GeForce RTX 2070 Super Max-Q เทียบกับ Radeon RX 5500M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 5500M และ GeForce RTX 2070 Super Max-Q โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 2070 Super Max-Q มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 5500M อย่างมหาศาลถึง 136% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 369 | 152 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.03 | 30.10 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 1.0 (2019−2020) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 14 | TU104 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 ตุลาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 2 เมษายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1408 | 2560 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1375 MHz | 930 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1645 MHz | 1155 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,400 million | 13,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 85 Watt | 80 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 144.8 | 184.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 4.632 TFLOPS | 5.914 TFLOPS |
ROPs | 32 | 64 |
TMUs | 88 | 160 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 320 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 40 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | large |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 3.0 x16 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1375 MHz |
224.0 จีบี/s | 352.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | No outputs |
รองรับ G-SYNC | - | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
VR Ready | ไม่มีข้อมูล | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.140 |
CUDA | - | 7.5 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 57
−84.2%
| 105
+84.2%
|
1440p | 60
−21.7%
| 73
+21.7%
|
4K | 30
−56.7%
| 47
+56.7%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 53
−257%
|
180−190
+257%
|
Cyberpunk 2077 | 55
−36.4%
|
75−80
+36.4%
|
Hogwarts Legacy | 54
−37%
|
70−75
+37%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 60−65
−136%
|
144
+136%
|
Counter-Strike 2 | 53
−257%
|
180−190
+257%
|
Cyberpunk 2077 | 43
−74.4%
|
75−80
+74.4%
|
Far Cry 5 | 45−50
−151%
|
118
+151%
|
Fortnite | 80−85
−66.3%
|
133
+66.3%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
−117%
|
120−130
+117%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−136%
|
100−110
+136%
|
Hogwarts Legacy | 46
−60.9%
|
70−75
+60.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 50−55
−159%
|
130−140
+159%
|
Valorant | 146
−38.4%
|
200−210
+38.4%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 93
−46.2%
|
136
+46.2%
|
Counter-Strike 2 | 48
−294%
|
180−190
+294%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 191
−45%
|
270−280
+45%
|
Cyberpunk 2077 | 33
−127%
|
75−80
+127%
|
Dota 2 | 106
−27.4%
|
135
+27.4%
|
Far Cry 5 | 62
−79%
|
111
+79%
|
Fortnite | 80−85
−65%
|
132
+65%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
−117%
|
120−130
+117%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−136%
|
100−110
+136%
|
Grand Theft Auto V | 79
−58.2%
|
125
+58.2%
|
Hogwarts Legacy | 33
−124%
|
70−75
+124%
|
Metro Exodus | 39
−92.3%
|
75
+92.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 50−55
−159%
|
130−140
+159%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 72
−97.2%
|
142
+97.2%
|
Valorant | 144
−40.3%
|
200−210
+40.3%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 75
−68%
|
126
+68%
|
Cyberpunk 2077 | 30
−150%
|
75−80
+150%
|
Dota 2 | 103
−23.3%
|
127
+23.3%
|
Far Cry 5 | 59
−76.3%
|
104
+76.3%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
−117%
|
120−130
+117%
|
Hogwarts Legacy | 23
−222%
|
70−75
+222%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 59
−124%
|
130−140
+124%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 45
−66.7%
|
75
+66.7%
|
Valorant | 110−120
−15.3%
|
136
+15.3%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 65
−66.2%
|
108
+66.2%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 27−30
−200%
|
80−85
+200%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 137
−66.4%
|
220−230
+66.4%
|
Grand Theft Auto V | 21−24
−195%
|
65−70
+195%
|
Metro Exodus | 25
−92%
|
48
+92%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 175
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 136
−75%
|
230−240
+75%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 44
−127%
|
100
+127%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
−200%
|
35−40
+200%
|
Far Cry 5 | 48
−62.5%
|
75−80
+62.5%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−157%
|
90−95
+157%
|
Hogwarts Legacy | 14−16
−153%
|
35−40
+153%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 21−24
−186%
|
60−65
+186%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 30−35
−177%
|
86
+177%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 10−11
−270%
|
35−40
+270%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 76
−124%
|
170−180
+124%
|
Grand Theft Auto V | 20
−265%
|
73
+265%
|
Hogwarts Legacy | 8−9
−163%
|
21−24
+163%
|
Metro Exodus | 10−11
−180%
|
28
+180%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 18−20
−168%
|
51
+168%
|
Valorant | 129
−54.3%
|
190−200
+54.3%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 16
−263%
|
58
+263%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
−270%
|
35−40
+270%
|
Cyberpunk 2077 | 5−6
−220%
|
16−18
+220%
|
Dota 2 | 53
−94.3%
|
103
+94.3%
|
Far Cry 5 | 14−16
−173%
|
40−45
+173%
|
Forza Horizon 4 | 24−27
−140%
|
60−65
+140%
|
Hogwarts Legacy | 8−9
−163%
|
21−24
+163%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 12−14
−208%
|
40−45
+208%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 14−16
−207%
|
43
+207%
|
นี่คือวิธีที่ RX 5500M และ RTX 2070 Super Max-Q แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 2070 Super Max-Q เร็วกว่า 84% ในความละเอียด 1080p
- RTX 2070 Super Max-Q เร็วกว่า 22% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2070 Super Max-Q เร็วกว่า 57% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 2070 Super Max-Q เร็วกว่า 294%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 2070 Super Max-Q เหนือกว่าใน 65การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 14.46 | 34.07 |
ความใหม่ล่าสุด | 7 ตุลาคม 2019 | 2 เมษายน 2020 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 85 วัตต์ | 80 วัตต์ |
RX 5500M มีข้อได้เปรียบ มีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 71.4%
ในทางกลับกัน RTX 2070 Super Max-Q มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 135.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 5 เดือนและและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 6.3%
GeForce RTX 2070 Super Max-Q เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 5500M ในการทดสอบประสิทธิภาพ