GeForce RTX 5080 เทียบกับ Radeon RX 5700
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 5700 และ GeForce RTX 5080 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 5080 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 5700 อย่างมหาศาลถึง 152% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 146 | 4 |
จัดอันดับตามความนิยม | 48 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 40.33 | 40.61 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 14.11 | 17.76 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 1.0 (2019−2020) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 10 | GB203 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 กรกฎาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 30 มกราคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $349 | $999 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 5080 มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 5700 อยู่ 1%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2304 | 10752 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1465 MHz | 2295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1725 MHz | 2617 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 10,300 million | 45,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 180 Watt | 360 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 248.4 | 879.3 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 7.949 TFLOPS | 56.28 TFLOPS |
ROPs | 64 | 112 |
TMUs | 144 | 336 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 336 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 84 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 5.0 x16 |
ความยาว | 268 mm | 304 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin + 1x 8-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1875 MHz |
448.0 จีบี/s | 960.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.4 |
CUDA | - | 10.1 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 114
−78.1%
| 203
+78.1%
|
1440p | 69
−132%
| 160
+132%
|
4K | 43
−153%
| 109
+153%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.06
+60.7%
| 4.92
−60.7%
|
1440p | 5.06
+23.4%
| 6.24
−23.4%
|
4K | 8.12
+12.9%
| 9.17
−12.9%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 344
+3.6%
|
300−350
−3.6%
|
Cyberpunk 2077 | 84
−168%
|
220−230
+168%
|
Hogwarts Legacy | 115
−48.7%
|
170−180
+48.7%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 115
−71.3%
|
190−200
+71.3%
|
Counter-Strike 2 | 307
−8.1%
|
300−350
+8.1%
|
Cyberpunk 2077 | 75
−200%
|
220−230
+200%
|
Far Cry 5 | 156
−49.4%
|
230−240
+49.4%
|
Fortnite | 166
−81.9%
|
300−350
+81.9%
|
Forza Horizon 4 | 132
−161%
|
300−350
+161%
|
Forza Horizon 5 | 150
−60.7%
|
240−250
+60.7%
|
Hogwarts Legacy | 86
−98.8%
|
170−180
+98.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 151
−16.6%
|
170−180
+16.6%
|
Valorant | 294
−106%
|
600−650
+106%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 105
−87.6%
|
190−200
+87.6%
|
Counter-Strike 2 | 154
−116%
|
300−350
+116%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 67
−236%
|
220−230
+236%
|
Dota 2 | 156
−124%
|
350−400
+124%
|
Far Cry 5 | 144
−61.8%
|
230−240
+61.8%
|
Fortnite | 140
−116%
|
300−350
+116%
|
Forza Horizon 4 | 130
−165%
|
300−350
+165%
|
Forza Horizon 5 | 132
−82.6%
|
240−250
+82.6%
|
Grand Theft Auto V | 137
−26.3%
|
170−180
+26.3%
|
Hogwarts Legacy | 68
−151%
|
170−180
+151%
|
Metro Exodus | 87
+33.8%
|
65
−33.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 144
−22.2%
|
170−180
+22.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 147
−169%
|
350−400
+169%
|
Valorant | 291
−108%
|
600−650
+108%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 97
−103%
|
190−200
+103%
|
Cyberpunk 2077 | 58
−288%
|
220−230
+288%
|
Dota 2 | 146
−140%
|
350−400
+140%
|
Far Cry 5 | 135
−72.6%
|
230−240
+72.6%
|
Forza Horizon 4 | 118
−192%
|
300−350
+192%
|
Hogwarts Legacy | 50
−222%
|
161
+222%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 139
−26.6%
|
170−180
+26.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 91
−210%
|
282
+210%
|
Valorant | 160
−279%
|
600−650
+279%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 118
−156%
|
300−350
+156%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 87
−236%
|
290−300
+236%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 240−250
−115%
|
500−550
+115%
|
Grand Theft Auto V | 72
−132%
|
160−170
+132%
|
Metro Exodus | 51
−239%
|
173
+239%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 277
−75.1%
|
450−500
+75.1%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 81
−142%
|
190−200
+142%
|
Cyberpunk 2077 | 36
−297%
|
140−150
+297%
|
Far Cry 5 | 93
−145%
|
220−230
+145%
|
Forza Horizon 4 | 103
−197%
|
300−350
+197%
|
Hogwarts Legacy | 38
−234%
|
127
+234%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 65−70
−263%
|
236
+263%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 77
−96.1%
|
150−160
+96.1%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 25
−120%
|
55
+120%
|
Grand Theft Auto V | 72
−160%
|
180−190
+160%
|
Hogwarts Legacy | 21−24
−309%
|
90
+309%
|
Metro Exodus | 31
−300%
|
120−130
+300%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 48
−392%
|
236
+392%
|
Valorant | 231
−43.7%
|
300−350
+43.7%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 54
−152%
|
130−140
+152%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
−246%
|
130−140
+246%
|
Cyberpunk 2077 | 15
−373%
|
70−75
+373%
|
Dota 2 | 100
−150%
|
250−260
+150%
|
Far Cry 5 | 47
−260%
|
160−170
+260%
|
Forza Horizon 4 | 70
−336%
|
300−350
+336%
|
Hogwarts Legacy | 21
−248%
|
73
+248%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 59
−62.7%
|
95−100
+62.7%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 39
−103%
|
75−80
+103%
|
นี่คือวิธีที่ RX 5700 และ RTX 5080 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5080 เร็วกว่า 78% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5080 เร็วกว่า 132% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5080 เร็วกว่า 153% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 5700 เร็วกว่า 34%
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 5080 เร็วกว่า 392%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 5700 เหนือกว่าใน 2การทดสอบ (3%)
- RTX 5080 เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (94%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 34.04 | 85.74 |
ความใหม่ล่าสุด | 7 กรกฎาคม 2019 | 30 มกราคม 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 180 วัตต์ | 360 วัตต์ |
RX 5700 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 100%
ในทางกลับกัน RTX 5080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 151.9% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 5 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 40%
GeForce RTX 5080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 5700 ในการทดสอบประสิทธิภาพ