GeForce RTX 4070 เทียบกับ Quadro P2000
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Quadro P2000 กับ GeForce RTX 4070 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4070 มีประสิทธิภาพดีกว่า P2000 อย่างมหาศาลถึง 271% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 304 | 24 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 36 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 9.64 | 60.53 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 17.34 | 24.11 |
สถาปัตยกรรม | Pascal (2016−2021) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GP106 | AD104 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชัน | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 6 กุมภาพันธ์ 2017 (เมื่อ 8 ปี ปีที่แล้ว) | 12 เมษายน 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $585 | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4070 มีความคุ้มค่ามากกว่า Quadro P2000 อยู่ 528%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1024 | 5888 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1076 MHz | 1920 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1480 MHz | 2475 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 4,400 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 16 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 Watt | 200 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 94.72 | 455.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 3.031 TFLOPS | 29.15 TFLOPS |
ROPs | 40 | 64 |
TMUs | 64 | 184 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 184 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 46 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 201 mm | 240 mm |
ความกว้าง | 1-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 5 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 160 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1752 MHz | 1313 MHz |
140.2 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 4x DisplayPort | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 3.0 |
Vulkan | + | 1.3 |
CUDA | 6.1 | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 56
−284%
| 215
+284%
|
1440p | 20
−505%
| 121
+505%
|
4K | 16
−356%
| 73
+356%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 10.45
−275%
| 2.79
+275%
|
1440p | 29.25
−491%
| 4.95
+491%
|
4K | 36.56
−346%
| 8.21
+346%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 45−50
−581%
|
320
+581%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−403%
|
160−170
+403%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−484%
|
216
+484%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 45−50
−432%
|
250
+432%
|
Battlefield 5 | 70−75
−135%
|
170−180
+135%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−403%
|
160−170
+403%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−370%
|
174
+370%
|
Far Cry 5 | 47
−347%
|
210
+347%
|
Fortnite | 144
−110%
|
300−350
+110%
|
Forza Horizon 4 | 70−75
−251%
|
250−260
+251%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
−286%
|
180−190
+286%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 53
−234%
|
170−180
+234%
|
Valorant | 130−140
−168%
|
350−400
+168%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 45−50
−215%
|
148
+215%
|
Battlefield 5 | 70−75
−135%
|
170−180
+135%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−403%
|
160−170
+403%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 220−230
−25.8%
|
270−280
+25.8%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−286%
|
143
+286%
|
Dota 2 | 102
−243%
|
350−400
+243%
|
Far Cry 5 | 41
−398%
|
204
+398%
|
Fortnite | 60
−403%
|
300−350
+403%
|
Forza Horizon 4 | 70−75
−251%
|
250−260
+251%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
−286%
|
180−190
+286%
|
Grand Theft Auto V | 65−70
−160%
|
174
+160%
|
Metro Exodus | 35−40
−342%
|
168
+342%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 41
−332%
|
170−180
+332%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 38
−824%
|
351
+824%
|
Valorant | 130−140
−168%
|
350−400
+168%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 70−75
−135%
|
170−180
+135%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−403%
|
160−170
+403%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−246%
|
128
+246%
|
Dota 2 | 98
−257%
|
350−400
+257%
|
Far Cry 5 | 35
−440%
|
189
+440%
|
Forza Horizon 4 | 70−75
−251%
|
250−260
+251%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
−267%
|
180−190
+267%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 29
−510%
|
170−180
+510%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 25
−580%
|
170
+580%
|
Valorant | 130−140
−168%
|
350−400
+168%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 45
−571%
|
300−350
+571%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 20−22
−220%
|
60−65
+220%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 120−130
−286%
|
450−500
+286%
|
Grand Theft Auto V | 30−33
−357%
|
137
+357%
|
Metro Exodus | 21−24
−352%
|
104
+352%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
−4.8%
|
170−180
+4.8%
|
Valorant | 170−180
−158%
|
400−450
+158%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 50−55
−226%
|
160−170
+226%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
−406%
|
81
+406%
|
Far Cry 5 | 21
−714%
|
171
+714%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−400%
|
220−230
+400%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
−244%
|
110−120
+244%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
−446%
|
150−160
+446%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 24
−529%
|
150−160
+529%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 14−16
−329%
|
60−65
+329%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−463%
|
45−50
+463%
|
Grand Theft Auto V | 30−35
−356%
|
146
+356%
|
Metro Exodus | 14−16
−364%
|
65
+364%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 13
−785%
|
115
+785%
|
Valorant | 100−105
−231%
|
300−350
+231%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 24−27
−358%
|
110−120
+358%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−463%
|
45−50
+463%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
−414%
|
36
+414%
|
Dota 2 | 60−65
−255%
|
220−230
+255%
|
Far Cry 5 | 9
−933%
|
93
+933%
|
Forza Horizon 4 | 30−35
−455%
|
170−180
+455%
|
Forza Horizon 5 | 16−18
−244%
|
55−60
+244%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 7
−1271%
|
95−100
+1271%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 10
−690%
|
75−80
+690%
|
นี่คือวิธีที่ Quadro P2000 และ RTX 4070 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 เร็วกว่า 284% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 เร็วกว่า 505% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 เร็วกว่า 356% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 4070 เร็วกว่า 1271%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 4070 เหนือกว่า Quadro P2000 ในการทดสอบทั้ง 61 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 18.66 | 69.19 |
ความใหม่ล่าสุด | 6 กุมภาพันธ์ 2017 | 12 เมษายน 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 5 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 16 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 วัตต์ | 200 วัตต์ |
Quadro P2000 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 166.7%
ในทางกลับกัน RTX 4070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 270.8% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 6 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 220%
GeForce RTX 4070 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Quadro P2000 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Quadro P2000 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน ในขณะที่ GeForce RTX 4070 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป