GeForce RTX 4070 Mobile เทียบกับ GTX 1650 Ti Max-Q
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1650 Ti Max-Q และ GeForce RTX 4070 Mobile โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4070 Mobile มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1650 Ti Max-Q อย่างมหาศาลถึง 203% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 336 | 61 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 23.11 | 30.46 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU117 | AD106 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 2 เมษายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1024 | 4608 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1035 MHz | 1395 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1200 MHz | 1695 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 4,700 million | ไม่มีข้อมูล |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 4 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 50 Watt | 115 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 76.80 | 244.1 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 2.458 TFLOPS | 15.62 TFLOPS |
ROPs | 32 | 48 |
TMUs | 64 | 144 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 144 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 36 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | large |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1250 MHz | 2000 MHz |
160.0 จีบี/s | 256.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | Portable Device Dependent |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.140 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 58
−121%
| 128
+121%
|
1440p | 41
−73.2%
| 71
+73.2%
|
4K | 26
−76.9%
| 46
+76.9%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 40−45
−359%
|
188
+359%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−338%
|
127
+338%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−309%
|
135
+309%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 40−45
−241%
|
140
+241%
|
Battlefield 5 | 65−70
−119%
|
140−150
+119%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−266%
|
106
+266%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−248%
|
115
+248%
|
Far Cry 5 | 56
−148%
|
139
+148%
|
Fortnite | 85−90
−132%
|
200−210
+132%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−178%
|
180−190
+178%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−402%
|
216
+402%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
−197%
|
170−180
+197%
|
Valorant | 120−130
−107%
|
260−270
+107%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 40−45
−132%
|
95
+132%
|
Battlefield 5 | 65−70
−119%
|
140−150
+119%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−228%
|
95
+228%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 200−210
−35%
|
270−280
+35%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−194%
|
97
+194%
|
Dota 2 | 112
−58.9%
|
178
+58.9%
|
Far Cry 5 | 51
−161%
|
133
+161%
|
Fortnite | 85−90
−132%
|
200−210
+132%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−178%
|
180−190
+178%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−353%
|
195
+353%
|
Grand Theft Auto V | 67
−115%
|
144
+115%
|
Metro Exodus | 31
−258%
|
111
+258%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
−197%
|
170−180
+197%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 54
−324%
|
229
+324%
|
Valorant | 120−130
−107%
|
260−270
+107%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 65−70
−119%
|
140−150
+119%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−162%
|
76
+162%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−164%
|
87
+164%
|
Dota 2 | 106
−57.5%
|
167
+57.5%
|
Far Cry 5 | 48
−156%
|
123
+156%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−178%
|
180−190
+178%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−202%
|
130−140
+202%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
−197%
|
170−180
+197%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 32
−263%
|
116
+263%
|
Valorant | 120−130
−107%
|
260−270
+107%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 85−90
−132%
|
200−210
+132%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 110−120
−182%
|
300−350
+182%
|
Grand Theft Auto V | 26
−246%
|
90
+246%
|
Metro Exodus | 20−22
−245%
|
69
+245%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
−13.6%
|
170−180
+13.6%
|
Valorant | 150−160
−84.2%
|
290−300
+84.2%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 40−45
−164%
|
110−120
+164%
|
Counter-Strike 2 | 18−20
−117%
|
39
+117%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−286%
|
54
+286%
|
Far Cry 5 | 33
−239%
|
112
+239%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−264%
|
140−150
+264%
|
Forza Horizon 5 | 27−30
−186%
|
80−85
+186%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 24−27
−256%
|
89
+256%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 35−40
−269%
|
120−130
+269%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 12−14
−200%
|
35−40
+200%
|
Counter-Strike 2 | 7−8
−329%
|
30
+329%
|
Grand Theft Auto V | 25
−260%
|
90
+260%
|
Metro Exodus | 12−14
−267%
|
44
+267%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 20
−255%
|
71
+255%
|
Valorant | 85−90
−222%
|
280−290
+222%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 21−24
−235%
|
75−80
+235%
|
Counter-Strike 2 | 7−8
−257%
|
24−27
+257%
|
Cyberpunk 2077 | 6−7
−300%
|
24
+300%
|
Dota 2 | 52
−181%
|
146
+181%
|
Far Cry 5 | 16
−281%
|
61
+281%
|
Forza Horizon 4 | 27−30
−246%
|
95−100
+246%
|
Forza Horizon 5 | 12−14
−169%
|
35−40
+169%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 14−16
−387%
|
70−75
+387%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 14−16
−340%
|
65−70
+340%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1650 Ti Max-Q และ RTX 4070 Mobile แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Mobile เร็วกว่า 121% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 Mobile เร็วกว่า 73% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 Mobile เร็วกว่า 77% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Forza Horizon 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RTX 4070 Mobile เร็วกว่า 402%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 4070 Mobile เหนือกว่า GTX 1650 Ti Max-Q ในการทดสอบทั้ง 64 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 16.58 | 50.25 |
ความใหม่ล่าสุด | 2 เมษายน 2020 | 3 มกราคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 4 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 50 วัตต์ | 115 วัตต์ |
GTX 1650 Ti Max-Q มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 130%
ในทางกลับกัน RTX 4070 Mobile มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 203.1% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 200%
GeForce RTX 4070 Mobile เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1650 Ti Max-Q ในการทดสอบประสิทธิภาพ