GeForce GTX 1050 Ti เทียบกับ Radeon RX 470
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 470 และ GeForce GTX 1050 Ti โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 470 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1050 Ti อย่างมาก 28% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 272 | 340 |
จัดอันดับตามความนิยม | 42 | 4 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 17.97 | 14.11 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.04 | 15.04 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | Pascal (2016−2021) |
ชื่อรหัส GPU | Ellesmere | GP107 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 4 สิงหาคม 2016 (เมื่อ 8 ปี ปีที่แล้ว) | 25 ตุลาคม 2016 (เมื่อ 8 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $179 | $139 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 470 มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 1050 Ti อยู่ 27%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 768 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 926 MHz | 1291 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1206 MHz | 1392 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | 3,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 75 Watt |
อุณหภูมิ GPU สูงสุด | ไม่มีข้อมูล | 97 °C |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 154.4 | 66.82 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 4.94 TFLOPS | 2.138 TFLOPS |
ROPs | 32 | 32 |
TMUs | 128 | 48 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 241 mm | 145 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 4 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1650 MHz | 7008 MHz |
211.2 จีบี/s | 112 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort |
HDMI | + | + |
รองรับ G-SYNC | - | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
FreeSync | + | - |
VR Ready | ไม่มีข้อมูล | + |
Ansel | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.4 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
CUDA | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 69
+35.3%
| 51
−35.3%
|
1440p | 38
+22.6%
| 31
−22.6%
|
4K | 37
+48%
| 25
−48%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.59
+5.1%
| 2.73
−5.1%
|
1440p | 4.71
−5.1%
| 4.48
+5.1%
|
4K | 4.84
+14.9%
| 5.56
−14.9%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 50−55
+32.5%
|
40−45
−32.5%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+32.1%
|
27−30
−32.1%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+31.3%
|
30−35
−31.3%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 50−55
+32.5%
|
40−45
−32.5%
|
Battlefield 5 | 80−85
+28.6%
|
63
−28.6%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+32.1%
|
27−30
−32.1%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+31.3%
|
30−35
−31.3%
|
Far Cry 5 | 65−70
+26.4%
|
50−55
−26.4%
|
Fortnite | 100−110
+19.8%
|
85−90
−19.8%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
+15.9%
|
69
−15.9%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
+31%
|
40−45
−31%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 71
+29.1%
|
55
−29.1%
|
Valorant | 140−150
+17.7%
|
120−130
−17.7%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 50−55
+32.5%
|
40−45
−32.5%
|
Battlefield 5 | 80−85
+55.8%
|
52
−55.8%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+32.1%
|
27−30
−32.1%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 230−240
+15.8%
|
200−210
−15.8%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+31.3%
|
30−35
−31.3%
|
Dota 2 | 110−120
−28.2%
|
141
+28.2%
|
Far Cry 5 | 65−70
+26.4%
|
50−55
−26.4%
|
Fortnite | 88
+35.4%
|
65
−35.4%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
+25%
|
64
−25%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
+31%
|
40−45
−31%
|
Grand Theft Auto V | 73
+14.1%
|
64
−14.1%
|
Metro Exodus | 40−45
+65.4%
|
26
−65.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 50
+0%
|
50
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 70
+42.9%
|
49
−42.9%
|
Valorant | 140−150
+17.7%
|
120−130
−17.7%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 80−85
+58.8%
|
51
−58.8%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+32.1%
|
27−30
−32.1%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+31.3%
|
30−35
−31.3%
|
Dota 2 | 110−120
−13.6%
|
125
+13.6%
|
Far Cry 5 | 61
+69.4%
|
36
−69.4%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
+77.8%
|
45
−77.8%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
+31%
|
40−45
−31%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40
+11.1%
|
36
−11.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 40
+53.8%
|
26
−53.8%
|
Valorant | 140−150
+175%
|
53
−175%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 59
+31.1%
|
45
−31.1%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 21−24
+16.7%
|
18−20
−16.7%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 140−150
+24.6%
|
110−120
−24.6%
|
Grand Theft Auto V | 33
+13.8%
|
29
−13.8%
|
Metro Exodus | 24−27
+36.8%
|
18−20
−36.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+13.8%
|
150−160
−13.8%
|
Valorant | 180−190
+17.3%
|
150−160
−17.3%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 55−60
+55.6%
|
36
−55.6%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
+35.7%
|
14−16
−35.7%
|
Far Cry 5 | 43
+26.5%
|
30−35
−26.5%
|
Forza Horizon 4 | 50−55
+31.6%
|
35−40
−31.6%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
+25%
|
27−30
−25%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−35
+33.3%
|
24−27
−33.3%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 45−50
+35.3%
|
30−35
−35.3%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 16−18
+23.1%
|
12−14
−23.1%
|
Counter-Strike 2 | 9−10
+28.6%
|
7−8
−28.6%
|
Grand Theft Auto V | 33
+17.9%
|
28
−17.9%
|
Metro Exodus | 16−18
+77.8%
|
9
−77.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
+38.1%
|
21−24
−38.1%
|
Valorant | 110−120
+31.8%
|
85−90
−31.8%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 30−33
+66.7%
|
18
−66.7%
|
Counter-Strike 2 | 9−10
+28.6%
|
7−8
−28.6%
|
Cyberpunk 2077 | 8−9
+33.3%
|
6−7
−33.3%
|
Dota 2 | 86
+36.5%
|
63
−36.5%
|
Far Cry 5 | 21−24
+37.5%
|
16−18
−37.5%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
+75%
|
20
−75%
|
Forza Horizon 5 | 18−20
+38.5%
|
12−14
−38.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 20−22
+81.8%
|
11
−81.8%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 17
+30.8%
|
13
−30.8%
|
นี่คือวิธีที่ RX 470 และ GTX 1050 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 470 เร็วกว่า 35% ในความละเอียด 1080p
- RX 470 เร็วกว่า 23% ในความละเอียด 1440p
- RX 470 เร็วกว่า 48% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 470 เร็วกว่า 175%
- ในเกม Dota 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ GTX 1050 Ti เร็วกว่า 28%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 470 เหนือกว่าใน 64การทดสอบ (96%)
- GTX 1050 Ti เหนือกว่าใน 2การทดสอบ (3%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (1%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 21.01 | 16.41 |
ความใหม่ล่าสุด | 4 สิงหาคม 2016 | 25 ตุลาคม 2016 |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 75 วัตต์ |
RX 470 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 28%
ในทางกลับกัน GTX 1050 Ti มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 เดือนและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 60%
Radeon RX 470 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1050 Ti ในการทดสอบประสิทธิภาพ