Radeon RX 7800 XT เทียบกับ RX 470
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 470 และ Radeon RX 7800 XT โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7800 XT มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 470 อย่างมหาศาลถึง 199% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 277 | 37 |
จัดอันดับตามความนิยม | 40 | 74 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 15.52 | 68.09 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.98 | 16.35 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | Ellesmere | Navi 32 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 4 สิงหาคม 2016 (เมื่อ 8 ปี ปีที่แล้ว) | 25 สิงหาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $179 | $499 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 7800 XT มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 470 อยู่ 339%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 3840 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 926 MHz | 1295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1206 MHz | 2430 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | 28,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 263 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 154.4 | 583.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 4.94 TFLOPS | 37.32 TFLOPS |
ROPs | 32 | 96 |
TMUs | 128 | 240 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 60 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 241 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1650 MHz | 2438 MHz |
211.2 จีบี/s | 624.1 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI 2.1a, 3x DisplayPort 2.1 |
HDMI | + | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
FreeSync | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 69
−209%
| 213
+209%
|
1440p | 38
−224%
| 123
+224%
|
4K | 37
−94.6%
| 72
+94.6%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.59
−10.7%
| 2.34
+10.7%
|
1440p | 4.71
−16.1%
| 4.06
+16.1%
|
4K | 4.84
+43.3%
| 6.93
−43.3%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 110−120
−211%
|
351
+211%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
−490%
|
248
+490%
|
Hogwarts Legacy | 40−45
−445%
|
218
+445%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 80−85
−104%
|
160−170
+104%
|
Counter-Strike 2 | 110−120
−214%
|
355
+214%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
−367%
|
196
+367%
|
Far Cry 5 | 65−70
−204%
|
204
+204%
|
Fortnite | 100−110
−160%
|
260−270
+160%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
−248%
|
278
+248%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
−338%
|
276
+338%
|
Hogwarts Legacy | 40−45
−370%
|
188
+370%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 71
−149%
|
170−180
+149%
|
Valorant | 140−150
−120%
|
300−350
+120%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 80−85
−104%
|
160−170
+104%
|
Counter-Strike 2 | 110−120
−150%
|
283
+150%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 230−240
−18.8%
|
270−280
+18.8%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
−288%
|
163
+288%
|
Dota 2 | 110−120
−173%
|
300−310
+173%
|
Far Cry 5 | 65−70
−193%
|
196
+193%
|
Fortnite | 88
−205%
|
260−270
+205%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
−226%
|
261
+226%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
−306%
|
256
+306%
|
Grand Theft Auto V | 73
−144%
|
178
+144%
|
Hogwarts Legacy | 40−45
−260%
|
144
+260%
|
Metro Exodus | 40−45
−310%
|
172
+310%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 50
−254%
|
170−180
+254%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 70
−423%
|
366
+423%
|
Valorant | 140−150
−120%
|
300−350
+120%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 80−85
−104%
|
160−170
+104%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
−257%
|
150
+257%
|
Dota 2 | 110−120
−173%
|
300−310
+173%
|
Far Cry 5 | 61
−198%
|
182
+198%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
−178%
|
222
+178%
|
Hogwarts Legacy | 40−45
−170%
|
108
+170%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40
−343%
|
170−180
+343%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 40
−400%
|
200
+400%
|
Valorant | 140−150
−120%
|
300−350
+120%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 59
−354%
|
260−270
+354%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 40−45
−317%
|
175
+317%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 140−150
−203%
|
400−450
+203%
|
Grand Theft Auto V | 33
−324%
|
140
+324%
|
Metro Exodus | 24−27
−308%
|
106
+308%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−2.3%
|
170−180
+2.3%
|
Valorant | 180−190
−103%
|
350−400
+103%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 55−60
−155%
|
140−150
+155%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
−421%
|
99
+421%
|
Far Cry 5 | 43
−309%
|
176
+309%
|
Forza Horizon 4 | 50−55
−304%
|
202
+304%
|
Hogwarts Legacy | 21−24
−255%
|
78
+255%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−35
−345%
|
147
+345%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 45−50
−228%
|
150−160
+228%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 18−20
−133%
|
42
+133%
|
Grand Theft Auto V | 33
−361%
|
152
+361%
|
Hogwarts Legacy | 12−14
−200%
|
35−40
+200%
|
Metro Exodus | 16−18
−294%
|
63
+294%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
−307%
|
118
+307%
|
Valorant | 110−120
−186%
|
300−350
+186%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 30−33
−240%
|
100−110
+240%
|
Counter-Strike 2 | 18−20
−328%
|
75−80
+328%
|
Cyberpunk 2077 | 8−9
−463%
|
45
+463%
|
Dota 2 | 86
−191%
|
250−260
+191%
|
Far Cry 5 | 21−24
−373%
|
104
+373%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−369%
|
164
+369%
|
Hogwarts Legacy | 12−14
−254%
|
46
+254%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 20−22
−380%
|
95−100
+380%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 17
−365%
|
75−80
+365%
|
นี่คือวิธีที่ RX 470 และ RX 7800 XT แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7800 XT เร็วกว่า 209% ในความละเอียด 1080p
- RX 7800 XT เร็วกว่า 224% ในความละเอียด 1440p
- RX 7800 XT เร็วกว่า 95% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RX 7800 XT เร็วกว่า 490%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RX 7800 XT เหนือกว่า RX 470 ในการทดสอบทั้ง 63 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 18.12 | 54.19 |
ความใหม่ล่าสุด | 4 สิงหาคม 2016 | 25 สิงหาคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 263 วัตต์ |
RX 470 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 119.2%
ในทางกลับกัน RX 7800 XT มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 199.1% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 7 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 180%
Radeon RX 7800 XT เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 470 ในการทดสอบประสิทธิภาพ