GeForce RTX 5070 Ti เทียบกับ GTX 1050
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1050 และ GeForce RTX 5070 Ti โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 5070 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1050 อย่างมหาศาลถึง 549% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
| ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 441 | 14 |
| จัดอันดับตามความนิยม | 26 | 61 |
| ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 9.39 | 60.45 |
| ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.24 | 19.87 |
| สถาปัตยกรรม | Pascal (2016−2021) | Blackwell 2.0 (2025−2026) |
| ชื่อรหัส GPU | GP107 | GB203 |
| ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
| วันที่วางจำหน่าย | 25 ตุลาคม 2016 (เมื่อ 9 ปี ปีที่แล้ว) | 20 กุมภาพันธ์ 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
| ราคาเปิดตัว (MSRP) | $109 | $749 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 5070 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 1050 อยู่ 544%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
| พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 640 | 8960 |
| ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1290 MHz | 2295 MHz |
| เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1392 MHz | 2452 MHz |
| จำนวนทรานซิสเตอร์ | 3,300 million | 45,600 million |
| เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 5 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 75 Watt | 300 Watt |
| อุณหภูมิ GPU สูงสุด | 97 °C | ไม่มีข้อมูล |
| อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 58.20 | 686.6 |
| ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 1.862 TFLOPS | 43.94 TFLOPS |
| ROPs | 32 | 96 |
| TMUs | 40 | 280 |
| Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 280 |
| Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 70 |
| L1 Cache | 240 เคบี | 8.8 เอ็มบี |
| L2 Cache | 1024 เคบี | 48 เอ็มบี |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
| การรองรับบัส | PCIe 3.0 | ไม่มีข้อมูล |
| อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 5.0 x16 |
| ความยาว | 145 mm | 304 mm |
| ความสูง | 11.1 ซม | ไม่มีข้อมูล |
| ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
| กำลังไฟระบบที่แนะนำ (PSU) | 300 วัตต์ | ไม่มีข้อมูล |
| ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
| SLI | - | ไม่มีข้อมูล |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
| ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR7 |
| จำนวน RAM สูงสุด | 2 จีบี | 16 จีบี |
| ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
| ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1752 MHz | 1750 MHz |
| 112 จีบี/s | 896.0 จีบี/s | |
| หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
| Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
| ขั้วต่อจอแสดงผล | DP 1.4, HDMI 2.0b, Dual Link-DVI | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
| รองรับหลายจอภาพ | + | ไม่มีข้อมูล |
| HDMI | + | + |
| HDCP | 2.2 | - |
| รองรับ G-SYNC | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
| GameStream | + | - |
| GPU Boost | 3.0 | ไม่มีข้อมูล |
| VR Ready | + | ไม่มีข้อมูล |
| Ansel | + | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
| DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
| รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.8 |
| OpenGL | 4.5 | 4.6 |
| OpenCL | 1.2 | 3.0 |
| Vulkan | 1.2.131 | 1.4 |
| CUDA | + | 12.0 |
| DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
| Full HD | 43
−451%
| 237
+451%
|
| 1440p | 22
−527%
| 138
+527%
|
| 4K | 23
−287%
| 89
+287%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
| 1080p | 2.53
+24.7%
| 3.16
−24.7%
|
| 1440p | 4.95
+9.5%
| 5.43
−9.5%
|
| 4K | 4.74
+77.6%
| 8.42
−77.6%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low
| Counter-Strike 2 | 65−70
−393%
|
300−350
+393%
|
| Cyberpunk 2077 | 24−27
−712%
|
200−210
+712%
|
| Hogwarts Legacy | 21−24
−905%
|
221
+905%
|
Full HD
Medium
| Battlefield 5 | 56
−252%
|
190−200
+252%
|
| Counter-Strike 2 | 65−70
−393%
|
300−350
+393%
|
| Cyberpunk 2077 | 24−27
−712%
|
200−210
+712%
|
| Far Cry 5 | 40−45
−745%
|
338
+745%
|
| Fortnite | 70−75
−325%
|
300−350
+325%
|
| Forza Horizon 4 | 50−55
−531%
|
300−350
+531%
|
| Forza Horizon 5 | 35−40
−495%
|
220−230
+495%
|
| Hogwarts Legacy | 21−24
−814%
|
201
+814%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−298%
|
170−180
+298%
|
| Valorant | 100−110
−363%
|
500−550
+363%
|
Full HD
High
| Battlefield 5 | 43
−358%
|
190−200
+358%
|
| Counter-Strike 2 | 65−70
−393%
|
300−350
+393%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 250
−11.2%
|
270−280
+11.2%
|
| Cyberpunk 2077 | 24−27
−712%
|
200−210
+712%
|
| Dota 2 | 124
−545%
|
800−850
+545%
|
| Far Cry 5 | 40−45
−703%
|
321
+703%
|
| Fortnite | 53
−470%
|
300−350
+470%
|
| Forza Horizon 4 | 49
−569%
|
300−350
+569%
|
| Forza Horizon 5 | 35−40
−495%
|
220−230
+495%
|
| Grand Theft Auto V | 53
−228%
|
170−180
+228%
|
| Hogwarts Legacy | 21−24
−709%
|
178
+709%
|
| Metro Exodus | 17
−1318%
|
241
+1318%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−298%
|
170−180
+298%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 38
−1292%
|
529
+1292%
|
| Valorant | 100−110
−363%
|
500−550
+363%
|
Full HD
Ultra
| Battlefield 5 | 36
−447%
|
190−200
+447%
|
| Cyberpunk 2077 | 24−27
−712%
|
200−210
+712%
|
| Dota 2 | 112
−525%
|
700−750
+525%
|
| Far Cry 5 | 40−45
−660%
|
304
+660%
|
| Forza Horizon 4 | 34
−865%
|
300−350
+865%
|
| Hogwarts Legacy | 21−24
−550%
|
143
+550%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−298%
|
170−180
+298%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 20
−1155%
|
251
+1155%
|
| Valorant | 28
−1686%
|
500−550
+1686%
|
Full HD
Epic
| Fortnite | 42
−619%
|
300−350
+619%
|
1440p
High
| Counter-Strike 2 | 21−24
−1017%
|
250−260
+1017%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 90−95
−461%
|
500−550
+461%
|
| Grand Theft Auto V | 7
−2186%
|
160−170
+2186%
|
| Metro Exodus | 14−16
−993%
|
153
+993%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
−76.8%
|
170−180
+76.8%
|
| Valorant | 130−140
−273%
|
450−500
+273%
|
1440p
Ultra
| Battlefield 5 | 27
−626%
|
190−200
+626%
|
| Cyberpunk 2077 | 10−11
−1130%
|
120−130
+1130%
|
| Far Cry 5 | 24−27
−900%
|
260
+900%
|
| Forza Horizon 4 | 27−30
−910%
|
290−300
+910%
|
| Hogwarts Legacy | 12−14
−723%
|
107
+723%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 18−20
−1044%
|
206
+1044%
|
1440p
Epic
| Fortnite | 24−27
−481%
|
150−160
+481%
|
4K
High
| Counter-Strike 2 | 7−8
−1571%
|
110−120
+1571%
|
| Grand Theft Auto V | 24
−667%
|
180−190
+667%
|
| Hogwarts Legacy | 7−8
−1029%
|
79
+1029%
|
| Metro Exodus | 8−9
−1163%
|
101
+1163%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 15
−1220%
|
198
+1220%
|
| Valorant | 65−70
−400%
|
300−350
+400%
|
4K
Ultra
| Battlefield 5 | 16−18
−700%
|
130−140
+700%
|
| Counter-Strike 2 | 7−8
−1571%
|
110−120
+1571%
|
| Cyberpunk 2077 | 4−5
−1400%
|
60−65
+1400%
|
| Dota 2 | 47
−538%
|
300−310
+538%
|
| Far Cry 5 | 12−14
−1031%
|
147
+1031%
|
| Forza Horizon 4 | 21−24
−1157%
|
260−270
+1157%
|
| Hogwarts Legacy | 7−8
−800%
|
63
+800%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 12−14
−700%
|
95−100
+700%
|
4K
Epic
| Fortnite | 12−14
−558%
|
75−80
+558%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1050 และ RTX 5070 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5070 Ti เร็วกว่า 451% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5070 Ti เร็วกว่า 527% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5070 Ti เร็วกว่า 287% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Grand Theft Auto V ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 5070 Ti เร็วกว่า 2186%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 5070 Ti เหนือกว่า GTX 1050 ในการทดสอบทั้ง 63 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
| คะแนนประสิทธิภาพ | 11.38 | 73.90 |
| ความใหม่ล่าสุด | 25 ตุลาคม 2016 | 20 กุมภาพันธ์ 2025 |
| จำนวน RAM สูงสุด | 2 จีบี | 16 จีบี |
| การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 5 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 75 วัตต์ | 300 วัตต์ |
GTX 1050 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 300%
ในทางกลับกัน RTX 5070 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 549.4% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 8 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 180%
GeForce RTX 5070 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1050 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
