GeForce RTX 4080 SUPER เทียบกับ RTX 4070 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 4070 Ti และ GeForce RTX 4080 SUPER โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4080 SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 4070 Ti เล็กน้อย 8% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 10 | 6 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 73 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 49.03 | 38.53 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 19.83 | 19.09 |
สถาปัตยกรรม | Ada Lovelace (2022−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | AD104 | AD103 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $799 | $999 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4070 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 4080 SUPER อยู่ 27%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 7680 | 10240 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2310 MHz | 2295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2610 MHz | 2550 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 35,800 million | 45,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 4 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 285 Watt | 320 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 626.4 | 816.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 40.09 TFLOPS | 52.22 TFLOPS |
ROPs | 80 | 112 |
TMUs | 240 | 320 |
Tensor Cores | 240 | 320 |
Ray Tracing Cores | 60 | 80 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 285 mm | 310 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 3-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 16-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1313 MHz | 1438 MHz |
504.2 จีบี/s | 736.3 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.9 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
SPECviewperf 12 - specvp12 maya-04
SPECviewperf 12 - specvp12 sw-03
SPECviewperf 12 - specvp12 snx-02
SPECviewperf 12 - specvp12 catia-04
SPECviewperf 12 - specvp12 creo-01
SPECviewperf 12 - specvp12 showcase-01
SPECviewperf 12 - specvp12 energy-01
SPECviewperf 12 - specvp12 3dsmax-05
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 223
−14.3%
| 255
+14.3%
|
1440p | 139
−27.3%
| 177
+27.3%
|
4K | 87
−34.5%
| 117
+34.5%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.58
+9.3%
| 3.92
−9.3%
|
1440p | 5.75
−1.8%
| 5.64
+1.8%
|
4K | 9.18
−7.6%
| 8.54
+7.6%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 316
+5.3%
|
300
−5.3%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
−6.4%
|
351
+6.4%
|
Cyberpunk 2077 | 236
−5.5%
|
249
+5.5%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 253
−10.7%
|
280
+10.7%
|
Battlefield 5 | 190−200
−2.1%
|
190−200
+2.1%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
−4.2%
|
344
+4.2%
|
Cyberpunk 2077 | 218
−12.8%
|
246
+12.8%
|
Far Cry 5 | 211
−13.7%
|
240
+13.7%
|
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
−8.9%
|
344
+8.9%
|
Forza Horizon 5 | 244
−26.2%
|
308
+26.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
−15.5%
|
500−550
+15.5%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 180
−20.6%
|
217
+20.6%
|
Battlefield 5 | 190−200
−2.1%
|
190−200
+2.1%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
−2.7%
|
339
+2.7%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 185
−28.6%
|
238
+28.6%
|
Dota 2 | 259
−4.2%
|
270−280
+4.2%
|
Far Cry 5 | 203
−11.8%
|
227
+11.8%
|
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
−8.2%
|
342
+8.2%
|
Forza Horizon 5 | 228
−25%
|
285
+25%
|
Grand Theft Auto V | 178
−0.6%
|
179
+0.6%
|
Metro Exodus | 197
−15.2%
|
227
+15.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 453
−20.8%
|
547
+20.8%
|
Valorant | 450−500
−15.5%
|
500−550
+15.5%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
−2.1%
|
190−200
+2.1%
|
Cyberpunk 2077 | 167
−19.2%
|
199
+19.2%
|
Dota 2 | 243
−7%
|
260−270
+7%
|
Far Cry 5 | 189
−12.2%
|
212
+12.2%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
−1.9%
|
322
+1.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 221
−19%
|
263
+19%
|
Valorant | 450−500
−15.5%
|
500−550
+15.5%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 240−250
−11.4%
|
274
+11.4%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+0%
|
500−550
+0%
|
Grand Theft Auto V | 156
−8.3%
|
169
+8.3%
|
Metro Exodus | 131
−23.7%
|
162
+23.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
+0%
|
450−500
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+0%
|
190−200
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 105
−21.9%
|
128
+21.9%
|
Far Cry 5 | 182
−14.3%
|
208
+14.3%
|
Forza Horizon 4 | 280−290
−8.9%
|
306
+8.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 190−200
−11.6%
|
221
+11.6%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+0%
|
150−160
+0%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 75−80
−14.3%
|
85−90
+14.3%
|
Counter-Strike 2 | 110−120
−19.6%
|
134
+19.6%
|
Grand Theft Auto V | 172
−8.7%
|
187
+8.7%
|
Metro Exodus | 84
−26.2%
|
106
+26.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 149
−36.9%
|
204
+36.9%
|
Valorant | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+0%
|
130−140
+0%
|
Counter-Strike 2 | 110−120
−11.6%
|
120−130
+11.6%
|
Cyberpunk 2077 | 48
−27.1%
|
61
+27.1%
|
Dota 2 | 226
−6.2%
|
240−250
+6.2%
|
Far Cry 5 | 111
−30.6%
|
145
+30.6%
|
Forza Horizon 4 | 240−250
−23%
|
305
+23%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+0%
|
95−100
+0%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+0%
|
75−80
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 4070 Ti และ RTX 4080 SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 14% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 27% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 34% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RTX 4070 Ti เร็วกว่า 5%
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 37%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
- RTX 4080 SUPER เหนือกว่าใน 43การทดสอบ (72%)
- เสมอกันใน 16การทดสอบ (27%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 71.00 | 76.73 |
ความใหม่ล่าสุด | 3 มกราคม 2023 | 8 มกราคม 2024 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 4 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 285 วัตต์ | 320 วัตต์ |
RTX 4070 Ti มีข้อได้เปรียบ มีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 25%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 12.3%
ในทางกลับกัน RTX 4080 SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 8.1% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และ
ด้วยความแตกต่างของประสิทธิภาพที่น้อยมาก จึงไม่สามารถตัดสินผู้ชนะระหว่าง GeForce RTX 4070 Ti และ GeForce RTX 4080 SUPER ได้อย่างชัดเจน