Radeon RX 460 เทียบกับ RX 470
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 470 และ Radeon RX 460 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 470 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 460 อย่างน่าประทับใจ 97% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 272 | 439 |
จัดอันดับตามความนิยม | 42 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 17.97 | 1.12 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.04 | 9.75 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | GCN 4.0 (2016−2020) |
ชื่อรหัส GPU | Ellesmere | Baffin |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 4 สิงหาคม 2016 (เมื่อ 8 ปี ปีที่แล้ว) | 8 สิงหาคม 2016 (เมื่อ 8 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $179 | $86 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 470 มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 460 อยู่ 1504%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 896 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 926 MHz | 1090 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1206 MHz | 1200 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | 3,000 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 75 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 154.4 | 67.20 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 4.94 TFLOPS | 2.15 TFLOPS |
ROPs | 32 | 16 |
TMUs | 128 | 56 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x8 |
ความยาว | 241 mm | 170 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 2 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1650 MHz | 1750 MHz |
211.2 จีบี/s | 112.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort |
HDMI | + | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
FreeSync | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 (12_0) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.4 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 69
+64.3%
| 42
−64.3%
|
1440p | 38
−31.6%
| 50
+31.6%
|
4K | 37
+85%
| 20
−85%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.59
−26.7%
| 2.05
+26.7%
|
1440p | 4.71
−174%
| 1.72
+174%
|
4K | 4.84
−12.5%
| 4.30
+12.5%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 50−55
+112%
|
24−27
−112%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+106%
|
18
−106%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+110%
|
20−22
−110%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 50−55
+112%
|
24−27
−112%
|
Battlefield 5 | 80−85
+84.1%
|
40−45
−84.1%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+106%
|
18−20
−106%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+110%
|
20−22
−110%
|
Far Cry 5 | 65−70
+67.5%
|
40
−67.5%
|
Fortnite | 100−110
−12.6%
|
116
+12.6%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
+40.4%
|
57
−40.4%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
+112%
|
24−27
−112%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 71
+97.2%
|
36
−97.2%
|
Valorant | 140−150
+55.3%
|
90−95
−55.3%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 50−55
+112%
|
24−27
−112%
|
Battlefield 5 | 80−85
+84.1%
|
40−45
−84.1%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+106%
|
18−20
−106%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 230−240
+56.7%
|
150−160
−56.7%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+110%
|
20−22
−110%
|
Dota 2 | 110−120
+54.9%
|
70−75
−54.9%
|
Far Cry 5 | 65−70
+81.1%
|
37
−81.1%
|
Fortnite | 88
+126%
|
39
−126%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
+48.1%
|
54
−48.1%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
+112%
|
24−27
−112%
|
Grand Theft Auto V | 73
+109%
|
35
−109%
|
Metro Exodus | 40−45
+105%
|
21
−105%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 50
+78.6%
|
28
−78.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 70
+89.2%
|
37
−89.2%
|
Valorant | 140−150
+55.3%
|
90−95
−55.3%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 80−85
+84.1%
|
40−45
−84.1%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+270%
|
10
−270%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+110%
|
20−22
−110%
|
Dota 2 | 110−120
+54.9%
|
70−75
−54.9%
|
Far Cry 5 | 61
+79.4%
|
34
−79.4%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
+95.1%
|
41
−95.1%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
+112%
|
24−27
−112%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40
+100%
|
20
−100%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 40
+73.9%
|
23
−73.9%
|
Valorant | 140−150
+55.3%
|
90−95
−55.3%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 59
+90.3%
|
31
−90.3%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 21−24
+61.5%
|
12−14
−61.5%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 140−150
+86.8%
|
75−80
−86.8%
|
Grand Theft Auto V | 33
+136%
|
14−16
−136%
|
Metro Exodus | 24−27
+136%
|
10−12
−136%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+246%
|
50−55
−246%
|
Valorant | 180−190
+64.9%
|
110−120
−64.9%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 55−60
+124%
|
24−27
−124%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
+138%
|
8−9
−138%
|
Far Cry 5 | 43
+105%
|
21−24
−105%
|
Forza Horizon 4 | 50−55
+108%
|
24−27
−108%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
+94.4%
|
18−20
−94.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−35
+100%
|
16−18
−100%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 45−50
+119%
|
21−24
−119%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 16−18
+100%
|
8−9
−100%
|
Counter-Strike 2 | 9−10
+125%
|
4−5
−125%
|
Grand Theft Auto V | 33
+57.1%
|
21−24
−57.1%
|
Metro Exodus | 16−18
+167%
|
6−7
−167%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
+142%
|
12
−142%
|
Valorant | 110−120
+111%
|
50−55
−111%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 30−33
+150%
|
12−14
−150%
|
Counter-Strike 2 | 9−10
+125%
|
4−5
−125%
|
Cyberpunk 2077 | 8−9
+167%
|
3−4
−167%
|
Dota 2 | 86
+139%
|
35−40
−139%
|
Far Cry 5 | 21−24
+100%
|
11
−100%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
+106%
|
16−18
−106%
|
Forza Horizon 5 | 18−20
+125%
|
8−9
−125%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 20−22
+122%
|
9−10
−122%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 17
+88.9%
|
9−10
−88.9%
|
นี่คือวิธีที่ RX 470 และ RX 460 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 470 เร็วกว่า 64% ในความละเอียด 1080p
- RX 460 เร็วกว่า 32% ในความละเอียด 1440p
- RX 470 เร็วกว่า 85% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 470 เร็วกว่า 270%
- ในเกม Fortnite ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RX 460 เร็วกว่า 13%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 470 เหนือกว่าใน 66การทดสอบ (99%)
- RX 460 เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (1%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 21.01 | 10.64 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 2 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 75 วัตต์ |
RX 470 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 97.5% และ
ในทางกลับกัน RX 460 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 60%
Radeon RX 470 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 460 ในการทดสอบประสิทธิภาพ