Radeon RX 7800 XT เทียบกับ GeForce RTX 3070 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3070 Ti และ Radeon RX 7800 XT โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7800 XT มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 3070 Ti อย่างน้อย 3% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 37 | 34 |
จัดอันดับตามความนิยม | 87 | 66 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 52.73 | 67.95 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 14.43 | 16.40 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | GA104 | Navi 32 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 31 พฤษภาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 25 สิงหาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $599 | $499 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 7800 XT มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 3070 Ti อยู่ 29%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 6144 | 3840 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1575 MHz | 1295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1770 MHz | 2430 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 17,400 million | 28,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 290 Watt | 263 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 339.8 | 583.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 21.75 TFLOPS | 37.32 TFLOPS |
ROPs | 96 | 96 |
TMUs | 192 | 240 |
Tensor Cores | 192 | ไม่มีข้อมูล |
Ray Tracing Cores | 48 | 60 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1188 MHz | 2438 MHz |
608.3 จีบี/s | 624.1 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI 2.1a, 3x DisplayPort 2.1 |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 2.2 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
CUDA | 8.6 | - |
DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 177
−22%
| 216
+22%
|
1440p | 93
−33.3%
| 124
+33.3%
|
4K | 60
−18.3%
| 71
+18.3%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.38
−46.5%
| 2.31
+46.5%
|
1440p | 6.44
−60.1%
| 4.02
+60.1%
|
4K | 9.98
−42%
| 7.03
+42%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 170−180
−84.1%
|
324
+84.1%
|
Counter-Strike 2 | 193
−24.9%
|
241
+24.9%
|
Cyberpunk 2077 | 178
−39.3%
|
248
+39.3%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 170−180
−38.1%
|
243
+38.1%
|
Battlefield 5 | 160−170
−1.9%
|
160−170
+1.9%
|
Counter-Strike 2 | 152
−31.6%
|
200
+31.6%
|
Cyberpunk 2077 | 141
−39%
|
196
+39%
|
Far Cry 5 | 205
+0.5%
|
204
−0.5%
|
Fortnite | 250−260
−4.7%
|
260−270
+4.7%
|
Forza Horizon 4 | 210−220
−27.5%
|
278
+27.5%
|
Forza Horizon 5 | 210
−31.4%
|
276
+31.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 300−350
−3.2%
|
300−350
+3.2%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 170−180
+21.4%
|
145
−21.4%
|
Battlefield 5 | 160−170
−1.9%
|
160−170
+1.9%
|
Counter-Strike 2 | 131
−24.4%
|
163
+24.4%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 124
−31.5%
|
163
+31.5%
|
Dota 2 | 249
−0.4%
|
250−260
+0.4%
|
Far Cry 5 | 196
+0%
|
196
+0%
|
Fortnite | 250−260
−4.7%
|
260−270
+4.7%
|
Forza Horizon 4 | 210−220
−19.7%
|
261
+19.7%
|
Forza Horizon 5 | 196
−30.6%
|
256
+30.6%
|
Grand Theft Auto V | 173
−2.9%
|
178
+2.9%
|
Metro Exodus | 145
−18.6%
|
172
+18.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 292
−25.3%
|
366
+25.3%
|
Valorant | 300−350
−3.2%
|
300−350
+3.2%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 160−170
−1.9%
|
160−170
+1.9%
|
Counter-Strike 2 | 114
−30.7%
|
149
+30.7%
|
Cyberpunk 2077 | 113
−32.7%
|
150
+32.7%
|
Dota 2 | 230
+0%
|
230−240
+0%
|
Far Cry 5 | 183
+0.5%
|
182
−0.5%
|
Forza Horizon 4 | 210−220
−1.8%
|
222
+1.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 147
−36.1%
|
200
+36.1%
|
Valorant | 300−350
−3.2%
|
300−350
+3.2%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 250−260
−4.7%
|
260−270
+4.7%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 45−50
−6.3%
|
50−55
+6.3%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 400−450
−4.1%
|
400−450
+4.1%
|
Grand Theft Auto V | 137
−2.2%
|
140
+2.2%
|
Metro Exodus | 89
−19.1%
|
106
+19.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 350−400
−4.5%
|
350−400
+4.5%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
−3.6%
|
140−150
+3.6%
|
Cyberpunk 2077 | 73
−35.6%
|
99
+35.6%
|
Far Cry 5 | 150
−17.3%
|
176
+17.3%
|
Forza Horizon 4 | 180−190
−11.6%
|
202
+11.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 120−130
−18.5%
|
147
+18.5%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+0%
|
150−160
+0%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 45−50
−4.1%
|
50−55
+4.1%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−5.9%
|
35−40
+5.9%
|
Grand Theft Auto V | 147
−3.4%
|
152
+3.4%
|
Metro Exodus | 56
−12.5%
|
63
+12.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 109
−8.3%
|
118
+8.3%
|
Valorant | 300−350
−1.3%
|
300−350
+1.3%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 95−100
−4.1%
|
100−110
+4.1%
|
Counter-Strike 2 | 16
−31.3%
|
21
+31.3%
|
Cyberpunk 2077 | 35
−28.6%
|
45
+28.6%
|
Dota 2 | 194
+2.1%
|
190−200
−2.1%
|
Far Cry 5 | 82
−26.8%
|
104
+26.8%
|
Forza Horizon 4 | 130−140
−24.2%
|
164
+24.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+0%
|
95−100
+0%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+0%
|
75−80
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3070 Ti และ RX 7800 XT แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7800 XT เร็วกว่า 22% ในความละเอียด 1080p
- RX 7800 XT เร็วกว่า 33% ในความละเอียด 1440p
- RX 7800 XT เร็วกว่า 18% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 3070 Ti เร็วกว่า 21%
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RX 7800 XT เร็วกว่า 84%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3070 Ti เหนือกว่าใน 3การทดสอบ (5%)
- RX 7800 XT เหนือกว่าใน 49การทดสอบ (80%)
- เสมอกันใน 9การทดสอบ (15%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 61.07 | 62.94 |
ความใหม่ล่าสุด | 31 พฤษภาคม 2021 | 25 สิงหาคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 290 วัตต์ | 263 วัตต์ |
RX 7800 XT มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 3.1% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 60%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 10.3%
ด้วยความแตกต่างของประสิทธิภาพที่น้อยมาก จึงไม่สามารถตัดสินผู้ชนะระหว่าง GeForce RTX 3070 Ti และ Radeon RX 7800 XT ได้อย่างชัดเจน