Radeon RX 9070 เทียบกับ Arc A730M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Arc A730M กับ Radeon RX 9070 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX 9070 มีประสิทธิภาพดีกว่า Arc A730M อย่างมหาศาลถึง 153% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 241 | 41 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 62.16 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 21.74 | 19.98 |
สถาปัตยกรรม | Generation 12.7 (2022−2023) | RDNA 4.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | DG2-512 | Navi 48 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 2022 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 6 มีนาคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $549 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3072 | 3584 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1100 MHz | 1330 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2050 MHz | 2520 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 21,700 million | 53,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 80 Watt | 220 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 393.6 | 564.5 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 12.6 TFLOPS | 36.13 TFLOPS |
ROPs | 96 | 128 |
TMUs | 192 | 224 |
Tensor Cores | 384 | 112 |
Ray Tracing Cores | 24 | 56 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 5.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 267 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | ไม่มีข้อมูล | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 2518 MHz |
336.0 จีบี/s | 644.6 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | Portable Device Dependent | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 2.2 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 74
−165%
| 196
+165%
|
1440p | 45
−164%
| 119
+164%
|
4K | 22
−241%
| 75
+241%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 2.80 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 4.61 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 7.32 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Baldur's Gate 3 | 80
−289%
|
311
+289%
|
Counter-Strike 2 | 169
−76.9%
|
290−300
+76.9%
|
Cyberpunk 2077 | 71
−108%
|
140−150
+108%
|
Full HD
Medium Preset
Baldur's Gate 3 | 60
−307%
|
244
+307%
|
Battlefield 5 | 95−100
−75.8%
|
160−170
+75.8%
|
Counter-Strike 2 | 155
−92.9%
|
290−300
+92.9%
|
Cyberpunk 2077 | 64
−131%
|
140−150
+131%
|
Far Cry 5 | 93
−215%
|
293
+215%
|
Fortnite | 110−120
−137%
|
280−290
+137%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
−144%
|
230−240
+144%
|
Forza Horizon 5 | 86
−108%
|
170−180
+108%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 90−95
−89.2%
|
170−180
+89.2%
|
Valorant | 160−170
−100%
|
300−350
+100%
|
Full HD
High Preset
Baldur's Gate 3 | 63
−232%
|
209
+232%
|
Battlefield 5 | 95−100
−75.8%
|
160−170
+75.8%
|
Counter-Strike 2 | 98
−205%
|
290−300
+205%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 250−260
−8.2%
|
270−280
+8.2%
|
Cyberpunk 2077 | 54
−174%
|
140−150
+174%
|
Dota 2 | 90
−144%
|
220−230
+144%
|
Far Cry 5 | 86
−230%
|
284
+230%
|
Fortnite | 110−120
−137%
|
280−290
+137%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
−144%
|
230−240
+144%
|
Forza Horizon 5 | 80
−124%
|
170−180
+124%
|
Grand Theft Auto V | 72
−126%
|
160−170
+126%
|
Metro Exodus | 43
−251%
|
150−160
+251%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 90−95
−89.2%
|
170−180
+89.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 110
−303%
|
443
+303%
|
Valorant | 160−170
−100%
|
300−350
+100%
|
Full HD
Ultra Preset
Baldur's Gate 3 | 56
−264%
|
204
+264%
|
Battlefield 5 | 95−100
−75.8%
|
160−170
+75.8%
|
Cyberpunk 2077 | 52
−185%
|
140−150
+185%
|
Dota 2 | 80
−150%
|
200−210
+150%
|
Far Cry 5 | 81
−232%
|
269
+232%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
−144%
|
230−240
+144%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 90−95
−89.2%
|
170−180
+89.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 45
−456%
|
250
+456%
|
Valorant | 102
−224%
|
300−350
+224%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 110−120
−137%
|
280−290
+137%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 53
−232%
|
170−180
+232%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 160−170
−164%
|
400−450
+164%
|
Grand Theft Auto V | 40−45
−195%
|
120−130
+195%
|
Metro Exodus | 30−35
−206%
|
95−100
+206%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 200−210
−89.7%
|
350−400
+89.7%
|
1440p
Ultra Preset
Baldur's Gate 3 | 30−35
−359%
|
147
+359%
|
Battlefield 5 | 65−70
−119%
|
140−150
+119%
|
Cyberpunk 2077 | 31
−165%
|
80−85
+165%
|
Far Cry 5 | 55−60
−344%
|
244
+344%
|
Forza Horizon 4 | 60−65
−216%
|
190−200
+216%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 40−45
−378%
|
191
+378%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 55−60
−165%
|
150−160
+165%
|
4K
High Preset
Baldur's Gate 3 | 16−18
−325%
|
65−70
+325%
|
Counter-Strike 2 | 7
−1029%
|
75−80
+1029%
|
Grand Theft Auto V | 34
−326%
|
140−150
+326%
|
Metro Exodus | 21
−195%
|
60−65
+195%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35−40
−361%
|
166
+361%
|
Valorant | 140−150
−131%
|
300−350
+131%
|
4K
Ultra Preset
Baldur's Gate 3 | 9
−778%
|
79
+778%
|
Battlefield 5 | 35−40
−184%
|
100−110
+184%
|
Counter-Strike 2 | 24−27
−229%
|
75−80
+229%
|
Cyberpunk 2077 | 10−11
−290%
|
35−40
+290%
|
Dota 2 | 75−80
−144%
|
190−200
+144%
|
Far Cry 5 | 35
−283%
|
134
+283%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−248%
|
140−150
+248%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 24−27
−284%
|
95−100
+284%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 24−27
−204%
|
75−80
+204%
|
นี่คือวิธีที่ Arc A730M และ RX 9070 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 9070 เร็วกว่า 165% ในความละเอียด 1080p
- RX 9070 เร็วกว่า 164% ในความละเอียด 1440p
- RX 9070 เร็วกว่า 241% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 9070 เร็วกว่า 1029%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 9070 เหนือกว่าใน 62การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 24.57 | 62.09 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 80 วัตต์ | 220 วัตต์ |
Arc A730M มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 175%
ในทางกลับกัน RX 9070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 152.7% และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 20%
Radeon RX 9070 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Arc A730M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Arc A730M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ Radeon RX 9070 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป