Radeon 660M เทียบกับ GeForce GTX 1650 Max-Q
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1650 Max-Q และ Radeon 660M โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
GTX 1650 Max-Q มีประสิทธิภาพดีกว่า 660M อย่างมหาศาลถึง 134% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 342 | 568 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 36.94 | 11.82 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | RDNA 2.0 (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU117 | Rembrandt+ |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 23 เมษายน 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1024 | 384 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 930 MHz | 1500 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1125 MHz | 1900 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 4,700 million | 13,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 30 Watt | 40 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 72.00 | 45.60 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 2.304 TFLOPS | 1.459 TFLOPS |
ROPs | 32 | 16 |
TMUs | 64 | 24 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 6 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | System Shared |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | System Shared |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | System Shared |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1751 MHz | System Shared |
112.1 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | Portable Device Dependent |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 2.0 |
Vulkan | 1.2.140 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 60
+140%
| 25
−140%
|
1440p | 30
+150%
| 12−14
−150%
|
4K | 18
+157%
| 7−8
−157%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 35−40
+34.5%
|
29
−34.5%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
+115%
|
12−14
−115%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
+33.3%
|
24
−33.3%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 35−40
+69.6%
|
23
−69.6%
|
Battlefield 5 | 64
+129%
|
27−30
−129%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
+115%
|
12−14
−115%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
+60%
|
20
−60%
|
Far Cry 5 | 38
+26.7%
|
30
−26.7%
|
Fortnite | 138
+254%
|
35−40
−254%
|
Forza Horizon 4 | 74
+155%
|
27−30
−155%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
+36.7%
|
30
−36.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85
+254%
|
24−27
−254%
|
Valorant | 120−130
+73.2%
|
70−75
−73.2%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 35−40
+200%
|
13
−200%
|
Battlefield 5 | 54
+92.9%
|
27−30
−92.9%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
+155%
|
11
−155%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 167
+57.5%
|
100−110
−57.5%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
+129%
|
14
−129%
|
Dota 2 | 94
+67.9%
|
56
−67.9%
|
Far Cry 5 | 35
+34.6%
|
26
−34.6%
|
Fortnite | 80
+105%
|
35−40
−105%
|
Forza Horizon 4 | 69
+138%
|
27−30
−138%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
+173%
|
14−16
−173%
|
Grand Theft Auto V | 56
+124%
|
25
−124%
|
Metro Exodus | 28
+86.7%
|
15
−86.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 71
+196%
|
24−27
−196%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 53
+104%
|
26
−104%
|
Valorant | 120−130
+73.2%
|
70−75
−73.2%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 49
+75%
|
27−30
−75%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
+115%
|
12−14
−115%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
+146%
|
12−14
−146%
|
Dota 2 | 88
+83.3%
|
48
−83.3%
|
Far Cry 5 | 33
+32%
|
25
−32%
|
Forza Horizon 4 | 55
+89.7%
|
27−30
−89.7%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
+173%
|
14−16
−173%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 53
+121%
|
24−27
−121%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30
+100%
|
15
−100%
|
Valorant | 120−130
+73.2%
|
70−75
−73.2%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 59
+51.3%
|
35−40
−51.3%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 110−120
+124%
|
50−55
−124%
|
Grand Theft Auto V | 24−27
+213%
|
8−9
−213%
|
Metro Exodus | 16
+167%
|
6−7
−167%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 140−150
+289%
|
35−40
−289%
|
Valorant | 150−160
+111%
|
70−75
−111%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 36
+227%
|
10−12
−227%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
+88.9%
|
9−10
−88.9%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
+180%
|
5−6
−180%
|
Far Cry 5 | 30−35
+154%
|
12−14
−154%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
+147%
|
14−16
−147%
|
Forza Horizon 5 | 27−30
+145%
|
10−12
−145%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 24−27
+140%
|
10−11
−140%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 36
+177%
|
12−14
−177%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 12−14
+140%
|
5−6
−140%
|
Counter-Strike 2 | 7−8
+600%
|
1−2
−600%
|
Grand Theft Auto V | 27−30
+55.6%
|
18−20
−55.6%
|
Metro Exodus | 10
+900%
|
1−2
−900%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 18
+350%
|
4−5
−350%
|
Valorant | 80−85
+152%
|
30−35
−152%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 19
+280%
|
5−6
−280%
|
Counter-Strike 2 | 7−8
+600%
|
1−2
−600%
|
Cyberpunk 2077 | 6−7
+200%
|
2−3
−200%
|
Dota 2 | 50−55
+135%
|
21−24
−135%
|
Far Cry 5 | 16−18
+129%
|
7−8
−129%
|
Forza Horizon 4 | 24−27
+160%
|
10−11
−160%
|
Forza Horizon 5 | 12−14
+225%
|
4−5
−225%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 17
+183%
|
6−7
−183%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 11
+83.3%
|
6−7
−83.3%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1650 Max-Q และ Radeon 660M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- GTX 1650 Max-Q เร็วกว่า 140% ในความละเอียด 1080p
- GTX 1650 Max-Q เร็วกว่า 150% ในความละเอียด 1440p
- GTX 1650 Max-Q เร็วกว่า 157% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ GTX 1650 Max-Q เร็วกว่า 900%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น GTX 1650 Max-Q เหนือกว่า Radeon 660M ในการทดสอบทั้ง 67 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 16.06 | 6.85 |
ความใหม่ล่าสุด | 23 เมษายน 2019 | 3 มกราคม 2023 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 30 วัตต์ | 40 วัตต์ |
GTX 1650 Max-Q มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 134.5% และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 33.3%
ในทางกลับกัน Radeon 660M มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%
GeForce GTX 1650 Max-Q เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 660M ในการทดสอบประสิทธิภาพ