Arc A580 เทียบกับ Radeon 680M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon 680M กับ Arc A580 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
Arc A580 มีประสิทธิภาพดีกว่า 680M อย่างมหาศาลถึง 258% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 506 | 187 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 55 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.93 | 12.21 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 2.0 (2020−2024) | Generation 12.7 (2022−2023) |
ชื่อรหัส GPU | Rembrandt+ | DG2-512 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 10 ตุลาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 768 | 3072 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2000 MHz | 1700 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2200 MHz | 2000 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,100 million | 21,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 50 Watt | 175 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 105.6 | 384.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 3.379 TFLOPS | 12.29 TFLOPS |
ROPs | 32 | 96 |
TMUs | 48 | 192 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 384 |
Ray Tracing Cores | 12 | 24 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 4.0 x16 |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | System Shared | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | System Shared | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | System Shared | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | System Shared | 2000 MHz |
ไม่มีข้อมูล | 512.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | + | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | Portable Device Dependent | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 2.0 |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.6 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 37
−186%
| 106
+186%
|
1440p | 17
−218%
| 54
+218%
|
4K | 11
−200%
| 33
+200%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 47
−217%
|
149
+217%
|
Counter-Strike 2 | 28
−250%
|
98
+250%
|
Cyberpunk 2077 | 38
−92.1%
|
73
+92.1%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 37
−197%
|
110
+197%
|
Battlefield 5 | 35−40
−203%
|
100−110
+203%
|
Counter-Strike 2 | 23
−261%
|
83
+261%
|
Cyberpunk 2077 | 28
−132%
|
65
+132%
|
Far Cry 5 | 38
−253%
|
134
+253%
|
Fortnite | 45−50
−176%
|
130−140
+176%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−197%
|
107
+197%
|
Forza Horizon 5 | 38
−121%
|
80−85
+121%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27−30
−297%
|
110−120
+297%
|
Valorant | 80−85
−127%
|
180−190
+127%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 20
−295%
|
79
+295%
|
Battlefield 5 | 35−40
−203%
|
100−110
+203%
|
Counter-Strike 2 | 21
−252%
|
74
+252%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 120−130
−114%
|
270−280
+114%
|
Cyberpunk 2077 | 21
−171%
|
57
+171%
|
Dota 2 | 71
−252%
|
250−260
+252%
|
Far Cry 5 | 35
−249%
|
122
+249%
|
Fortnite | 45−50
−176%
|
130−140
+176%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−183%
|
102
+183%
|
Forza Horizon 5 | 20−22
−320%
|
80−85
+320%
|
Grand Theft Auto V | 36
−139%
|
86
+139%
|
Metro Exodus | 23
−322%
|
97
+322%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27−30
−297%
|
110−120
+297%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 40
−335%
|
174
+335%
|
Valorant | 80−85
−127%
|
180−190
+127%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 35−40
−203%
|
100−110
+203%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
−319%
|
67
+319%
|
Cyberpunk 2077 | 18
−194%
|
53
+194%
|
Dota 2 | 61
−244%
|
210−220
+244%
|
Far Cry 5 | 33
−245%
|
114
+245%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−142%
|
87
+142%
|
Forza Horizon 5 | 26
−223%
|
80−85
+223%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27−30
−297%
|
110−120
+297%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 24
−183%
|
68
+183%
|
Valorant | 146
−27.4%
|
180−190
+27.4%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 45−50
−176%
|
130−140
+176%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 60−65
−224%
|
200−210
+224%
|
Grand Theft Auto V | 17
−118%
|
37
+118%
|
Metro Exodus | 8−9
−613%
|
57
+613%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−317%
|
170−180
+317%
|
Valorant | 90−95
−143%
|
220−230
+143%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 18−20
−333%
|
75−80
+333%
|
Counter-Strike 2 | 10−12
−218%
|
35−40
+218%
|
Cyberpunk 2077 | 10
−290%
|
39
+290%
|
Far Cry 5 | 21
−314%
|
87
+314%
|
Forza Horizon 4 | 18−20
−295%
|
75
+295%
|
Forza Horizon 5 | 14−16
−271%
|
50−55
+271%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 17
−224%
|
55
+224%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 16−18
−324%
|
70−75
+324%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 7−8
−229%
|
21−24
+229%
|
Counter-Strike 2 | 2−3
−600%
|
14−16
+600%
|
Grand Theft Auto V | 18−20
−100%
|
38
+100%
|
Metro Exodus | 3−4
−1133%
|
37
+1133%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 13
−369%
|
61
+369%
|
Valorant | 40−45
−312%
|
170−180
+312%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 9−10
−400%
|
45−50
+400%
|
Counter-Strike 2 | 2−3
−400%
|
10
+400%
|
Cyberpunk 2077 | 4
−425%
|
21
+425%
|
Dota 2 | 18
−233%
|
60−65
+233%
|
Far Cry 5 | 8−9
−488%
|
47
+488%
|
Forza Horizon 4 | 12−14
−331%
|
56
+331%
|
Forza Horizon 5 | 6−7
−383%
|
27−30
+383%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 8−9
−313%
|
30−35
+313%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 8−9
−325%
|
30−35
+325%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 24−27
+0%
|
24−27
+0%
|
นี่คือวิธีที่ Radeon 680M และ Arc A580 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- Arc A580 เร็วกว่า 186% ในความละเอียด 1080p
- Arc A580 เร็วกว่า 218% ในความละเอียด 1440p
- Arc A580 เร็วกว่า 200% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ Arc A580 เร็วกว่า 1133%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- Arc A580 เหนือกว่าใน 63การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 8.56 | 30.65 |
ความใหม่ล่าสุด | 3 มกราคม 2023 | 10 ตุลาคม 2023 |
การใช้พลังงาน (TDP) | 50 วัตต์ | 175 วัตต์ |
Radeon 680M มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 250%
ในทางกลับกัน Arc A580 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 258.1% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 9 เดือน
Arc A580 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 680M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon 680M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ Arc A580 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป