GeForce RTX 4080 เทียบกับ GTX 560 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 560 Ti และ GeForce RTX 4080 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4080 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 560 Ti อย่างมหาศาลถึง 1030% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 527 | 4 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 1.84 | 29.10 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 3.22 | 19.34 |
สถาปัตยกรรม | Fermi 2.0 (2010−2014) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GF114 | AD103 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 25 มกราคม 2011 (เมื่อ 14 ปี ปีที่แล้ว) | 20 กันยายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $249 | $1,199 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4080 มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 560 Ti อยู่ 1482%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 384 | 9728 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 823 MHz | 2205 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | ไม่มีข้อมูล | 2505 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 1,950 million | 45,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 40 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 170 Watt | 320 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 52.67 | 761.5 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 1.263 TFLOPS | 48.74 TFLOPS |
ROPs | 32 | 112 |
TMUs | 64 | 304 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 304 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 76 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 2.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 229 mm | 310 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 3-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 6-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 1 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1002 MHz | 1400 MHz |
128.3 จีบี/s | 716.8 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 2x DVI, 1x mini-HDMI | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (11_0) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 5.1 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.1 | 3.0 |
Vulkan | N/A | 1.3 |
CUDA | 2.1 | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
900p | 63
−1011%
| 700−750
+1011%
|
Full HD | 65
−260%
| 234
+260%
|
1440p | 14−16
−1064%
| 163
+1064%
|
4K | 9−10
−1089%
| 107
+1089%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.83
+33.8%
| 5.12
−33.8%
|
1440p | 17.79
−142%
| 7.36
+142%
|
4K | 27.67
−147%
| 11.21
+147%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 18−20
−1239%
|
240−250
+1239%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−1260%
|
200−210
+1260%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−1440%
|
231
+1440%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 18−20
−1161%
|
227
+1161%
|
Battlefield 5 | 30−35
−516%
|
190−200
+516%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−1347%
|
217
+1347%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−1440%
|
231
+1440%
|
Far Cry 5 | 24−27
−829%
|
223
+829%
|
Fortnite | 45−50
−571%
|
300−350
+571%
|
Forza Horizon 4 | 30−35
−942%
|
300−350
+942%
|
Forza Horizon 5 | 18−20
−1283%
|
249
+1283%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27−30
−556%
|
170−180
+556%
|
Valorant | 75−80
−606%
|
550−600
+606%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 18−20
−1039%
|
205
+1039%
|
Battlefield 5 | 30−35
−516%
|
190−200
+516%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−1247%
|
202
+1247%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 110−120
−134%
|
270−280
+134%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−1300%
|
210
+1300%
|
Dota 2 | 55−60
−337%
|
249
+337%
|
Far Cry 5 | 24−27
−808%
|
218
+808%
|
Fortnite | 45−50
−571%
|
300−350
+571%
|
Forza Horizon 4 | 30−35
−942%
|
300−350
+942%
|
Forza Horizon 5 | 18−20
−1228%
|
239
+1228%
|
Grand Theft Auto V | 27−30
−536%
|
178
+536%
|
Metro Exodus | 14−16
−1421%
|
213
+1421%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27−30
−556%
|
170−180
+556%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 20−22
−2625%
|
545
+2625%
|
Valorant | 75−80
−606%
|
550−600
+606%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 30−35
−516%
|
190−200
+516%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−1033%
|
170
+1033%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−1167%
|
190
+1167%
|
Dota 2 | 55−60
−309%
|
233
+309%
|
Far Cry 5 | 24−27
−750%
|
204
+750%
|
Forza Horizon 4 | 30−35
−942%
|
300−350
+942%
|
Forza Horizon 5 | 18−20
−1011%
|
200−210
+1011%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27−30
−556%
|
170−180
+556%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 20−22
−1195%
|
259
+1195%
|
Valorant | 75−80
−637%
|
575
+637%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 45−50
−571%
|
300−350
+571%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 10−11
−1150%
|
120−130
+1150%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 55−60
−805%
|
500−550
+805%
|
Grand Theft Auto V | 10−11
−1520%
|
162
+1520%
|
Metro Exodus | 7−8
−2100%
|
154
+2100%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−338%
|
170−180
+338%
|
Valorant | 85−90
−471%
|
450−500
+471%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 14−16
−1207%
|
190−200
+1207%
|
Cyberpunk 2077 | 6−7
−2050%
|
129
+2050%
|
Far Cry 5 | 14−16
−1240%
|
201
+1240%
|
Forza Horizon 4 | 18−20
−1600%
|
300−350
+1600%
|
Forza Horizon 5 | 12−14
−977%
|
140−150
+977%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 10−12
−1636%
|
191
+1636%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 14−16
−907%
|
150−160
+907%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 6−7
−1400%
|
90−95
+1400%
|
Counter-Strike 2 | 2−3
−4000%
|
82
+4000%
|
Grand Theft Auto V | 18−20
−928%
|
185
+928%
|
Metro Exodus | 3−4
−3367%
|
104
+3367%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 6−7
−3017%
|
187
+3017%
|
Valorant | 35−40
−774%
|
300−350
+774%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 7−8
−1843%
|
130−140
+1843%
|
Counter-Strike 2 | 2−3
−1350%
|
29
+1350%
|
Cyberpunk 2077 | 2−3
−3050%
|
63
+3050%
|
Dota 2 | 27−30
−741%
|
227
+741%
|
Far Cry 5 | 8−9
−1650%
|
140
+1650%
|
Forza Horizon 4 | 12−14
−2425%
|
300−350
+2425%
|
Forza Horizon 5 | 5−6
−1000%
|
55−60
+1000%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 7−8
−1271%
|
95−100
+1271%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 7−8
−1029%
|
75−80
+1029%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 560 Ti และ RTX 4080 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เร็วกว่า 1011% ในความละเอียด 900p
- RTX 4080 เร็วกว่า 260% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4080 เร็วกว่า 1064% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4080 เร็วกว่า 1089% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4080 เร็วกว่า 4000%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 4080 เหนือกว่า GTX 560 Ti ในการทดสอบทั้ง 64 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 7.91 | 89.42 |
ความใหม่ล่าสุด | 25 มกราคม 2011 | 20 กันยายน 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 1 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 40 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 170 วัตต์ | 320 วัตต์ |
GTX 560 Ti มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 88.2%
ในทางกลับกัน RTX 4080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 1030.5% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 11 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 700%
GeForce RTX 4080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 560 Ti ในการทดสอบประสิทธิภาพ