Radeon 660M เทียบกับ 8060S
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon 8060S และ Radeon 660M โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
8060S มีประสิทธิภาพดีกว่า 660M อย่างมหาศาลถึง 449% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
| ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 98 | 561 |
| จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
| ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 60.11 | 15.05 |
| สถาปัตยกรรม | RDNA 3.5 (2024−2025) | RDNA 2.0 (2020−2025) |
| ชื่อรหัส GPU | Strix Halo | Rembrandt+ |
| ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
| วันที่วางจำหน่าย | 6 มกราคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
| พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2560 | 384 |
| ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1295 MHz | 1500 MHz |
| เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2900 MHz | 1900 MHz |
| จำนวนทรานซิสเตอร์ | 34,000 million | 13,100 million |
| เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 4 nm | 6 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 55 Watt | 40 Watt |
| อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 464.0 | 45.60 |
| ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 14.85 TFLOPS | 1.459 TFLOPS |
| ROPs | 64 | 16 |
| TMUs | 160 | 24 |
| Ray Tracing Cores | 40 | 6 |
| L0 Cache | ไม่มีข้อมูล | 96 เคบี |
| L1 Cache | ไม่มีข้อมูล | 128 เคบี |
| L2 Cache | 8 เอ็มบี | 2 เอ็มบี |
| L3 Cache | 64 เอ็มบี | 8 เอ็มบี |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
| อินเทอร์เฟซ | PCIe 5.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
| ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
| ประเภทหน่วยความจำ | System Shared | System Shared |
| จำนวน RAM สูงสุด | System Shared | System Shared |
| ความกว้างบัสหน่วยความจำ | System Shared | System Shared |
| ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | System Shared | System Shared |
| หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
| ขั้วต่อจอแสดงผล | Portable Device Dependent | Portable Device Dependent |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
| DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
| รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | 6.7 |
| OpenGL | 4.6 | 4.6 |
| OpenCL | 2.1 | 2.0 |
| Vulkan | 1.3 | 1.3 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
| Full HD | 111
+363%
| 24
−363%
|
| 1440p | 59
+490%
| 10−12
−490%
|
| 4K | 36
+500%
| 6−7
−500%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low
| Counter-Strike 2 | 230−240
+201%
|
78
−201%
|
| Cyberpunk 2077 | 100−110
+329%
|
24
−329%
|
Full HD
Medium
| Battlefield 5 | 140−150
+303%
|
35−40
−303%
|
| Counter-Strike 2 | 215
+277%
|
57
−277%
|
| Cyberpunk 2077 | 100−110
+415%
|
20
−415%
|
| Escape from Tarkov | 120−130
+278%
|
30−35
−278%
|
| Far Cry 5 | 114
+280%
|
30
−280%
|
| Fortnite | 180−190
+288%
|
45−50
−288%
|
| Forza Horizon 4 | 160−170
+377%
|
35−40
−377%
|
| Forza Horizon 5 | 201
+415%
|
39
−415%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
+469%
|
27−30
−469%
|
| Valorant | 240−250
+199%
|
80−85
−199%
|
Full HD
High
| Battlefield 5 | 140−150
+303%
|
35−40
−303%
|
| Counter-Strike 2 | 109
+374%
|
23
−374%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+122%
|
120−130
−122%
|
| Cyberpunk 2077 | 100−110
+636%
|
14
−636%
|
| Escape from Tarkov | 120−130
+278%
|
30−35
−278%
|
| Far Cry 5 | 108
+315%
|
26
−315%
|
| Fortnite | 180−190
+288%
|
45−50
−288%
|
| Forza Horizon 4 | 160−170
+377%
|
35−40
−377%
|
| Forza Horizon 5 | 182
+469%
|
32
−469%
|
| Grand Theft Auto V | 133
+432%
|
25
−432%
|
| Metro Exodus | 100−110
+600%
|
15
−600%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
+469%
|
27−30
−469%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 197
+658%
|
26
−658%
|
| Valorant | 240−250
+199%
|
80−85
−199%
|
Full HD
Ultra
| Battlefield 5 | 140−150
+303%
|
35−40
−303%
|
| Cyberpunk 2077 | 100−110
+544%
|
16−18
−544%
|
| Escape from Tarkov | 120−130
+278%
|
30−35
−278%
|
| Far Cry 5 | 100
+300%
|
25
−300%
|
| Forza Horizon 4 | 160−170
+377%
|
35−40
−377%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
+469%
|
27−30
−469%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 112
+647%
|
15
−647%
|
Full HD
Epic
| Fortnite | 180−190
+288%
|
45−50
−288%
|
1440p
High
| Counter-Strike 2 | 71
+373%
|
14−16
−373%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 300−350
+402%
|
60−65
−402%
|
| Grand Theft Auto V | 77
+670%
|
10−11
−670%
|
| Metro Exodus | 65−70
+713%
|
8−9
−713%
|
| Valorant | 270−280
+210%
|
85−90
−210%
|
1440p
Ultra
| Battlefield 5 | 100−110
+541%
|
16−18
−541%
|
| Cyberpunk 2077 | 50−55
+783%
|
6−7
−783%
|
| Escape from Tarkov | 100−110
+587%
|
14−16
−587%
|
| Far Cry 5 | 88
+450%
|
16−18
−450%
|
| Forza Horizon 4 | 120−130
+574%
|
18−20
−574%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 85
+673%
|
10−12
−673%
|
1440p
Epic
| Fortnite | 110−120
+631%
|
16−18
−631%
|
4K
High
| Counter-Strike 2 | 36
+1700%
|
2−3
−1700%
|
| Grand Theft Auto V | 80
+321%
|
18−20
−321%
|
| Metro Exodus | 40−45
+1233%
|
3−4
−1233%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 59
+743%
|
7−8
−743%
|
| Valorant | 260−270
+541%
|
40−45
−541%
|
4K
Ultra
| Battlefield 5 | 70−75
+775%
|
8−9
−775%
|
| Cyberpunk 2077 | 24−27
+1100%
|
2−3
−1100%
|
| Escape from Tarkov | 55−60
+817%
|
6−7
−817%
|
| Far Cry 5 | 50
+525%
|
8−9
−525%
|
| Forza Horizon 4 | 85−90
+562%
|
12−14
−562%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 60−65
+688%
|
8−9
−688%
|
4K
Epic
| Fortnite | 55−60
+638%
|
8−9
−638%
|
Full HD
High
| Dota 2 | 56
+0%
|
56
+0%
|
Full HD
Ultra
| Dota 2 | 48
+0%
|
48
+0%
|
| Valorant | 80−85
+0%
|
80−85
+0%
|
1440p
High
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
+0%
|
40−45
+0%
|
4K
Ultra
| Counter-Strike 2 | 2−3
+0%
|
2−3
+0%
|
| Dota 2 | 27−30
+0%
|
27−30
+0%
|
นี่คือวิธีที่ Radeon 8060S และ Radeon 660M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- Radeon 8060S เร็วกว่า 363% ในความละเอียด 1080p
- Radeon 8060S เร็วกว่า 490% ในความละเอียด 1440p
- Radeon 8060S เร็วกว่า 500% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ Radeon 8060S เร็วกว่า 1700%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- Radeon 8060S เหนือกว่าใน 58การทดสอบ (91%)
- เสมอกันใน 6การทดสอบ (9%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
| คะแนนประสิทธิภาพ | 42.89 | 7.81 |
| ความใหม่ล่าสุด | 6 มกราคม 2025 | 3 มกราคม 2023 |
| การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 4 nm | 6 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 55 วัตต์ | 40 วัตต์ |
Radeon 8060S มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 449.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 50%
ในทางกลับกัน Radeon 660M มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 37.5%
Radeon 8060S เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 660M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
