GeForce RTX 4070 เทียบกับ Radeon RX 5600M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 5600M กับ GeForce RTX 4070 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4070 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 5600M อย่างมหาศาลถึง 206% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 261 | 27 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 29 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 60.64 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 10.45 | 23.94 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 1.0 (2019−2020) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 10 | AD104 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 กรกฎาคม 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 12 เมษายน 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2304 | 5888 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1035 MHz | 1920 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1265 MHz | 2475 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 10,300 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 150 Watt | 200 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 182.2 | 455.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.829 TFLOPS | 29.15 TFLOPS |
ROPs | 64 | 64 |
TMUs | 144 | 184 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 184 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 46 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 240 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | 1313 MHz |
288.0 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
CUDA | - | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 84
−155%
| 214
+155%
|
1440p | 57
−112%
| 121
+112%
|
4K | 31
−135%
| 73
+135%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 2.80 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 4.95 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 8.21 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 120−130
−153%
|
300−350
+153%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−370%
|
216
+370%
|
Hogwarts Legacy | 40−45
−273%
|
164
+273%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 114
−52.6%
|
170−180
+52.6%
|
Counter-Strike 2 | 120−130
−153%
|
300−350
+153%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−278%
|
174
+278%
|
Far Cry 5 | 70−75
−192%
|
210
+192%
|
Fortnite | 110−120
−175%
|
300−350
+175%
|
Forza Horizon 4 | 85−90
−194%
|
250−260
+194%
|
Forza Horizon 5 | 65−70
−172%
|
180−190
+172%
|
Hogwarts Legacy | 40−45
−236%
|
148
+236%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 80−85
−113%
|
170−180
+113%
|
Valorant | 150−160
−138%
|
350−400
+138%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 112
−55.4%
|
170−180
+55.4%
|
Counter-Strike 2 | 120−130
−153%
|
300−350
+153%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 240−250
−13.9%
|
270−280
+13.9%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−211%
|
143
+211%
|
Dota 2 | 107
−180%
|
300−310
+180%
|
Far Cry 5 | 70−75
−183%
|
204
+183%
|
Fortnite | 110−120
−175%
|
300−350
+175%
|
Forza Horizon 4 | 85−90
−194%
|
250−260
+194%
|
Forza Horizon 5 | 65−70
−172%
|
180−190
+172%
|
Grand Theft Auto V | 75−80
−120%
|
174
+120%
|
Hogwarts Legacy | 40−45
−198%
|
131
+198%
|
Metro Exodus | 59
−185%
|
168
+185%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 80−85
−113%
|
170−180
+113%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 104
−238%
|
351
+238%
|
Valorant | 150−160
−138%
|
350−400
+138%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 106
−64.2%
|
170−180
+64.2%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−178%
|
128
+178%
|
Dota 2 | 104
−188%
|
300−310
+188%
|
Far Cry 5 | 80
−136%
|
189
+136%
|
Forza Horizon 4 | 85−90
−194%
|
250−260
+194%
|
Hogwarts Legacy | 40−45
−157%
|
113
+157%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 80−85
−113%
|
170−180
+113%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 64
−166%
|
170
+166%
|
Valorant | 115
−218%
|
350−400
+218%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 110−120
−175%
|
300−350
+175%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 45−50
−330%
|
190−200
+330%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 150−160
−228%
|
500−550
+228%
|
Grand Theft Auto V | 35−40
−261%
|
137
+261%
|
Metro Exodus | 27−30
−271%
|
104
+271%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−1.2%
|
170−180
+1.2%
|
Valorant | 190−200
−133%
|
400−450
+133%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 82
−98.8%
|
160−170
+98.8%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
−286%
|
81
+286%
|
Far Cry 5 | 45−50
−249%
|
171
+249%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
−302%
|
220−230
+302%
|
Hogwarts Legacy | 24−27
−250%
|
84
+250%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35−40
−322%
|
150−160
+322%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 50−55
−202%
|
150−160
+202%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 21−24
−324%
|
85−90
+324%
|
Grand Theft Auto V | 40−45
−265%
|
146
+265%
|
Hogwarts Legacy | 14−16
−229%
|
45−50
+229%
|
Metro Exodus | 18−20
−261%
|
65
+261%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−35
−259%
|
115
+259%
|
Valorant | 120−130
−167%
|
300−350
+167%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 41
−190%
|
110−120
+190%
|
Counter-Strike 2 | 21−24
−324%
|
85−90
+324%
|
Cyberpunk 2077 | 9−10
−300%
|
36
+300%
|
Dota 2 | 70−75
−192%
|
210−220
+192%
|
Far Cry 5 | 24−27
−288%
|
93
+288%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−355%
|
170−180
+355%
|
Hogwarts Legacy | 14−16
−200%
|
42
+200%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 21−24
−336%
|
95−100
+336%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 21−24
−243%
|
75−80
+243%
|
นี่คือวิธีที่ RX 5600M และ RTX 4070 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 เร็วกว่า 155% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 เร็วกว่า 112% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 เร็วกว่า 135% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RTX 4070 เร็วกว่า 370%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 4070 เหนือกว่า RX 5600M ในการทดสอบทั้ง 63 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 19.75 | 60.34 |
ความใหม่ล่าสุด | 7 กรกฎาคม 2020 | 12 เมษายน 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 150 วัตต์ | 200 วัตต์ |
RX 5600M มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 33.3%
ในทางกลับกัน RTX 4070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 205.5% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 40%
GeForce RTX 4070 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 5600M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 5600M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 4070 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป