Radeon 860M เทียบกับ GeForce RTX 5070 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 5070 Ti กับ Radeon 860M รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 5070 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า 860M อย่างมหาศาลถึง 610% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 7 | 433 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 55.41 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 19.39 | 54.63 |
สถาปัตยกรรม | Blackwell 2.0 (2025) | RDNA 3.5 (2024−2025) |
ชื่อรหัส GPU | GB203 | Strix Point |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 20 กุมภาพันธ์ 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) | มีนาคม 2025 (เร็ว ๆ นี้) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $749 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 8960 | 512 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2295 MHz | 400 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2452 MHz | 3000 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 45,600 million | 34,000 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 4 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 300 Watt | 15 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 686.6 | 96.00 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 43.94 TFLOPS | 3.072 TFLOPS |
ROPs | 96 | 8 |
TMUs | 280 | 32 |
Tensor Cores | 280 | ไม่มีข้อมูล |
Ray Tracing Cores | 70 | 8 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | medium sized |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 5.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | 304 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 16-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR7 | System Shared |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | System Shared |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | System Shared |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | System Shared |
896.0 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | + |
Resizable BAR | + | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b | Portable Device Dependent |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 2.1 |
Vulkan | 1.4 | 1.3 |
CUDA | 12.0 | - |
DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 224
+522%
| 36
−522%
|
1440p | 133
+639%
| 18−20
−639%
|
4K | 88
+633%
| 12−14
−633%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.34 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 5.63 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 8.51 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 300−350
+443%
|
60−65
−443%
|
Cyberpunk 2077 | 200−210
+652%
|
27−30
−652%
|
Hogwarts Legacy | 221
+1005%
|
20−22
−1005%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 190−200
+302%
|
45−50
−302%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
+443%
|
60−65
−443%
|
Cyberpunk 2077 | 200−210
+652%
|
27−30
−652%
|
Far Cry 5 | 326
+758%
|
35−40
−758%
|
Fortnite | 300−350
+358%
|
65−70
−358%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+590%
|
45−50
−590%
|
Forza Horizon 5 | 220−230
+640%
|
30−33
−640%
|
Hogwarts Legacy | 198
+890%
|
20−22
−890%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+340%
|
40−45
−340%
|
Valorant | 500−550
+392%
|
100−110
−392%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 190−200
+302%
|
45−50
−302%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
+443%
|
60−65
−443%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+70.6%
|
160−170
−70.6%
|
Cyberpunk 2077 | 200−210
+652%
|
27−30
−652%
|
Far Cry 5 | 310
+716%
|
35−40
−716%
|
Fortnite | 300−350
+358%
|
65−70
−358%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+590%
|
45−50
−590%
|
Forza Horizon 5 | 220−230
+640%
|
30−33
−640%
|
Grand Theft Auto V | 170−180
+625%
|
24
−625%
|
Hogwarts Legacy | 178
+790%
|
20−22
−790%
|
Metro Exodus | 241
+948%
|
21−24
−948%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+340%
|
40−45
−340%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 529
+1724%
|
27−30
−1724%
|
Valorant | 500−550
+392%
|
100−110
−392%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+302%
|
45−50
−302%
|
Cyberpunk 2077 | 200−210
+652%
|
27−30
−652%
|
Far Cry 5 | 294
+674%
|
35−40
−674%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+590%
|
45−50
−590%
|
Hogwarts Legacy | 135
+575%
|
20−22
−575%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+340%
|
40−45
−340%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 246
+748%
|
27−30
−748%
|
Valorant | 500−550
+617%
|
70−75
−617%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+358%
|
65−70
−358%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 250−260
+1129%
|
21−24
−1129%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+507%
|
85−90
−507%
|
Grand Theft Auto V | 160−170
+841%
|
16−18
−841%
|
Metro Exodus | 153
+1077%
|
12−14
−1077%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+629%
|
24−27
−629%
|
Valorant | 450−500
+294%
|
120−130
−294%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+553%
|
30−33
−553%
|
Cyberpunk 2077 | 120−130
+675%
|
16−18
−675%
|
Far Cry 5 | 251
+946%
|
24−27
−946%
|
Forza Horizon 4 | 290−300
+993%
|
27−30
−993%
|
Hogwarts Legacy | 102
+750%
|
12−14
−750%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 203
+1169%
|
16−18
−1169%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+529%
|
24−27
−529%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 110−120
+1850%
|
6−7
−1850%
|
Grand Theft Auto V | 180−190
+741%
|
21−24
−741%
|
Hogwarts Legacy | 79
+1217%
|
6−7
−1217%
|
Metro Exodus | 101
+1343%
|
7−8
−1343%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 190
+1257%
|
14−16
−1257%
|
Valorant | 300−350
+452%
|
60−65
−452%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+807%
|
14−16
−807%
|
Counter-Strike 2 | 110−120
+631%
|
16−18
−631%
|
Cyberpunk 2077 | 60−65
+663%
|
8−9
−663%
|
Far Cry 5 | 144
+1209%
|
10−12
−1209%
|
Forza Horizon 4 | 260−270
+1311%
|
18−20
−1311%
|
Hogwarts Legacy | 63
+950%
|
6−7
−950%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+773%
|
10−12
−773%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+618%
|
10−12
−618%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 5070 Ti และ Radeon 860M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5070 Ti เร็วกว่า 522% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5070 Ti เร็วกว่า 639% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5070 Ti เร็วกว่า 633% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 5070 Ti เร็วกว่า 1850%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 5070 Ti เหนือกว่า Radeon 860M ในการทดสอบทั้ง 52 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 77.95 | 10.98 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 5 nm | 4 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 300 วัตต์ | 15 วัตต์ |
RTX 5070 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 609.9%
ในทางกลับกัน Radeon 860M มีข้อได้เปรียบ มีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 25%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 1900%
GeForce RTX 5070 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 860M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce RTX 5070 Ti เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon 860M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก