GeForce MX570 เทียบกับ RTX 2070 Super
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 2070 Super กับ GeForce MX570 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 2070 Super มีประสิทธิภาพดีกว่า MX570 อย่างมหาศาลถึง 216% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
| ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 97 | 407 |
| จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
| ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 34.37 | ไม่มีข้อมูล |
| ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 15.51 | 42.15 |
| สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ampere (2020−2025) |
| ชื่อรหัส GPU | TU104 | GA107 |
| ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
| วันที่วางจำหน่าย | 9 กรกฎาคม 2019 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | พฤษภาคม 2022 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
| ราคาเปิดตัว (MSRP) | $499 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
| พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2560 | 2048 |
| ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1605 MHz | 832 MHz |
| เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1770 MHz | 1155 MHz |
| จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,600 million | ไม่มีข้อมูล |
| เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 8 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 215 Watt | 25 Watt |
| อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 283.2 | 73.92 |
| ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 9.062 TFLOPS | 4.731 TFLOPS |
| ROPs | 64 | 40 |
| TMUs | 160 | 64 |
| Tensor Cores | 320 | 64 |
| Ray Tracing Cores | 40 | 16 |
| L1 Cache | 2.5 เอ็มบี | 2 เอ็มบี |
| L2 Cache | 4 เอ็มบี | 2 เอ็มบี |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
| อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
| ความยาว | 267 mm | ไม่มีข้อมูล |
| ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
| ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin + 1x 8-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
| ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
| จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 2 จีบี |
| ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 64 Bit |
| ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1500 MHz |
| 448.0 จีบี/s | 96 จีบี/s | |
| หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
| Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
| ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.0, 3x DisplayPort 1.4a, 1x USB Type-C | No outputs |
| HDMI | + | - |
| รองรับ G-SYNC | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
| Optimus | - | + |
| VR Ready | + | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
| DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
| รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | 6.6 |
| OpenGL | 4.6 | 4.6 |
| OpenCL | 3.0 | 3.0 |
| Vulkan | 1.3 | 1.3 |
| CUDA | 7.5 | 8.6 |
| DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
| Full HD | 132
+247%
| 38
−247%
|
| 1440p | 80
+233%
| 24−27
−233%
|
| 4K | 52
+225%
| 16−18
−225%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
| 1080p | 3.78 | ไม่มีข้อมูล |
| 1440p | 6.24 | ไม่มีข้อมูล |
| 4K | 9.60 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low
| Counter-Strike 2 | 341
+180%
|
122
−180%
|
| Cyberpunk 2077 | 94
+224%
|
27−30
−224%
|
Full HD
Medium
| Battlefield 5 | 118
+93.4%
|
60−65
−93.4%
|
| Counter-Strike 2 | 316
+198%
|
106
−198%
|
| Cyberpunk 2077 | 84
+190%
|
27−30
−190%
|
| Escape from Tarkov | 119
+109%
|
55−60
−109%
|
| Far Cry 5 | 123
+167%
|
45−50
−167%
|
| Fortnite | 218
+176%
|
75−80
−176%
|
| Forza Horizon 4 | 174
+200%
|
55−60
−200%
|
| Forza Horizon 5 | 150
+249%
|
40−45
−249%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 186
+265%
|
50−55
−265%
|
| Valorant | 279
+136%
|
110−120
−136%
|
Full HD
High
| Battlefield 5 | 103
+68.9%
|
60−65
−68.9%
|
| Counter-Strike 2 | 194
+385%
|
40
−385%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+46.3%
|
190−200
−46.3%
|
| Cyberpunk 2077 | 78
+169%
|
27−30
−169%
|
| Dota 2 | 137
+52.2%
|
90−95
−52.2%
|
| Escape from Tarkov | 119
+109%
|
55−60
−109%
|
| Far Cry 5 | 117
+154%
|
45−50
−154%
|
| Fortnite | 193
+144%
|
75−80
−144%
|
| Forza Horizon 4 | 172
+197%
|
55−60
−197%
|
| Forza Horizon 5 | 133
+209%
|
40−45
−209%
|
| Grand Theft Auto V | 145
+169%
|
54
−169%
|
| Metro Exodus | 90
+210%
|
27−30
−210%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 165
+224%
|
50−55
−224%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 181
+389%
|
35−40
−389%
|
| Valorant | 270
+129%
|
110−120
−129%
|
Full HD
Ultra
| Battlefield 5 | 95
+55.7%
|
60−65
−55.7%
|
| Cyberpunk 2077 | 73
+152%
|
27−30
−152%
|
| Dota 2 | 129
+43.3%
|
90−95
−43.3%
|
| Escape from Tarkov | 105
+84.2%
|
55−60
−84.2%
|
| Far Cry 5 | 110
+139%
|
45−50
−139%
|
| Forza Horizon 4 | 153
+164%
|
55−60
−164%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 154
+202%
|
50−55
−202%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 100
+194%
|
34
−194%
|
| Valorant | 194
+64.4%
|
110−120
−64.4%
|
Full HD
Epic
| Fortnite | 168
+113%
|
75−80
−113%
|
1440p
High
| Counter-Strike 2 | 124
+359%
|
27−30
−359%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 300−350
+198%
|
100−110
−198%
|
| Grand Theft Auto V | 95
+332%
|
21−24
−332%
|
| Metro Exodus | 57
+235%
|
16−18
−235%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+38.9%
|
120−130
−38.9%
|
| Valorant | 263
+82.6%
|
140−150
−82.6%
|
1440p
Ultra
| Battlefield 5 | 83
+113%
|
35−40
−113%
|
| Cyberpunk 2077 | 47
+292%
|
12−14
−292%
|
| Escape from Tarkov | 92
+229%
|
27−30
−229%
|
| Far Cry 5 | 98
+227%
|
30−33
−227%
|
| Forza Horizon 4 | 125
+268%
|
30−35
−268%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 85−90
+335%
|
20−22
−335%
|
1440p
Epic
| Fortnite | 117
+277%
|
30−35
−277%
|
4K
High
| Counter-Strike 2 | 28
+180%
|
10−11
−180%
|
| Grand Theft Auto V | 93
+258%
|
24−27
−258%
|
| Metro Exodus | 37
+270%
|
10−11
−270%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 68
+258%
|
18−20
−258%
|
| Valorant | 258
+239%
|
75−80
−239%
|
4K
Ultra
| Battlefield 5 | 53
+165%
|
20−22
−165%
|
| Counter-Strike 2 | 50−55
+420%
|
10−11
−420%
|
| Cyberpunk 2077 | 23
+360%
|
5−6
−360%
|
| Dota 2 | 128
+156%
|
50−55
−156%
|
| Escape from Tarkov | 46
+254%
|
12−14
−254%
|
| Far Cry 5 | 54
+260%
|
14−16
−260%
|
| Forza Horizon 4 | 84
+250%
|
24−27
−250%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 66
+408%
|
12−14
−408%
|
4K
Epic
| Fortnite | 58
+314%
|
14−16
−314%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 2070 Super และ GeForce MX570 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 2070 Super เร็วกว่า 247% ในความละเอียด 1080p
- RTX 2070 Super เร็วกว่า 233% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2070 Super เร็วกว่า 225% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 2070 Super เร็วกว่า 420%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 2070 Super เหนือกว่า GeForce MX570 ในการทดสอบทั้ง 64 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
| คะแนนประสิทธิภาพ | 43.42 | 13.72 |
| จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 2 จีบี |
| การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 8 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 215 วัตต์ | 25 วัตต์ |
RTX 2070 Super มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 216.5% และ
ในทางกลับกัน GeForce MX570 มีข้อได้เปรียบ มีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 50%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 760%
GeForce RTX 2070 Super เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce MX570 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce RTX 2070 Super เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ GeForce MX570 เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก
