GeForce RTX 3080 12 GB เทียบกับ GTX 1660
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1660 และ GeForce RTX 3080 12 GB โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 3080 12 GB มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1660 อย่างมหาศาลถึง 128% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 194 | 28 |
จัดอันดับตามความนิยม | 44 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 47.07 | 41.09 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 17.34 | 13.57 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU116 | GA102 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 14 มีนาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 11 มกราคม 2022 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $219 | $799 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
GTX 1660 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 3080 12 GB อยู่ 15%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1408 | 8960 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1530 MHz | 1260 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1785 MHz | 1710 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,600 million | 28,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 350 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 157.1 | 478.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.027 TFLOPS | 30.64 TFLOPS |
ROPs | 48 | 96 |
TMUs | 88 | 280 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 280 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 70 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 229 mm | 285 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 384 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2001 MHz | 1188 MHz |
192.1 จีบี/s | 912.4 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.6 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | 8.6 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 86
−112%
| 182
+112%
|
1440p | 52
−133%
| 121
+133%
|
4K | 29
−183%
| 82
+183%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.55
+72.4%
| 4.39
−72.4%
|
1440p | 4.21
+56.8%
| 6.60
−56.8%
|
4K | 7.55
+29%
| 9.74
−29%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 111
−78.4%
|
190−200
+78.4%
|
Counter-Strike 2 | 72
−128%
|
160−170
+128%
|
Cyberpunk 2077 | 71
−125%
|
160−170
+125%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 83
−199%
|
248
+199%
|
Battlefield 5 | 100−110
−61.7%
|
170−180
+61.7%
|
Counter-Strike 2 | 56
−220%
|
179
+220%
|
Cyberpunk 2077 | 58
−176%
|
160−170
+176%
|
Far Cry 5 | 100
−71%
|
171
+71%
|
Fortnite | 130−140
−127%
|
300−350
+127%
|
Forza Horizon 4 | 132
−90.9%
|
250−260
+90.9%
|
Forza Horizon 5 | 86
−98.8%
|
171
+98.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−58%
|
170−180
+58%
|
Valorant | 306
−17.3%
|
350−400
+17.3%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 49
−196%
|
145
+196%
|
Battlefield 5 | 100−110
−61.7%
|
170−180
+61.7%
|
Counter-Strike 2 | 48
−221%
|
154
+221%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−2.6%
|
270−280
+2.6%
|
Cyberpunk 2077 | 47
−240%
|
160−170
+240%
|
Dota 2 | 219
+24.4%
|
176
−24.4%
|
Far Cry 5 | 92
−76.1%
|
162
+76.1%
|
Fortnite | 130−140
−127%
|
300−350
+127%
|
Forza Horizon 4 | 123
−105%
|
250−260
+105%
|
Forza Horizon 5 | 63
−152%
|
159
+152%
|
Grand Theft Auto V | 115
−34.8%
|
155
+34.8%
|
Metro Exodus | 57
−158%
|
147
+158%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−58%
|
170−180
+58%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 102
−215%
|
321
+215%
|
Valorant | 287
−25.1%
|
350−400
+25.1%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
−61.7%
|
170−180
+61.7%
|
Counter-Strike 2 | 43
−226%
|
140
+226%
|
Cyberpunk 2077 | 40
−300%
|
160−170
+300%
|
Dota 2 | 197
+22.4%
|
161
−22.4%
|
Far Cry 5 | 86
−75.6%
|
151
+75.6%
|
Forza Horizon 4 | 98
−157%
|
250−260
+157%
|
Forza Horizon 5 | 59
−120%
|
130−140
+120%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−58%
|
170−180
+58%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 57
−189%
|
165
+189%
|
Valorant | 115
−212%
|
350−400
+212%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 130−140
−127%
|
300−350
+127%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 24−27
−138%
|
60−65
+138%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 190−200
−148%
|
450−500
+148%
|
Grand Theft Auto V | 52
−150%
|
130
+150%
|
Metro Exodus | 33
−197%
|
98
+197%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 129
−35.7%
|
170−180
+35.7%
|
Valorant | 226
−92%
|
400−450
+92%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 75−80
−108%
|
160−170
+108%
|
Cyberpunk 2077 | 24
−279%
|
90−95
+279%
|
Far Cry 5 | 59
−149%
|
147
+149%
|
Forza Horizon 4 | 76
−186%
|
210−220
+186%
|
Forza Horizon 5 | 40
−125%
|
90−95
+125%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 45−50
−206%
|
150−160
+206%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 70−75
−116%
|
150−160
+116%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 21−24
−157%
|
55−60
+157%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−238%
|
40−45
+238%
|
Grand Theft Auto V | 49
−247%
|
170
+247%
|
Metro Exodus | 20
−225%
|
65
+225%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35
−277%
|
132
+277%
|
Valorant | 125
−164%
|
300−350
+164%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 40−45
−166%
|
110−120
+166%
|
Counter-Strike 2 | 6
−283%
|
23
+283%
|
Cyberpunk 2077 | 10
−340%
|
40−45
+340%
|
Dota 2 | 87
−79.3%
|
156
+79.3%
|
Far Cry 5 | 30
−240%
|
102
+240%
|
Forza Horizon 4 | 50
−236%
|
160−170
+236%
|
Forza Horizon 5 | 22
−127%
|
50−55
+127%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−35
−200%
|
95−100
+200%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 30−35
−139%
|
75−80
+139%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1660 และ RTX 3080 12 GB แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 12 GB เร็วกว่า 112% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3080 12 GB เร็วกว่า 133% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3080 12 GB เร็วกว่า 183% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Dota 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ GTX 1660 เร็วกว่า 24%
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 3080 12 GB เร็วกว่า 340%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 1660 เหนือกว่าใน 2การทดสอบ (3%)
- RTX 3080 12 GB เหนือกว่าใน 62การทดสอบ (97%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 30.26 | 69.09 |
ความใหม่ล่าสุด | 14 มีนาคม 2019 | 11 มกราคม 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 350 วัตต์ |
GTX 1660 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 191.7%
ในทางกลับกัน RTX 3080 12 GB มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 128.3% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 50%
GeForce RTX 3080 12 GB เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1660 ในการทดสอบประสิทธิภาพ