GeForce RTX 5070 Ti Mobile เทียบกับ Radeon 780M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon 780M กับ GeForce RTX 5070 Ti Mobile รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 5070 Ti Mobile มีประสิทธิภาพดีกว่า 780M อย่างมหาศาลถึง 236% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
| ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 361 | 53 |
| จัดอันดับตามความนิยม | 41 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
| ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 84.50 | 70.91 |
| สถาปัตยกรรม | RDNA 3.0 (2022−2025) | Blackwell 2.0 (2025−2026) |
| ชื่อรหัส GPU | Phoenix | GB205 |
| ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
| วันที่วางจำหน่าย | 31 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) | มีนาคม 2025 (เร็ว ๆ นี้) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
| พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 768 | 5888 |
| ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 800 MHz | 847 MHz |
| เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2900 MHz | 1447 MHz |
| จำนวนทรานซิสเตอร์ | 25,390 million | 31,100 million |
| เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 4 nm | 5 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 15 Watt | 60 Watt |
| อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 139.2 | 266.2 |
| ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 8.909 TFLOPS | 17.04 TFLOPS |
| ROPs | 32 | 80 |
| TMUs | 48 | 184 |
| Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 184 |
| Ray Tracing Cores | 12 | 46 |
| L0 Cache | 192 เคบี | ไม่มีข้อมูล |
| L1 Cache | 256 เคบี | 5.8 เอ็มบี |
| L2 Cache | 2 เอ็มบี | 48 เอ็มบี |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
| ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | large |
| อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 5.0 x16 |
| ความกว้าง | IGP | ไม่มีข้อมูล |
| ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
| ประเภทหน่วยความจำ | System Shared | GDDR7 |
| จำนวน RAM สูงสุด | System Shared | 12 จีบี |
| ความกว้างบัสหน่วยความจำ | System Shared | 192 Bit |
| ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | System Shared | 1750 MHz |
| ไม่มีข้อมูล | 672.0 จีบี/s | |
| หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | + | - |
| Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
| ขั้วต่อจอแสดงผล | Motherboard Dependent | Portable Device Dependent |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
| DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
| รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | 6.8 |
| OpenGL | 4.6 | 4.6 |
| OpenCL | 2.1 | 3.0 |
| Vulkan | 1.3 | 1.4 |
| CUDA | - | 12.0 |
| DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
| Full HD | 35
−320%
| 147
+320%
|
| 1440p | 22
−318%
| 92
+318%
|
| 4K | 13
−438%
| 70
+438%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low
| Counter-Strike 2 | 119
−138%
|
280−290
+138%
|
| Cyberpunk 2077 | 39
−254%
|
130−140
+254%
|
| Hogwarts Legacy | 35
−291%
|
130−140
+291%
|
Full HD
Medium
| Battlefield 5 | 70−75
−127%
|
160−170
+127%
|
| Counter-Strike 2 | 82
−285%
|
316
+285%
|
| Cyberpunk 2077 | 31
−345%
|
130−140
+345%
|
| Far Cry 5 | 45
−244%
|
155
+244%
|
| Fortnite | 90−95
−176%
|
250−260
+176%
|
| Forza Horizon 4 | 65−70
−214%
|
210−220
+214%
|
| Forza Horizon 5 | 65
−165%
|
170−180
+165%
|
| Hogwarts Legacy | 26
−427%
|
130−140
+427%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 60−65
−178%
|
170−180
+178%
|
| Valorant | 130−140
−131%
|
300−350
+131%
|
Full HD
High
| Battlefield 5 | 70−75
−127%
|
160−170
+127%
|
| Counter-Strike 2 | 39
−526%
|
244
+526%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 210−220
−29.9%
|
270−280
+29.9%
|
| Cyberpunk 2077 | 24
−475%
|
130−140
+475%
|
| Dota 2 | 100−110
−197%
|
300−310
+197%
|
| Far Cry 5 | 41
−254%
|
145
+254%
|
| Fortnite | 90−95
−176%
|
250−260
+176%
|
| Forza Horizon 4 | 65−70
−214%
|
210−220
+214%
|
| Forza Horizon 5 | 60
−187%
|
170−180
+187%
|
| Grand Theft Auto V | 45
−269%
|
166
+269%
|
| Hogwarts Legacy | 20
−585%
|
130−140
+585%
|
| Metro Exodus | 29
−386%
|
140−150
+386%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 60−65
−178%
|
170−180
+178%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 47
−626%
|
341
+626%
|
| Valorant | 130−140
−131%
|
300−350
+131%
|
Full HD
Ultra
| Battlefield 5 | 70−75
−127%
|
160−170
+127%
|
| Cyberpunk 2077 | 23
−500%
|
130−140
+500%
|
| Dota 2 | 100−110
−197%
|
300−310
+197%
|
| Far Cry 5 | 39
−264%
|
142
+264%
|
| Forza Horizon 4 | 65−70
−214%
|
210−220
+214%
|
| Hogwarts Legacy | 15
−813%
|
130−140
+813%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 60−65
−178%
|
170−180
+178%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 29
−469%
|
165
+469%
|
| Valorant | 130−140
−201%
|
400−450
+201%
|
Full HD
Epic
| Fortnite | 90−95
−176%
|
250−260
+176%
|
1440p
High
| Counter-Strike 2 | 27
−544%
|
174
+544%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 120−130
−235%
|
400−450
+235%
|
| Grand Theft Auto V | 18
−683%
|
141
+683%
|
| Metro Exodus | 21−24
−329%
|
90−95
+329%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
−209%
|
500−550
+209%
|
| Valorant | 160−170
−116%
|
350−400
+116%
|
1440p
Ultra
| Battlefield 5 | 45−50
−185%
|
130−140
+185%
|
| Cyberpunk 2077 | 16
−369%
|
75−80
+369%
|
| Far Cry 5 | 27
−433%
|
144
+433%
|
| Forza Horizon 4 | 40−45
−337%
|
170−180
+337%
|
| Hogwarts Legacy | 15
−373%
|
70−75
+373%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 20
−550%
|
130
+550%
|
1440p
Epic
| Fortnite | 35−40
−297%
|
150−160
+297%
|
4K
High
| Counter-Strike 2 | 6
−1100%
|
70−75
+1100%
|
| Grand Theft Auto V | 21
−490%
|
124
+490%
|
| Hogwarts Legacy | 10−11
−200%
|
30−33
+200%
|
| Metro Exodus | 12−14
−338%
|
55−60
+338%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 15
−587%
|
100−110
+587%
|
| Valorant | 90−95
−234%
|
300−350
+234%
|
4K
Ultra
| Battlefield 5 | 24−27
−284%
|
95−100
+284%
|
| Counter-Strike 2 | 14−16
−221%
|
45−50
+221%
|
| Cyberpunk 2077 | 6
−500%
|
35−40
+500%
|
| Dota 2 | 55−60
−222%
|
190−200
+222%
|
| Far Cry 5 | 12
−608%
|
85−90
+608%
|
| Forza Horizon 4 | 27−30
−348%
|
130−140
+348%
|
| Hogwarts Legacy | 10−11
−290%
|
35−40
+290%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 16−18
−500%
|
95−100
+500%
|
4K
Epic
| Fortnite | 16−18
−365%
|
75−80
+365%
|
นี่คือวิธีที่ Radeon 780M และ RTX 5070 Ti Mobile แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5070 Ti Mobile เร็วกว่า 320% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5070 Ti Mobile เร็วกว่า 318% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5070 Ti Mobile เร็วกว่า 438% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 5070 Ti Mobile เร็วกว่า 1100%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 5070 Ti Mobile เหนือกว่า Radeon 780M ในการทดสอบทั้ง 59 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
| คะแนนประสิทธิภาพ | 15.65 | 52.53 |
| ความใหม่ล่าสุด | 31 มกราคม 2024 | ใน มีนาคม 2025 |
| การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 4 nm | 5 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 15 วัตต์ | 60 วัตต์ |
Radeon 780M มีข้อได้เปรียบ มีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 25%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 300%
ในทางกลับกัน RTX 5070 Ti Mobile มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 235.7% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี
GeForce RTX 5070 Ti Mobile เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 780M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon 780M เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ GeForce RTX 5070 Ti Mobile เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก
