Radeon RX 580 เทียบกับ GeForce GTX 1660 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1660 Ti และ Radeon RX 580 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
GTX 1660 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 580 อย่างน่าสนใจ 46% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 165 | 251 |
จัดอันดับตามความนิยม | 27 | 1 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 43.33 | 17.69 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 19.26 | 8.56 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | GCN 4.0 (2016−2020) |
ชื่อรหัส GPU | TU116 | Polaris 20 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 22 กุมภาพันธ์ 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $279 | $229 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
GTX 1660 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 580 อยู่ 145%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1536 | 2304 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1500 MHz | 1257 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1770 MHz | 1340 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,600 million | 5,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 185 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 169.9 | 193.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.437 TFLOPS | 6.175 TFLOPS |
ROPs | 48 | 32 |
TMUs | 96 | 144 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 229 mm | 241 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | 2000 MHz |
288.0 จีบี/s | 256.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 (12_0) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.4 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 2.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
CUDA | 7.5 | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 105
+8.2%
| 97
−8.2%
|
1440p | 60
+39.5%
| 43
−39.5%
|
4K | 39
+5.4%
| 37
−5.4%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.66
−12.6%
| 2.36
+12.6%
|
1440p | 4.65
+14.5%
| 5.33
−14.5%
|
4K | 7.15
−15.6%
| 6.19
+15.6%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 90−95
+56.9%
|
55−60
−56.9%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+63.4%
|
40−45
−63.4%
|
Cyberpunk 2077 | 78
+69.6%
|
45−50
−69.6%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 90−95
+56.9%
|
55−60
−56.9%
|
Battlefield 5 | 129
+4%
|
124
−4%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+63.4%
|
40−45
−63.4%
|
Cyberpunk 2077 | 71
+54.3%
|
45−50
−54.3%
|
Far Cry 5 | 109
+31.3%
|
83
−31.3%
|
Fortnite | 247
+61.4%
|
153
−61.4%
|
Forza Horizon 4 | 131
+21.3%
|
108
−21.3%
|
Forza Horizon 5 | 94
+54.1%
|
60−65
−54.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 200
+135%
|
85
−135%
|
Valorant | 190−200
+26.6%
|
150−160
−26.6%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 90−95
+56.9%
|
55−60
−56.9%
|
Battlefield 5 | 112
+9.8%
|
102
−9.8%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+63.4%
|
40−45
−63.4%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+12.2%
|
240−250
−12.2%
|
Cyberpunk 2077 | 57
+23.9%
|
45−50
−23.9%
|
Dota 2 | 181
+56%
|
110−120
−56%
|
Far Cry 5 | 99
+30.3%
|
76
−30.3%
|
Fortnite | 143
+34.9%
|
106
−34.9%
|
Forza Horizon 4 | 122
+20.8%
|
101
−20.8%
|
Forza Horizon 5 | 72
+18%
|
60−65
−18%
|
Grand Theft Auto V | 119
+54.5%
|
77
−54.5%
|
Metro Exodus | 55
+14.6%
|
48
−14.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150
+114%
|
70
−114%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 116
+61.1%
|
72
−61.1%
|
Valorant | 190−200
+26.6%
|
150−160
−26.6%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 102
+9.7%
|
93
−9.7%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+63.4%
|
40−45
−63.4%
|
Cyberpunk 2077 | 46
+0%
|
45−50
+0%
|
Dota 2 | 168
+44.8%
|
110−120
−44.8%
|
Far Cry 5 | 94
+32.4%
|
71
−32.4%
|
Forza Horizon 4 | 97
+18.3%
|
82
−18.3%
|
Forza Horizon 5 | 66
+8.2%
|
60−65
−8.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 129
+163%
|
49
−163%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 62
+40.9%
|
44
−40.9%
|
Valorant | 118
−30.5%
|
150−160
+30.5%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 117
+46.3%
|
80
−46.3%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 27−30
+22.7%
|
21−24
−22.7%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 210−220
+39.6%
|
150−160
−39.6%
|
Grand Theft Auto V | 62
+63.2%
|
35−40
−63.2%
|
Metro Exodus | 33
+17.9%
|
28
−17.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0.6%
|
170−180
−0.6%
|
Valorant | 230−240
+20.2%
|
190−200
−20.2%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 76
+24.6%
|
60−65
−24.6%
|
Cyberpunk 2077 | 27
+28.6%
|
21−24
−28.6%
|
Far Cry 5 | 67
+36.7%
|
45−50
−36.7%
|
Forza Horizon 4 | 77
+40%
|
55−60
−40%
|
Forza Horizon 5 | 47
+20.5%
|
35−40
−20.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 55−60
+57.1%
|
35−40
−57.1%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 75
+47.1%
|
50−55
−47.1%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 24−27
+47.1%
|
16−18
−47.1%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
+50%
|
10−11
−50%
|
Grand Theft Auto V | 56
−1.8%
|
57
+1.8%
|
Metro Exodus | 21
+16.7%
|
18
−16.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 43
+59.3%
|
27
−59.3%
|
Valorant | 180−190
+51.6%
|
120−130
−51.6%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 43
+16.2%
|
37
−16.2%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
+50%
|
10−11
−50%
|
Cyberpunk 2077 | 11
+22.2%
|
9−10
−22.2%
|
Dota 2 | 94
+30.6%
|
70−75
−30.6%
|
Far Cry 5 | 35
+34.6%
|
26
−34.6%
|
Forza Horizon 4 | 51
+24.4%
|
41
−24.4%
|
Forza Horizon 5 | 24
+20%
|
20−22
−20%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 39
+117%
|
18
−117%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 25
+8.7%
|
23
−8.7%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1660 Ti และ RX 580 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- GTX 1660 Ti เร็วกว่า 8% ในความละเอียด 1080p
- GTX 1660 Ti เร็วกว่า 40% ในความละเอียด 1440p
- GTX 1660 Ti เร็วกว่า 5% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ GTX 1660 Ti เร็วกว่า 163%
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 580 เร็วกว่า 31%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 1660 Ti เหนือกว่าใน 64การทดสอบ (96%)
- RX 580 เหนือกว่าใน 2การทดสอบ (3%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (1%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 33.38 | 22.87 |
ความใหม่ล่าสุด | 22 กุมภาพันธ์ 2019 | 18 เมษายน 2017 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 185 วัตต์ |
GTX 1660 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 46% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 16.7%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 54.2%
ในทางกลับกัน RX 580 มีข้อได้เปรียบ
GeForce GTX 1660 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 580 ในการทดสอบประสิทธิภาพ