GeForce GTX 460 768MB เทียบกับ Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000)
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) กับ GeForce GTX 460 768MB รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 460 768MB อย่างมหาศาลถึง 106% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 499 | 687 |
จัดอันดับตามความนิยม | 31 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 40.92 | ไม่มีข้อมูล |
สถาปัตยกรรม | Vega (2017−2020) | Fermi (2010−2014) |
ชื่อรหัส GPU | Vega | ไม่มีข้อมูล |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 มกราคม 2020 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | ไม่มีข้อมูล |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 512 | 336 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | ไม่มีข้อมูล | 675 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2100 MHz | ไม่มีข้อมูล |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | ไม่มีข้อมูล |
การใช้พลังงาน (TDP) | 15 Watt | ไม่มีข้อมูล |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | ไม่มีข้อมูล | GDDR5 |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | ไม่มีข้อมูล | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | ไม่มีข้อมูล | 1800 MHz |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12_1 | 11 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 22
−114%
| 47
+114%
|
1440p | 17
+113%
| 8−9
−113%
|
4K | 10
+150%
| 4−5
−150%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 24
+140%
|
10−11
−140%
|
Counter-Strike 2 | 63
+294%
|
16−18
−294%
|
Cyberpunk 2077 | 18
+125%
|
8−9
−125%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 19
+90%
|
10−11
−90%
|
Battlefield 5 | 39
+144%
|
16−18
−144%
|
Counter-Strike 2 | 43
+169%
|
16−18
−169%
|
Cyberpunk 2077 | 13
+62.5%
|
8−9
−62.5%
|
Far Cry 5 | 21
+90.9%
|
10−12
−90.9%
|
Fortnite | 47
+104%
|
21−24
−104%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
+94.7%
|
18−20
−94.7%
|
Forza Horizon 5 | 33
+230%
|
10−11
−230%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−33
+76.5%
|
16−18
−76.5%
|
Valorant | 80−85
+52.7%
|
55−60
−52.7%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 11
+10%
|
10−11
−10%
|
Battlefield 5 | 33
+106%
|
16−18
−106%
|
Counter-Strike 2 | 19
+18.8%
|
16−18
−18.8%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 48
−50%
|
70−75
+50%
|
Cyberpunk 2077 | 9
+12.5%
|
8−9
−12.5%
|
Dota 2 | 51
+41.7%
|
35−40
−41.7%
|
Far Cry 5 | 20
+81.8%
|
10−12
−81.8%
|
Fortnite | 31
+34.8%
|
21−24
−34.8%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
+94.7%
|
18−20
−94.7%
|
Forza Horizon 5 | 28
+180%
|
10−11
−180%
|
Grand Theft Auto V | 19
+26.7%
|
15
−26.7%
|
Metro Exodus | 16
+129%
|
7−8
−129%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−33
+76.5%
|
16−18
−76.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 21
+75%
|
12−14
−75%
|
Valorant | 80−85
+52.7%
|
55−60
−52.7%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 30
+87.5%
|
16−18
−87.5%
|
Cyberpunk 2077 | 9
+12.5%
|
8−9
−12.5%
|
Dota 2 | 48
+33.3%
|
35−40
−33.3%
|
Far Cry 5 | 19
+72.7%
|
10−12
−72.7%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
+94.7%
|
18−20
−94.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−33
+76.5%
|
16−18
−76.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 14
+16.7%
|
12−14
−16.7%
|
Valorant | 37
−48.6%
|
55−60
+48.6%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 18
−27.8%
|
21−24
+27.8%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 14−16
+133%
|
6−7
−133%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 21
−47.6%
|
30−35
+47.6%
|
Grand Theft Auto V | 9
+125%
|
4−5
−125%
|
Metro Exodus | 10
+400%
|
2−3
−400%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 22
−40.9%
|
30−35
+40.9%
|
Valorant | 90−95
+119%
|
40−45
−119%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 21
+2000%
|
1−2
−2000%
|
Cyberpunk 2077 | 5
+66.7%
|
3−4
−66.7%
|
Far Cry 5 | 16
+129%
|
7−8
−129%
|
Forza Horizon 4 | 20−22
+100%
|
10−11
−100%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 12−14
+117%
|
6−7
−117%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 16−18
+113%
|
8−9
−113%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 7−8
+133%
|
3−4
−133%
|
Counter-Strike 2 | 1−2 | 0−1 |
Grand Theft Auto V | 10
−60%
|
16−18
+60%
|
Metro Exodus | 6
+200%
|
2−3
−200%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 8−9
+167%
|
3−4
−167%
|
Valorant | 40−45
+110%
|
21−24
−110%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 9−10 | 0−1 |
Counter-Strike 2 | 1−2 | 0−1 |
Cyberpunk 2077 | 3−4
+200%
|
1−2
−200%
|
Dota 2 | 18
+38.5%
|
12−14
−38.5%
|
Far Cry 5 | 8
+100%
|
4−5
−100%
|
Forza Horizon 4 | 14−16
+180%
|
5−6
−180%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 8−9
+100%
|
4−5
−100%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 8−9
+100%
|
4−5
−100%
|
นี่คือวิธีที่ RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) และ GTX 460 768MB แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- GTX 460 768MB เร็วกว่า 114% ในความละเอียด 1080p
- RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เร็วกว่า 113% ในความละเอียด 1440p
- RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เร็วกว่า 150% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Battlefield 5 ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เร็วกว่า 2000%
- ในเกม Grand Theft Auto V ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ GTX 460 768MB เร็วกว่า 60%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เหนือกว่าใน 52การทดสอบ (90%)
- GTX 460 768MB เหนือกว่าใน 6การทดสอบ (10%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 7.71 | 3.74 |
RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 106.1%
Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 460 768MB ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce GTX 460 768MB เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป