GeForce RTX 5070 Ti เทียบกับ Radeon RX 7600
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 7600 และ GeForce RTX 5070 Ti โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 5070 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 7600 อย่างน่าประทับใจ 98% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 100 | 7 |
จัดอันดับตามความนิยม | 54 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 92.80 | 55.37 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 17.82 | 19.38 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 3.0 (2022−2025) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 33 | GB203 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 24 พฤษภาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) | 20 กุมภาพันธ์ 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $269 | $749 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 7600 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 5070 Ti อยู่ 68%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 8960 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1720 MHz | 2295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2655 MHz | 2452 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,300 million | 45,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 165 Watt | 300 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 339.8 | 686.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 21.75 TFLOPS | 43.94 TFLOPS |
ROPs | 64 | 96 |
TMUs | 128 | 280 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 280 |
Ray Tracing Cores | 32 | 70 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 5.0 x16 |
ความยาว | 204 mm | 304 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2250 MHz | 1750 MHz |
288.0 จีบี/s | 896.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1a, 3x DisplayPort 2.1 | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.4 |
CUDA | - | 12.0 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 141
−58.9%
| 224
+58.9%
|
1440p | 71
−87.3%
| 133
+87.3%
|
4K | 37
−138%
| 88
+138%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 1.91
+75.3%
| 3.34
−75.3%
|
1440p | 3.79
+48.6%
| 5.63
−48.6%
|
4K | 7.27
+17.1%
| 8.51
−17.1%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 348
+5.1%
|
300−350
−5.1%
|
Cyberpunk 2077 | 148
−37.2%
|
200−210
+37.2%
|
Hogwarts Legacy | 161
−37.3%
|
221
+37.3%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 130−140
−45.9%
|
190−200
+45.9%
|
Counter-Strike 2 | 336
+1.5%
|
300−350
−1.5%
|
Cyberpunk 2077 | 117
−73.5%
|
200−210
+73.5%
|
Far Cry 5 | 183
−78.1%
|
326
+78.1%
|
Fortnite | 170−180
−75.6%
|
300−350
+75.6%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
−114%
|
300−350
+114%
|
Forza Horizon 5 | 120−130
−79%
|
220−230
+79%
|
Hogwarts Legacy | 120
−65%
|
198
+65%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
−12.8%
|
170−180
+12.8%
|
Valorant | 230−240
−117%
|
500−550
+117%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 130−140
−45.9%
|
190−200
+45.9%
|
Counter-Strike 2 | 179
−84.9%
|
300−350
+84.9%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 100
−103%
|
200−210
+103%
|
Far Cry 5 | 174
−78.2%
|
310
+78.2%
|
Fortnite | 170−180
−75.6%
|
300−350
+75.6%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
−114%
|
300−350
+114%
|
Forza Horizon 5 | 120−130
−79%
|
220−230
+79%
|
Grand Theft Auto V | 150
−15.3%
|
170−180
+15.3%
|
Hogwarts Legacy | 94
−89.4%
|
178
+89.4%
|
Metro Exodus | 113
−113%
|
241
+113%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
−12.8%
|
170−180
+12.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 210
−152%
|
529
+152%
|
Valorant | 230−240
−117%
|
500−550
+117%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
−45.9%
|
190−200
+45.9%
|
Cyberpunk 2077 | 90
−126%
|
200−210
+126%
|
Far Cry 5 | 163
−80.4%
|
294
+80.4%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
−114%
|
300−350
+114%
|
Hogwarts Legacy | 71
−90.1%
|
135
+90.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
−12.8%
|
170−180
+12.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 123
−100%
|
246
+100%
|
Valorant | 230−240
−117%
|
500−550
+117%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 170−180
−75.6%
|
300−350
+75.6%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 90
−186%
|
250−260
+186%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−86.3%
|
500−550
+86.3%
|
Grand Theft Auto V | 77
−106%
|
150−160
+106%
|
Metro Exodus | 65
−135%
|
153
+135%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 260−270
−85.8%
|
450−500
+85.8%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
−94.1%
|
190−200
+94.1%
|
Cyberpunk 2077 | 56
−121%
|
120−130
+121%
|
Far Cry 5 | 115
−118%
|
251
+118%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
−157%
|
290−300
+157%
|
Hogwarts Legacy | 50
−104%
|
102
+104%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 86
−136%
|
203
+136%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 100−110
−42.5%
|
150−160
+42.5%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 22
−432%
|
110−120
+432%
|
Grand Theft Auto V | 82
−126%
|
180−190
+126%
|
Hogwarts Legacy | 24−27
−204%
|
79
+204%
|
Metro Exodus | 38
−166%
|
101
+166%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 59
−222%
|
190
+222%
|
Valorant | 240−250
−36.6%
|
300−350
+36.6%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
−113%
|
130−140
+113%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
−149%
|
110−120
+149%
|
Cyberpunk 2077 | 24
−154%
|
60−65
+154%
|
Far Cry 5 | 57
−153%
|
144
+153%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
−248%
|
260−270
+248%
|
Hogwarts Legacy | 22
−186%
|
63
+186%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
−74.5%
|
95−100
+74.5%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 50−55
−49.1%
|
75−80
+49.1%
|
นี่คือวิธีที่ RX 7600 และ RTX 5070 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5070 Ti เร็วกว่า 59% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5070 Ti เร็วกว่า 87% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5070 Ti เร็วกว่า 138% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RX 7600 เร็วกว่า 5%
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 5070 Ti เร็วกว่า 432%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 7600 เหนือกว่าใน 2การทดสอบ (3%)
- RTX 5070 Ti เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (94%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 39.39 | 77.90 |
ความใหม่ล่าสุด | 24 พฤษภาคม 2023 | 20 กุมภาพันธ์ 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 165 วัตต์ | 300 วัตต์ |
RX 7600 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 81.8%
ในทางกลับกัน RTX 5070 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 97.8% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 20%
GeForce RTX 5070 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 7600 ในการทดสอบประสิทธิภาพ