Radeon RX 7700 XT เทียบกับ Pro W6800
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon Pro W6800 กับ Radeon RX 7700 XT รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX 7700 XT มีประสิทธิภาพดีกว่า Pro W6800 อย่างปานกลาง 13% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 56 | 47 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 28.43 | 71.43 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 14.12 | 16.30 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 2.0 (2020−2024) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 21 | Navi 32 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชัน | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 8 มิถุนายน 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 25 สิงหาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $2,249 | $449 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 7700 XT มีความคุ้มค่ามากกว่า Pro W6800 อยู่ 151%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3840 | 3456 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2075 MHz | 1435 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2320 MHz | 2544 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 26,800 million | 28,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 250 Watt | 245 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 556.8 | 549.5 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 17.82 TFLOPS | 35.17 TFLOPS |
ROPs | 96 | 96 |
TMUs | 240 | 216 |
Ray Tracing Cores | 60 | 54 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin + 1x 8-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 32 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 2250 MHz |
512.0 จีบี/s | 432.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 6x mini-DisplayPort | 1x HDMI 2.1a, 2x DisplayPort 2.1, 1x USB Type-C |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.1 | 2.2 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 137
−34.3%
| 184
+34.3%
|
1440p | 116
+13.7%
| 102
−13.7%
|
4K | 84
+42.4%
| 59
−42.4%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 16.42
−573%
| 2.44
+573%
|
1440p | 19.39
−340%
| 4.40
+340%
|
4K | 26.77
−252%
| 7.61
+252%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 140−150
−80.3%
|
265
+80.3%
|
Counter-Strike 2 | 250−260
−35.5%
|
351
+35.5%
|
Cyberpunk 2077 | 110−120
−67.8%
|
193
+67.8%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 140−150
−35.4%
|
199
+35.4%
|
Battlefield 5 | 140−150
−6.8%
|
150−160
+6.8%
|
Counter-Strike 2 | 250−260
−32.8%
|
344
+32.8%
|
Cyberpunk 2077 | 110−120
−37.4%
|
158
+37.4%
|
Far Cry 5 | 70
−169%
|
188
+169%
|
Fortnite | 200−210
−16.6%
|
230−240
+16.6%
|
Forza Horizon 4 | 180−190
−51.9%
|
278
+51.9%
|
Forza Horizon 5 | 140−150
−11%
|
160−170
+11%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−2.3%
|
170−180
+2.3%
|
Valorant | 260−270
−12.1%
|
290−300
+12.1%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 140−150
+23.5%
|
119
−23.5%
|
Battlefield 5 | 140−150
−6.8%
|
150−160
+6.8%
|
Counter-Strike 2 | 250−260
+6.6%
|
243
−6.6%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 110−120
−14.8%
|
132
+14.8%
|
Dota 2 | 99
−11.1%
|
110−120
+11.1%
|
Far Cry 5 | 65
−178%
|
181
+178%
|
Fortnite | 200−210
−16.6%
|
230−240
+16.6%
|
Forza Horizon 4 | 180−190
−48.6%
|
272
+48.6%
|
Forza Horizon 5 | 140−150
−11%
|
160−170
+11%
|
Grand Theft Auto V | 121
−37.2%
|
166
+37.2%
|
Metro Exodus | 160
+5.3%
|
152
−5.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−2.3%
|
170−180
+2.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 199
−48.2%
|
295
+48.2%
|
Valorant | 260−270
−12.1%
|
290−300
+12.1%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 140−150
−6.8%
|
150−160
+6.8%
|
Cyberpunk 2077 | 110−120
−6.1%
|
122
+6.1%
|
Dota 2 | 86
−10.5%
|
95−100
+10.5%
|
Far Cry 5 | 62
−169%
|
167
+169%
|
Forza Horizon 4 | 180−190
−26.2%
|
231
+26.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−2.3%
|
170−180
+2.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 157
−7%
|
168
+7%
|
Valorant | 260−270
−12.1%
|
290−300
+12.1%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 200−210
−16.6%
|
230−240
+16.6%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 130−140
+3.9%
|
127
−3.9%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 300−350
−16.2%
|
350−400
+16.2%
|
Grand Theft Auto V | 88
−19.3%
|
105
+19.3%
|
Metro Exodus | 171
+90%
|
90
−90%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 290−300
−13.6%
|
300−350
+13.6%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
−12.8%
|
130−140
+12.8%
|
Cyberpunk 2077 | 60−65
−33.3%
|
80
+33.3%
|
Far Cry 5 | 64
−145%
|
157
+145%
|
Forza Horizon 4 | 140−150
−35.9%
|
197
+35.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 95−100
−23.7%
|
120
+23.7%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 130−140
−14.5%
|
150−160
+14.5%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 40−45
−15%
|
45−50
+15%
|
Counter-Strike 2 | 60−65
+93.5%
|
31
−93.5%
|
Grand Theft Auto V | 125
+11.6%
|
112
−11.6%
|
Metro Exodus | 55
−3.6%
|
57
+3.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 99
+11.2%
|
89
−11.2%
|
Valorant | 280−290
−8.8%
|
300−350
+8.8%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 75−80
−16.7%
|
90−95
+16.7%
|
Counter-Strike 2 | 60−65
−16.7%
|
70−75
+16.7%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
−28.6%
|
36
+28.6%
|
Dota 2 | 94
−6.4%
|
100−105
+6.4%
|
Far Cry 5 | 60
−36.7%
|
82
+36.7%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
−35.4%
|
134
+35.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 75−80
−25.3%
|
90−95
+25.3%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 65−70
−16.2%
|
75−80
+16.2%
|
นี่คือวิธีที่ Pro W6800 และ RX 7700 XT แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7700 XT เร็วกว่า 34% ในความละเอียด 1080p
- Pro W6800 เร็วกว่า 14% ในความละเอียด 1440p
- Pro W6800 เร็วกว่า 42% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ Pro W6800 เร็วกว่า 94%
- ในเกม Far Cry 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 7700 XT เร็วกว่า 178%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- Pro W6800 เหนือกว่าใน 8การทดสอบ (13%)
- RX 7700 XT เหนือกว่าใน 50การทดสอบ (83%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 44.35 | 50.16 |
ความใหม่ล่าสุด | 8 มิถุนายน 2021 | 25 สิงหาคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 32 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 250 วัตต์ | 245 วัตต์ |
Pro W6800 มีข้อได้เปรียบ
ในทางกลับกัน RX 7700 XT มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 13.1% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 40%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 2%
Radeon RX 7700 XT เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon Pro W6800 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon Pro W6800 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน ในขณะที่ Radeon RX 7700 XT เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป