GeForce RTX 5090 เทียบกับ Radeon RX 6600
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 6600 และ GeForce RTX 5090 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 5090 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 6600 อย่างมหาศาลถึง 166% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 136 | 2 |
จัดอันดับตามความนิยม | 14 | 9 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 62.33 | 11.29 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 20.25 | 12.37 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 2.0 (2020−2024) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 23 | GB202 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 13 ตุลาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 30 มกราคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $329 | $1,999 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 6600 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 5090 อยู่ 452%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1792 | 21760 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1626 MHz | 2017 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2491 MHz | 2407 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 11,060 million | 92,200 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 132 Watt | 575 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 279.0 | 1,637 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 8.928 TFLOPS | 104.8 TFLOPS |
ROPs | 64 | 176 |
TMUs | 112 | 680 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 680 |
Ray Tracing Cores | 28 | 170 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 5.0 x16 |
ความยาว | 190 mm | 304 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 32 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 512 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1750 MHz |
224.0 จีบี/s | 1.79 ทีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12.0 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.1 | 3.0 |
Vulkan | 1.2 | 1.4 |
CUDA | - | 12.0 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 107
−125%
| 241
+125%
|
1440p | 55
−276%
| 207
+276%
|
4K | 30
−430%
| 159
+430%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.07
+170%
| 8.29
−170%
|
1440p | 5.98
+61.4%
| 9.66
−61.4%
|
4K | 10.97
+14.6%
| 12.57
−14.6%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 345
+3.9%
|
300−350
−3.9%
|
Cyberpunk 2077 | 107
−134%
|
250−260
+134%
|
Hogwarts Legacy | 116
−47.4%
|
170−180
+47.4%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 120−130
−55.1%
|
190−200
+55.1%
|
Counter-Strike 2 | 303
−9.6%
|
300−350
+9.6%
|
Cyberpunk 2077 | 91
−175%
|
250−260
+175%
|
Far Cry 5 | 154
−65.6%
|
250−260
+65.6%
|
Fortnite | 150−160
−89.9%
|
300−350
+89.9%
|
Forza Horizon 4 | 140−150
−144%
|
300−350
+144%
|
Forza Horizon 5 | 173
−52%
|
260−270
+52%
|
Hogwarts Legacy | 90
−90%
|
170−180
+90%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 140−150
−21.4%
|
170−180
+21.4%
|
Valorant | 210−220
−215%
|
650−700
+215%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 120−130
−55.1%
|
190−200
+55.1%
|
Counter-Strike 2 | 146
−127%
|
300−350
+127%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 73
−242%
|
250−260
+242%
|
Dota 2 | 150
−133%
|
350−400
+133%
|
Far Cry 5 | 142
−79.6%
|
250−260
+79.6%
|
Fortnite | 150−160
−89.9%
|
300−350
+89.9%
|
Forza Horizon 4 | 140−150
−144%
|
300−350
+144%
|
Forza Horizon 5 | 149
−76.5%
|
260−270
+76.5%
|
Grand Theft Auto V | 137
−26.3%
|
170−180
+26.3%
|
Hogwarts Legacy | 69
−148%
|
170−180
+148%
|
Metro Exodus | 82
+18.8%
|
69
−18.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 140−150
−21.4%
|
170−180
+21.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 147
−201%
|
400−450
+201%
|
Valorant | 210−220
−215%
|
650−700
+215%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 120−130
−55.1%
|
190−200
+55.1%
|
Cyberpunk 2077 | 59
−324%
|
250−260
+324%
|
Dota 2 | 107
−162%
|
280−290
+162%
|
Far Cry 5 | 134
−131%
|
309
+131%
|
Forza Horizon 4 | 140−150
−144%
|
300−350
+144%
|
Hogwarts Legacy | 53
−213%
|
166
+213%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 140−150
−21.4%
|
170−180
+21.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 90
−298%
|
358
+298%
|
Valorant | 210−220
−215%
|
650−700
+215%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 150−160
−89.9%
|
300−350
+89.9%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 85
−267%
|
300−350
+267%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 250−260
−105%
|
500−550
+105%
|
Grand Theft Auto V | 64
−164%
|
160−170
+164%
|
Metro Exodus | 48
−321%
|
202
+321%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 240−250
−94.8%
|
450−500
+94.8%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 90−95
−109%
|
190−200
+109%
|
Cyberpunk 2077 | 34
−368%
|
150−160
+368%
|
Far Cry 5 | 91
−234%
|
304
+234%
|
Forza Horizon 4 | 100−110
−200%
|
300−350
+200%
|
Hogwarts Legacy | 37
−332%
|
160
+332%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 65−70
−374%
|
327
+374%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 95−100
−58.9%
|
150−160
+58.9%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 20
−335%
|
87
+335%
|
Grand Theft Auto V | 60
−212%
|
180−190
+212%
|
Hogwarts Legacy | 21−24
−491%
|
136
+491%
|
Metro Exodus | 29
−476%
|
167
+476%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 44
−777%
|
386
+777%
|
Valorant | 220−230
−49.5%
|
300−350
+49.5%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 55−60
−134%
|
130−140
+134%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−281%
|
160−170
+281%
|
Cyberpunk 2077 | 14
−479%
|
80−85
+479%
|
Dota 2 | 85
−159%
|
220−230
+159%
|
Far Cry 5 | 44
−425%
|
231
+425%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−349%
|
300−350
+349%
|
Hogwarts Legacy | 17
−500%
|
102
+500%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 45−50
−104%
|
95−100
+104%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 45−50
−71.7%
|
75−80
+71.7%
|
นี่คือวิธีที่ RX 6600 และ RTX 5090 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5090 เร็วกว่า 125% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5090 เร็วกว่า 276% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5090 เร็วกว่า 430% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 6600 เร็วกว่า 19%
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 5090 เร็วกว่า 777%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 6600 เหนือกว่าใน 2การทดสอบ (3%)
- RTX 5090 เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (94%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 35.83 | 95.34 |
ความใหม่ล่าสุด | 13 ตุลาคม 2021 | 30 มกราคม 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 32 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 132 วัตต์ | 575 วัตต์ |
RX 6600 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 335.6%
ในทางกลับกัน RTX 5090 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 166.1% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 40%
GeForce RTX 5090 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 6600 ในการทดสอบประสิทธิภาพ