GeForce RTX 4070 Ti SUPER เทียบกับ Radeon 680M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon 680M กับ GeForce RTX 4070 Ti SUPER รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4070 Ti SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า 680M อย่างมหาศาลถึง 854% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 506 | 7 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 91 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 49.08 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.89 | 19.91 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 2.0 (2020−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Rembrandt+ | AD103 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $799 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 768 | 8448 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2000 MHz | 2340 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2200 MHz | 2610 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,100 million | 45,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 50 Watt | 285 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 105.6 | 689.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 3.379 TFLOPS | 44.1 TFLOPS |
ROPs | 32 | 96 |
TMUs | 48 | 264 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 264 |
Ray Tracing Cores | 12 | 66 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 310 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 3-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | System Shared | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | System Shared | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | System Shared | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | System Shared | 1313 MHz |
ไม่มีข้อมูล | 672.3 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | + | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | Portable Device Dependent | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | - | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 37
−516%
| 228
+516%
|
1440p | 17
−782%
| 150
+782%
|
4K | 11
−691%
| 87
+691%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 3.50 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 5.33 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 9.18 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 47
−387%
|
220−230
+387%
|
Counter-Strike 2 | 28
−575%
|
189
+575%
|
Cyberpunk 2077 | 38
−418%
|
197
+418%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 37
−519%
|
220−230
+519%
|
Battlefield 5 | 35−40
−436%
|
190−200
+436%
|
Counter-Strike 2 | 23
−722%
|
189
+722%
|
Cyberpunk 2077 | 28
−600%
|
196
+600%
|
Far Cry 5 | 38
−434%
|
203
+434%
|
Fortnite | 45−50
−516%
|
300−350
+516%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−781%
|
300−350
+781%
|
Forza Horizon 5 | 38
−471%
|
210−220
+471%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27−30
−510%
|
170−180
+510%
|
Valorant | 80−85
−474%
|
450−500
+474%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 20
−1045%
|
220−230
+1045%
|
Battlefield 5 | 35−40
−436%
|
190−200
+436%
|
Counter-Strike 2 | 21
−714%
|
171
+714%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 120−130
−119%
|
270−280
+119%
|
Cyberpunk 2077 | 21
−719%
|
172
+719%
|
Dota 2 | 71
−815%
|
650−700
+815%
|
Far Cry 5 | 35
−463%
|
197
+463%
|
Fortnite | 45−50
−516%
|
300−350
+516%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−781%
|
300−350
+781%
|
Forza Horizon 5 | 20−22
−985%
|
210−220
+985%
|
Grand Theft Auto V | 36
−383%
|
174
+383%
|
Metro Exodus | 23
−752%
|
196
+752%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27−30
−510%
|
170−180
+510%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 40
−975%
|
430
+975%
|
Valorant | 80−85
−474%
|
450−500
+474%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 35−40
−436%
|
190−200
+436%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
−838%
|
150
+838%
|
Cyberpunk 2077 | 18
−778%
|
158
+778%
|
Dota 2 | 61
−802%
|
550−600
+802%
|
Far Cry 5 | 33
−470%
|
188
+470%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−781%
|
300−350
+781%
|
Forza Horizon 5 | 26
−823%
|
240−250
+823%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27−30
−510%
|
170−180
+510%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 24
−775%
|
210
+775%
|
Valorant | 146
−223%
|
450−500
+223%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 45−50
−516%
|
300−350
+516%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 60−65
−732%
|
500−550
+732%
|
Grand Theft Auto V | 17
−812%
|
155
+812%
|
Metro Exodus | 8−9
−1538%
|
131
+1538%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−317%
|
170−180
+317%
|
Valorant | 90−95
−427%
|
450−500
+427%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 18−20
−989%
|
190−200
+989%
|
Counter-Strike 2 | 10−12
−809%
|
100−105
+809%
|
Cyberpunk 2077 | 10
−940%
|
104
+940%
|
Far Cry 5 | 21
−790%
|
187
+790%
|
Forza Horizon 4 | 18−20
−1384%
|
280−290
+1384%
|
Forza Horizon 5 | 14−16
−829%
|
130−140
+829%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 17
−835%
|
159
+835%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 16−18
−788%
|
150−160
+788%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 7−8
−1014%
|
75−80
+1014%
|
Counter-Strike 2 | 2−3
−3500%
|
72
+3500%
|
Grand Theft Auto V | 18−20
−858%
|
182
+858%
|
Metro Exodus | 3−4
−2700%
|
84
+2700%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 13
−1362%
|
190−200
+1362%
|
Valorant | 40−45
−690%
|
300−350
+690%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 9−10
−1411%
|
130−140
+1411%
|
Counter-Strike 2 | 2−3
−1000%
|
22
+1000%
|
Cyberpunk 2077 | 4
−1150%
|
50
+1150%
|
Dota 2 | 18
−844%
|
170−180
+844%
|
Far Cry 5 | 8−9
−1388%
|
119
+1388%
|
Forza Horizon 4 | 12−14
−1808%
|
240−250
+1808%
|
Forza Horizon 5 | 6−7
−817%
|
55−60
+817%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 8−9
−1100%
|
95−100
+1100%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 8−9
−888%
|
75−80
+888%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 95−100
+0%
|
95−100
+0%
|
นี่คือวิธีที่ Radeon 680M และ RTX 4070 Ti SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti SUPER เร็วกว่า 516% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 Ti SUPER เร็วกว่า 782% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 Ti SUPER เร็วกว่า 691% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4070 Ti SUPER เร็วกว่า 3500%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti SUPER เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 8.65 | 82.53 |
ความใหม่ล่าสุด | 3 มกราคม 2023 | 8 มกราคม 2024 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 50 วัตต์ | 285 วัตต์ |
Radeon 680M มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 470%
ในทางกลับกัน RTX 4070 Ti SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 854.1% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 20%
GeForce RTX 4070 Ti SUPER เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 680M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon 680M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 4070 Ti SUPER เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป