GeForce RTX 5060 เทียบกับ Radeon VII
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon VII และ GeForce RTX 5060 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 5060 มีประสิทธิภาพดีกว่า VII อย่างมหาศาล 31% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 119 | 62 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 21.89 | 100.00 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 9.94 | 26.44 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.1 (2018−2022) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 20 | GB206 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 กุมภาพันธ์ 2019 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 19 พฤษภาคม 2025 (เร็ว ๆ นี้) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $699 | $299 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 5060 มีความคุ้มค่ามากกว่า Radeon VII อยู่ 357%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3840 | 3840 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1400 MHz | 2280 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1750 MHz | 2497 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,230 million | 21,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 295 Watt | 145 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 420.0 | 299.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 13.44 TFLOPS | 19.18 TFLOPS |
ROPs | 64 | 48 |
TMUs | 240 | 120 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 120 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 30 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 5.0 x8 |
ความยาว | 280 mm | 241 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 4096 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1000 MHz | 1750 MHz |
1024 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.0b, 3x DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.1 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.4 |
CUDA | - | 12.0 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 120
−28.3%
| 154
+28.3%
|
1440p | 74
−5.4%
| 78
+5.4%
|
4K | 57
+9.6%
| 52
−9.6%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 5.83
−200%
| 1.94
+200%
|
1440p | 9.45
−146%
| 3.83
+146%
|
4K | 12.26
−113%
| 5.75
+113%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 220−230
−23.1%
|
270−280
+23.1%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
−35.9%
|
120−130
+35.9%
|
Dead Island 2 | 180−190
−31.5%
|
230−240
+31.5%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 136
−13.2%
|
150−160
+13.2%
|
Counter-Strike 2 | 220−230
−23.1%
|
270−280
+23.1%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
−35.9%
|
120−130
+35.9%
|
Dead Island 2 | 180−190
−31.5%
|
230−240
+31.5%
|
Far Cry 5 | 99
−153%
|
250
+153%
|
Fortnite | 195
−15.4%
|
220−230
+15.4%
|
Forza Horizon 4 | 163
−21.5%
|
190−200
+21.5%
|
Forza Horizon 5 | 120−130
−27.6%
|
150−160
+27.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 157
−11.5%
|
170−180
+11.5%
|
Valorant | 220−230
−24.1%
|
280−290
+24.1%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 137
−12.4%
|
150−160
+12.4%
|
Counter-Strike 2 | 220−230
−23.1%
|
270−280
+23.1%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
−35.9%
|
120−130
+35.9%
|
Dead Island 2 | 180−190
−31.5%
|
230−240
+31.5%
|
Dota 2 | 160
−25%
|
200−210
+25%
|
Far Cry 5 | 95
−140%
|
228
+140%
|
Fortnite | 154
−46.1%
|
220−230
+46.1%
|
Forza Horizon 4 | 157
−26.1%
|
190−200
+26.1%
|
Forza Horizon 5 | 120−130
−27.6%
|
150−160
+27.6%
|
Grand Theft Auto V | 111
−36.9%
|
150−160
+36.9%
|
Metro Exodus | 88
−45.5%
|
120−130
+45.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 158
−10.8%
|
170−180
+10.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 139
−106%
|
286
+106%
|
Valorant | 220−230
−24.1%
|
280−290
+24.1%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 127
−21.3%
|
150−160
+21.3%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
−35.9%
|
120−130
+35.9%
|
Dead Island 2 | 180−190
−31.5%
|
230−240
+31.5%
|
Dota 2 | 147
−29.3%
|
190−200
+29.3%
|
Far Cry 5 | 91
−134%
|
213
+134%
|
Forza Horizon 4 | 130
−52.3%
|
190−200
+52.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 143
−22.4%
|
170−180
+22.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 75
−90.7%
|
143
+90.7%
|
Valorant | 197
−43.7%
|
280−290
+43.7%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 114
−97.4%
|
220−230
+97.4%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 100−110
−43.6%
|
140−150
+43.6%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−34.7%
|
350−400
+34.7%
|
Grand Theft Auto V | 43
−153%
|
100−110
+153%
|
Metro Exodus | 56
−44.6%
|
80−85
+44.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 250−260
−22.8%
|
300−350
+22.8%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−105
−26%
|
120−130
+26%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−45.7%
|
65−70
+45.7%
|
Dead Island 2 | 80−85
−44%
|
120−130
+44%
|
Far Cry 5 | 95−100
−51%
|
145
+51%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
−41.6%
|
160−170
+41.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 75−80
−39.5%
|
106
+39.5%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 100−110
−37.5%
|
140−150
+37.5%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 45−50
−41.3%
|
65−70
+41.3%
|
Dead Island 2 | 35−40
−18.4%
|
45−50
+18.4%
|
Grand Theft Auto V | 62
−96.8%
|
120−130
+96.8%
|
Metro Exodus | 37
−35.1%
|
50−55
+35.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 54
−68.5%
|
91
+68.5%
|
Valorant | 240−250
−24.6%
|
290−300
+24.6%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 73
−17.8%
|
85−90
+17.8%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
−41.3%
|
65−70
+41.3%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
−47.6%
|
30−35
+47.6%
|
Dead Island 2 | 35−40
−39.5%
|
50−55
+39.5%
|
Dota 2 | 78
−28.2%
|
100−105
+28.2%
|
Far Cry 5 | 59
−27.1%
|
75
+27.1%
|
Forza Horizon 4 | 77
−45.5%
|
110−120
+45.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 58
−48.3%
|
85−90
+48.3%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 44
−70.5%
|
75−80
+70.5%
|
นี่คือวิธีที่ Radeon VII และ RTX 5060 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5060 เร็วกว่า 28% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5060 เร็วกว่า 5% ในความละเอียด 1440p
- Radeon VII เร็วกว่า 10% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Grand Theft Auto V ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 5060 เร็วกว่า 153%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 5060 เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 41.10 | 53.73 |
ความใหม่ล่าสุด | 7 กุมภาพันธ์ 2019 | 19 พฤษภาคม 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 295 วัตต์ | 145 วัตต์ |
Radeon VII มีข้อได้เปรียบ
ในทางกลับกัน RTX 5060 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 30.7% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 6 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 40%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 103.4%
GeForce RTX 5060 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon VII ในการทดสอบประสิทธิภาพ