RTX 6000 Ada Generation เทียบกับ GeForce RTX 4080
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 4080 กับ RTX 6000 Ada Generation รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4080 มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 6000 Ada Generation อย่างมาก 21% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 4 | 16 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 29.11 | 7.58 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 19.34 | 17.00 |
สถาปัตยกรรม | Ada Lovelace (2022−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | AD103 | AD102 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เวิร์กสเตชัน |
วันที่วางจำหน่าย | 20 กันยายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 3 ธันวาคม 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $1,199 | $6,799 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4080 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 6000 Ada Generation อยู่ 284%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 9728 | 18176 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2205 MHz | 915 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2505 MHz | 2505 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 45,900 million | 76,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 320 Watt | 300 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 761.5 | 1,423 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 48.74 TFLOPS | 91.06 TFLOPS |
ROPs | 112 | 192 |
TMUs | 304 | 568 |
Tensor Cores | 304 | 568 |
Ray Tracing Cores | 76 | 142 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 310 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 3-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 16-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 48 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 384 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1400 MHz | 2500 MHz |
716.8 จีบี/s | 960.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | 4x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.9 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 234
+27.2%
| 184
−27.2%
|
1440p | 163
+0.6%
| 162
−0.6%
|
4K | 107
−3.7%
| 111
+3.7%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 5.12
+621%
| 36.95
−621%
|
1440p | 7.36
+471%
| 41.97
−471%
|
4K | 11.21
+447%
| 61.25
−447%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 240−250
+14.8%
|
210−220
−14.8%
|
Counter-Strike 2 | 200−210
+24.4%
|
164
−24.4%
|
Cyberpunk 2077 | 231
+33.5%
|
170−180
−33.5%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 227
+8.1%
|
210−220
−8.1%
|
Battlefield 5 | 190−200
+9.4%
|
180−190
−9.4%
|
Counter-Strike 2 | 217
+33.1%
|
163
−33.1%
|
Cyberpunk 2077 | 231
+33.5%
|
170−180
−33.5%
|
Far Cry 5 | 223
+71.5%
|
130
−71.5%
|
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+25.5%
|
270−280
−25.5%
|
Forza Horizon 5 | 249
+25.8%
|
190−200
−25.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 550−600
+39.8%
|
350−400
−39.8%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 205
−2.4%
|
210−220
+2.4%
|
Battlefield 5 | 190−200
+9.4%
|
180−190
−9.4%
|
Counter-Strike 2 | 202
+30.3%
|
155
−30.3%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 210
+21.4%
|
170−180
−21.4%
|
Dota 2 | 249
+24.5%
|
200−210
−24.5%
|
Far Cry 5 | 218
+73%
|
126
−73%
|
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+25.5%
|
270−280
−25.5%
|
Forza Horizon 5 | 239
+20.7%
|
190−200
−20.7%
|
Grand Theft Auto V | 178
+4.7%
|
170−180
−4.7%
|
Metro Exodus | 213
+86.8%
|
114
−86.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 545
+11.5%
|
489
−11.5%
|
Valorant | 550−600
+39.8%
|
350−400
−39.8%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+9.4%
|
180−190
−9.4%
|
Counter-Strike 2 | 170
+15.6%
|
147
−15.6%
|
Cyberpunk 2077 | 190
+9.8%
|
170−180
−9.8%
|
Dota 2 | 233
+22.6%
|
190−200
−22.6%
|
Far Cry 5 | 204
+72.9%
|
118
−72.9%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+25.5%
|
270−280
−25.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 259
−0.4%
|
260
+0.4%
|
Valorant | 575
+45.9%
|
350−400
−45.9%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 120−130
+72.6%
|
70−75
−72.6%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+0%
|
500−550
+0%
|
Grand Theft Auto V | 162
+13.3%
|
140−150
−13.3%
|
Metro Exodus | 154
+62.1%
|
95
−62.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
+0%
|
450−500
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+11.4%
|
170−180
−11.4%
|
Cyberpunk 2077 | 129
+29%
|
100−105
−29%
|
Far Cry 5 | 201
+70.3%
|
118
−70.3%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+28%
|
230−240
−28%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 191
−14.7%
|
219
+14.7%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+0%
|
150−160
+0%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 90−95
+38.5%
|
65−70
−38.5%
|
Counter-Strike 2 | 82
+3.8%
|
79
−3.8%
|
Grand Theft Auto V | 185
+11.4%
|
160−170
−11.4%
|
Metro Exodus | 104
+15.6%
|
90
−15.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 187
+1.6%
|
184
−1.6%
|
Valorant | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+3.8%
|
130−140
−3.8%
|
Counter-Strike 2 | 29
−3.4%
|
30
+3.4%
|
Cyberpunk 2077 | 63
+31.3%
|
45−50
−31.3%
|
Dota 2 | 227
+26.1%
|
180−190
−26.1%
|
Far Cry 5 | 140
+21.7%
|
115
−21.7%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+57.5%
|
190−200
−57.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+0%
|
95−100
+0%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+0%
|
75−80
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 4080 และ RTX 6000 Ada Generation แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เร็วกว่า 27% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4080 เร็วกว่า 1% ในความละเอียด 1440p
- RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 4% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4080 เร็วกว่า 87%
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 15%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เหนือกว่าใน 43การทดสอบ (70%)
- RTX 6000 Ada Generation เหนือกว่าใน 4การทดสอบ (7%)
- เสมอกันใน 14การทดสอบ (23%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 88.80 | 73.16 |
ความใหม่ล่าสุด | 20 กันยายน 2022 | 3 ธันวาคม 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 48 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 320 วัตต์ | 300 วัตต์ |
RTX 4080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 21.4%
ในทางกลับกัน RTX 6000 Ada Generation มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 เดือนและและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 6.7%
GeForce RTX 4080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า RTX 6000 Ada Generation ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce RTX 4080 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ RTX 6000 Ada Generation เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน