GeForce RTX 4070 Ti SUPER เทียบกับ Radeon RX 6800M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 6800M กับ GeForce RTX 4070 Ti SUPER รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4070 Ti SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 6800M อย่างมหาศาลถึง 139% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 154 | 9 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 91 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 49.14 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 16.37 | 19.90 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 2.0 (2020−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 22 | AD103 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 31 พฤษภาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $799 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2560 | 8448 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2116 MHz | 2340 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2390 MHz | 2610 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 17,200 million | 45,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 145 Watt | 285 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 382.4 | 689.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 12.24 TFLOPS | 44.1 TFLOPS |
ROPs | 64 | 96 |
TMUs | 160 | 264 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 264 |
Ray Tracing Cores | 40 | 66 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 310 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 3-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 1313 MHz |
384.0 จีบี/s | 672.3 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.1 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | - | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 108
−106%
| 222
+106%
|
1440p | 71
−106%
| 146
+106%
|
4K | 44
−102%
| 89
+102%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 3.60 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 5.47 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 8.98 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 154
−48.7%
|
220−230
+48.7%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
−78.4%
|
300−350
+78.4%
|
Cyberpunk 2077 | 123
−60.2%
|
197
+60.2%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 121
−89.3%
|
220−230
+89.3%
|
Battlefield 5 | 143
−35%
|
190−200
+35%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
−78.4%
|
300−350
+78.4%
|
Cyberpunk 2077 | 110
−78.2%
|
196
+78.2%
|
Far Cry 5 | 106
−91.5%
|
203
+91.5%
|
Fortnite | 140−150
−108%
|
300−350
+108%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−154%
|
300−350
+154%
|
Forza Horizon 5 | 131
−64.9%
|
210−220
+64.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120−130
−37.2%
|
170−180
+37.2%
|
Valorant | 190−200
−137%
|
450−500
+137%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 85
−169%
|
220−230
+169%
|
Battlefield 5 | 141
−36.9%
|
190−200
+36.9%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
−78.4%
|
300−350
+78.4%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−0.7%
|
270−280
+0.7%
|
Cyberpunk 2077 | 102
−68.6%
|
172
+68.6%
|
Dota 2 | 126
−138%
|
300−310
+138%
|
Far Cry 5 | 102
−93.1%
|
197
+93.1%
|
Fortnite | 140−150
−108%
|
300−350
+108%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−154%
|
300−350
+154%
|
Forza Horizon 5 | 125
−72.8%
|
210−220
+72.8%
|
Grand Theft Auto V | 112
−55.4%
|
174
+55.4%
|
Metro Exodus | 105
−86.7%
|
196
+86.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120−130
−37.2%
|
170−180
+37.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 188
−129%
|
430
+129%
|
Valorant | 190−200
−137%
|
450−500
+137%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 139
−38.8%
|
190−200
+38.8%
|
Cyberpunk 2077 | 98
−61.2%
|
158
+61.2%
|
Dota 2 | 115
−135%
|
270−280
+135%
|
Far Cry 5 | 95
−97.9%
|
188
+97.9%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−154%
|
300−350
+154%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120−130
−37.2%
|
170−180
+37.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 109
−92.7%
|
210
+92.7%
|
Valorant | 190−200
−137%
|
450−500
+137%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 140−150
−108%
|
300−350
+108%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 75−80
−215%
|
240−250
+215%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 220−230
−132%
|
500−550
+132%
|
Grand Theft Auto V | 84
−84.5%
|
155
+84.5%
|
Metro Exodus | 59
−122%
|
131
+122%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 230−240
−106%
|
450−500
+106%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130
−50.8%
|
190−200
+50.8%
|
Cyberpunk 2077 | 51
−104%
|
104
+104%
|
Far Cry 5 | 100
−87%
|
187
+87%
|
Forza Horizon 4 | 85−90
−220%
|
280−290
+220%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 55−60
−174%
|
159
+174%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 80−85
−84.1%
|
150−160
+84.1%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 24−27
−200%
|
75−80
+200%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+0%
|
36
+0%
|
Grand Theft Auto V | 85
−114%
|
182
+114%
|
Metro Exodus | 38
−121%
|
84
+121%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 60
−217%
|
190−200
+217%
|
Valorant | 190−200
−70.3%
|
300−350
+70.3%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 82
−65.9%
|
130−140
+65.9%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
−211%
|
110−120
+211%
|
Cyberpunk 2077 | 23
−117%
|
50
+117%
|
Dota 2 | 95
−132%
|
220−230
+132%
|
Far Cry 5 | 61
−95.1%
|
119
+95.1%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
−322%
|
240−250
+322%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 35−40
−146%
|
95−100
+146%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 35−40
−103%
|
75−80
+103%
|
นี่คือวิธีที่ RX 6800M และ RTX 4070 Ti SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti SUPER เร็วกว่า 106% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 Ti SUPER เร็วกว่า 106% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 Ti SUPER เร็วกว่า 102% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Forza Horizon 4 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 4070 Ti SUPER เร็วกว่า 322%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti SUPER เหนือกว่าใน 58การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 29.78 | 71.17 |
ความใหม่ล่าสุด | 31 พฤษภาคม 2021 | 8 มกราคม 2024 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 145 วัตต์ | 285 วัตต์ |
RX 6800M มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 96.6%
ในทางกลับกัน RTX 4070 Ti SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 139% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 40%
GeForce RTX 4070 Ti SUPER เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 6800M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 6800M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 4070 Ti SUPER เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป