX 2080 Super Max-Q เทียบกับ Radeon HD 8970M Crossfire
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon HD 8970M Crossfire และ GeForce RTX 2080 Super Max-Q โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 2080 Super Max-Q มีประสิทธิภาพดีกว่า HD 8970M Crossfire อย่างน่าประทับใจ 91% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 300 | 138 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 6.44 | 30.74 |
สถาปัตยกรรม | GCN (2012−2015) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | Neptune CF | TU104 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 1 พฤษภาคม 2012 (เมื่อ 12 ปี ปีที่แล้ว) | 2 เมษายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2560 | 3072 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 850 MHz | 735 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 900 MHz | 1080 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | ไม่มีข้อมูล | 13,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 28 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 200 Watt | 80 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | ไม่มีข้อมูล | 207.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | ไม่มีข้อมูล | 6.636 TFLOPS |
ROPs | ไม่มีข้อมูล | 64 |
TMUs | ไม่มีข้อมูล | 192 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 384 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 48 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | large |
อินเทอร์เฟซ | ไม่มีข้อมูล | PCIe 3.0 x16 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | ไม่มีข้อมูล | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | ไม่มีข้อมูล | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 2x 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 4800 MHz | 1375 MHz |
ไม่มีข้อมูล | 352.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | ไม่มีข้อมูล | No outputs |
รองรับ G-SYNC | - | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
VR Ready | ไม่มีข้อมูล | + |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 11.1 | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | ไม่มีข้อมูล | 6.5 |
OpenGL | ไม่มีข้อมูล | 4.6 |
OpenCL | ไม่มีข้อมูล | 1.2 |
Vulkan | - | 1.2.140 |
CUDA | - | 7.5 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 67
−62.7%
| 109
+62.7%
|
1440p | 35−40
−109%
| 73
+109%
|
4K | 24−27
−104%
| 49
+104%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
−121%
|
70−75
+121%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−103%
|
75−80
+103%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 60−65
−45%
|
87
+45%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−121%
|
70−75
+121%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−103%
|
75−80
+103%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
−117%
|
160−170
+117%
|
Forza Horizon 5 | 50−55
−84%
|
90−95
+84%
|
Metro Exodus | 50−55
−102%
|
103
+102%
|
Red Dead Redemption 2 | 40−45
−127%
|
100
+127%
|
Valorant | 75−80
−124%
|
168
+124%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 60−65
−65%
|
95−100
+65%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−121%
|
70−75
+121%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−103%
|
75−80
+103%
|
Dota 2 | 65−70
−83.3%
|
121
+83.3%
|
Far Cry 5 | 60−65
−28.1%
|
82
+28.1%
|
Fortnite | 100−105
−61%
|
160−170
+61%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
−117%
|
160−170
+117%
|
Forza Horizon 5 | 50−55
−84%
|
90−95
+84%
|
Grand Theft Auto V | 65−70
−81.8%
|
120
+81.8%
|
Metro Exodus | 50−55
−52.9%
|
78
+52.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120−130
−50%
|
190−200
+50%
|
Red Dead Redemption 2 | 40−45
−27.3%
|
56
+27.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 55−60
−114%
|
120−130
+114%
|
Valorant | 75−80
−36%
|
102
+36%
|
World of Tanks | 128
−118%
|
270−280
+118%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
−28.3%
|
77
+28.3%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−121%
|
70−75
+121%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−103%
|
75−80
+103%
|
Dota 2 | 65−70
−78.8%
|
118
+78.8%
|
Far Cry 5 | 60−65
−45.3%
|
90−95
+45.3%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
−117%
|
160−170
+117%
|
Forza Horizon 5 | 50−55
−84%
|
90−95
+84%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120−130
−50%
|
190−200
+50%
|
Valorant | 75−80
−105%
|
154
+105%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 27−30
−124%
|
65−70
+124%
|
Grand Theft Auto V | 30−33
−117%
|
65−70
+117%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
−4.8%
|
170−180
+4.8%
|
Red Dead Redemption 2 | 16−18
−112%
|
36
+112%
|
World of Tanks | 120−130
−77.3%
|
220−230
+77.3%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 35−40
−100%
|
76
+100%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−9.4%
|
35−40
+9.4%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−133%
|
35−40
+133%
|
Far Cry 5 | 45−50
−133%
|
110−120
+133%
|
Forza Horizon 4 | 45−50
−110%
|
100−110
+110%
|
Forza Horizon 5 | 27−30
−103%
|
55−60
+103%
|
Metro Exodus | 40−45
−78.6%
|
75
+78.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 24−27
−131%
|
60−65
+131%
|
Valorant | 45−50
−144%
|
117
+144%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 14−16
−140%
|
35−40
+140%
|
Dota 2 | 30−35
−125%
|
72
+125%
|
Grand Theft Auto V | 30−35
−125%
|
72
+125%
|
Metro Exodus | 12−14
−146%
|
32
+146%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
−104%
|
110−120
+104%
|
Red Dead Redemption 2 | 12−14
−100%
|
24
+100%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−35
−125%
|
72
+125%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 18−20
−156%
|
46
+156%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−140%
|
35−40
+140%
|
Cyberpunk 2077 | 6−7
−150%
|
14−16
+150%
|
Dota 2 | 30−35
−219%
|
102
+219%
|
Far Cry 5 | 24−27
−113%
|
50−55
+113%
|
Fortnite | 21−24
−123%
|
45−50
+123%
|
Forza Horizon 4 | 27−30
−107%
|
55−60
+107%
|
Forza Horizon 5 | 14−16
−120%
|
30−35
+120%
|
Valorant | 21−24
−191%
|
64
+191%
|
นี่คือวิธีที่ HD 8970M Crossfire และ RTX 2080 Super Max-Q แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 2080 Super Max-Q เร็วกว่า 63% ในความละเอียด 1080p
- RTX 2080 Super Max-Q เร็วกว่า 109% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2080 Super Max-Q เร็วกว่า 104% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Dota 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 2080 Super Max-Q เร็วกว่า 219%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 2080 Super Max-Q เหนือกว่า HD 8970M Crossfire ในการทดสอบทั้ง 64 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 18.68 | 35.66 |
ความใหม่ล่าสุด | 1 พฤษภาคม 2012 | 2 เมษายน 2020 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 28 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 200 วัตต์ | 80 วัตต์ |
RTX 2080 Super Max-Q มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 90.9% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 7 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 133.3%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 150%
GeForce RTX 2080 Super Max-Q เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon HD 8970M Crossfire ในการทดสอบประสิทธิภาพ
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ