Radeon RX 9070 เทียบกับ GeForce GTX 1660 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1660 Ti และ Radeon RX 9070 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 9070 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1660 Ti อย่างน่าประทับใจ 93% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 181 | 39 |
จัดอันดับตามความนิยม | 31 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 39.73 | 62.28 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 19.03 | 19.99 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | RDNA 4.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | TU116 | Navi 48 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 22 กุมภาพันธ์ 2019 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 6 มีนาคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $279 | $549 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 9070 มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 1660 Ti อยู่ 57%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1536 | 3584 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1500 MHz | 1330 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1770 MHz | 2520 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,600 million | 53,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 220 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 169.9 | 564.5 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.437 TFLOPS | 36.13 TFLOPS |
ROPs | 48 | 128 |
TMUs | 96 | 224 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 112 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 56 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 5.0 x16 |
ความยาว | 229 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | 2518 MHz |
288.0 จีบี/s | 644.6 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 2.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | - |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 104
−88.5%
| 196
+88.5%
|
1440p | 59
−102%
| 119
+102%
|
4K | 39
−92.3%
| 75
+92.3%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.68
+4.4%
| 2.80
−4.4%
|
1440p | 4.73
−2.5%
| 4.61
+2.5%
|
4K | 7.15
+2.3%
| 7.32
−2.3%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 170−180
−67.6%
|
300−310
+67.6%
|
Cyberpunk 2077 | 78
−91%
|
140−150
+91%
|
Hogwarts Legacy | 65−70
−283%
|
264
+283%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 129
−29.5%
|
160−170
+29.5%
|
Counter-Strike 2 | 170−180
−67.6%
|
300−310
+67.6%
|
Cyberpunk 2077 | 71
−110%
|
140−150
+110%
|
Far Cry 5 | 109
−169%
|
293
+169%
|
Fortnite | 247
−13.8%
|
280−290
+13.8%
|
Forza Horizon 4 | 131
−77.9%
|
230−240
+77.9%
|
Forza Horizon 5 | 107
−64.5%
|
170−180
+64.5%
|
Hogwarts Legacy | 65−70
−235%
|
231
+235%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 200
+13.6%
|
170−180
−13.6%
|
Valorant | 190−200
−69.7%
|
300−350
+69.7%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 112
−49.1%
|
160−170
+49.1%
|
Counter-Strike 2 | 170−180
−67.6%
|
300−310
+67.6%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−0.7%
|
270−280
+0.7%
|
Cyberpunk 2077 | 57
−161%
|
140−150
+161%
|
Dota 2 | 181
−65.7%
|
300−310
+65.7%
|
Far Cry 5 | 99
−187%
|
284
+187%
|
Fortnite | 143
−96.5%
|
280−290
+96.5%
|
Forza Horizon 4 | 122
−91%
|
230−240
+91%
|
Forza Horizon 5 | 94
−87.2%
|
170−180
+87.2%
|
Grand Theft Auto V | 119
−37%
|
160−170
+37%
|
Hogwarts Legacy | 65−70
−161%
|
180
+161%
|
Metro Exodus | 55
−176%
|
150−160
+176%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150
−17.3%
|
170−180
+17.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 116
−282%
|
443
+282%
|
Valorant | 190−200
−69.7%
|
300−350
+69.7%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 102
−63.7%
|
160−170
+63.7%
|
Cyberpunk 2077 | 46
−224%
|
140−150
+224%
|
Dota 2 | 168
−78.6%
|
300−310
+78.6%
|
Far Cry 5 | 94
−186%
|
269
+186%
|
Forza Horizon 4 | 97
−140%
|
230−240
+140%
|
Hogwarts Legacy | 65−70
−92.8%
|
133
+92.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 129
−36.4%
|
170−180
+36.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 62
−303%
|
250
+303%
|
Valorant | 118
−181%
|
300−350
+181%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 117
−140%
|
280−290
+140%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 70−75
−139%
|
170−180
+139%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 210−220
−106%
|
400−450
+106%
|
Grand Theft Auto V | 62
−103%
|
120−130
+103%
|
Metro Exodus | 33
−200%
|
95−100
+200%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 230−240
−67.2%
|
350−400
+67.2%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 76
−94.7%
|
140−150
+94.7%
|
Cyberpunk 2077 | 27
−207%
|
80−85
+207%
|
Far Cry 5 | 67
−264%
|
244
+264%
|
Forza Horizon 4 | 77
−156%
|
190−200
+156%
|
Hogwarts Legacy | 35−40
−192%
|
105
+192%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 55−60
−241%
|
191
+241%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 75
−101%
|
150−160
+101%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
−132%
|
75−80
+132%
|
Grand Theft Auto V | 56
−159%
|
140−150
+159%
|
Hogwarts Legacy | 20−22
−115%
|
40−45
+115%
|
Metro Exodus | 21
−200%
|
60−65
+200%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 43
−286%
|
166
+286%
|
Valorant | 180−190
−72.9%
|
300−350
+72.9%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 43
−147%
|
100−110
+147%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−132%
|
75−80
+132%
|
Cyberpunk 2077 | 11
−255%
|
35−40
+255%
|
Dota 2 | 94
−91.5%
|
180−190
+91.5%
|
Far Cry 5 | 35
−283%
|
134
+283%
|
Forza Horizon 4 | 51
−188%
|
140−150
+188%
|
Hogwarts Legacy | 20−22
−205%
|
61
+205%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 39
−146%
|
95−100
+146%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 25
−216%
|
75−80
+216%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1660 Ti และ RX 9070 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 9070 เร็วกว่า 88% ในความละเอียด 1080p
- RX 9070 เร็วกว่า 102% ในความละเอียด 1440p
- RX 9070 เร็วกว่า 92% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ GTX 1660 Ti เร็วกว่า 14%
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 9070 เร็วกว่า 303%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 1660 Ti เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
- RX 9070 เหนือกว่าใน 61การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 30.61 | 58.97 |
ความใหม่ล่าสุด | 22 กุมภาพันธ์ 2019 | 6 มีนาคม 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 220 วัตต์ |
GTX 1660 Ti มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 83.3%
ในทางกลับกัน RX 9070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 92.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 6 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%
Radeon RX 9070 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1660 Ti ในการทดสอบประสิทธิภาพ