Radeon 660M เทียบกับ GeForce GTX 1650 Ti Max-Q
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1650 Ti Max-Q และ Radeon 660M โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
GTX 1650 Ti Max-Q มีประสิทธิภาพดีกว่า 660M อย่างน่าประทับใจ 94% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 342 | 512 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 22.98 | 14.84 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | RDNA 2.0 (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU117 | Rembrandt+ |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 2 เมษายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1024 | 384 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1035 MHz | 1500 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1200 MHz | 1900 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 4,700 million | 13,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 50 Watt | 40 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 76.80 | 45.60 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 2.458 TFLOPS | 1.459 TFLOPS |
ROPs | 32 | 16 |
TMUs | 64 | 24 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 6 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | System Shared |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | System Shared |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | System Shared |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1250 MHz | System Shared |
160.0 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | Portable Device Dependent |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 2.0 |
Vulkan | 1.2.140 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 54
+116%
| 25
−116%
|
1440p | 33
+106%
| 16−18
−106%
|
4K | 24
+100%
| 12−14
−100%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 85−90
+112%
|
40−45
−112%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
+37.5%
|
24
−37.5%
|
Hogwarts Legacy | 30−35
+34.8%
|
23
−34.8%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 65−70
+86.1%
|
35−40
−86.1%
|
Counter-Strike 2 | 85−90
+112%
|
40−45
−112%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
+65%
|
20
−65%
|
Far Cry 5 | 56
+86.7%
|
30
−86.7%
|
Fortnite | 85−90
+77.6%
|
45−50
−77.6%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
+80.6%
|
35−40
−80.6%
|
Forza Horizon 5 | 50−55
+28.2%
|
39
−28.2%
|
Hogwarts Legacy | 30−35
+82.4%
|
17
−82.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
+100%
|
27−30
−100%
|
Valorant | 120−130
+53.7%
|
80−85
−53.7%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 65−70
+86.1%
|
35−40
−86.1%
|
Counter-Strike 2 | 85−90
+112%
|
40−45
−112%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 200−210
+61.4%
|
120−130
−61.4%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
+136%
|
14
−136%
|
Dota 2 | 112
+100%
|
56
−100%
|
Far Cry 5 | 51
+96.2%
|
26
−96.2%
|
Fortnite | 85−90
+77.6%
|
45−50
−77.6%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
+80.6%
|
35−40
−80.6%
|
Forza Horizon 5 | 50−55
+56.3%
|
32
−56.3%
|
Grand Theft Auto V | 67
+168%
|
25
−168%
|
Hogwarts Legacy | 30−35
+138%
|
13
−138%
|
Metro Exodus | 31
+107%
|
15
−107%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
+100%
|
27−30
−100%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 54
+108%
|
26
−108%
|
Valorant | 120−130
+53.7%
|
80−85
−53.7%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 65−70
+86.1%
|
35−40
−86.1%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
+94.1%
|
16−18
−94.1%
|
Dota 2 | 106
+121%
|
48
−121%
|
Far Cry 5 | 48
+92%
|
25
−92%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
+80.6%
|
35−40
−80.6%
|
Hogwarts Legacy | 30−35
+210%
|
10
−210%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
+100%
|
27−30
−100%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 32
+113%
|
15
−113%
|
Valorant | 120−130
+53.7%
|
80−85
−53.7%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 85−90
+77.6%
|
45−50
−77.6%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
+121%
|
14−16
−121%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 110−120
+87.1%
|
60−65
−87.1%
|
Grand Theft Auto V | 26
+136%
|
10−12
−136%
|
Metro Exodus | 20−22
+150%
|
8−9
−150%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+262%
|
40−45
−262%
|
Valorant | 150−160
+71.7%
|
90−95
−71.7%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 40−45
+144%
|
18−20
−144%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
+100%
|
7−8
−100%
|
Far Cry 5 | 33
+94.1%
|
16−18
−94.1%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
+105%
|
18−20
−105%
|
Hogwarts Legacy | 18−20
+100%
|
9−10
−100%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 24−27
+92.3%
|
12−14
−92.3%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 35−40
+106%
|
16−18
−106%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 12−14
+1100%
|
1−2
−1100%
|
Grand Theft Auto V | 25
+31.6%
|
18−20
−31.6%
|
Hogwarts Legacy | 10−11
+233%
|
3−4
−233%
|
Metro Exodus | 12−14
+300%
|
3−4
−300%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 20
+186%
|
7−8
−186%
|
Valorant | 85−90
+107%
|
40−45
−107%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 21−24
+156%
|
9−10
−156%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
+1100%
|
1−2
−1100%
|
Cyberpunk 2077 | 6−7
+100%
|
3−4
−100%
|
Dota 2 | 52
+73.3%
|
30−33
−73.3%
|
Far Cry 5 | 16
+100%
|
8−9
−100%
|
Forza Horizon 4 | 27−30
+115%
|
12−14
−115%
|
Hogwarts Legacy | 10−11
+233%
|
3−4
−233%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 14−16
+87.5%
|
8−9
−87.5%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 16−18
+100%
|
8−9
−100%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1650 Ti Max-Q และ Radeon 660M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- GTX 1650 Ti Max-Q เร็วกว่า 116% ในความละเอียด 1080p
- GTX 1650 Ti Max-Q เร็วกว่า 106% ในความละเอียด 1440p
- GTX 1650 Ti Max-Q เร็วกว่า 100% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ GTX 1650 Ti Max-Q เร็วกว่า 1100%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น GTX 1650 Ti Max-Q เหนือกว่า Radeon 660M ในการทดสอบทั้ง 66 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 14.48 | 7.48 |
ความใหม่ล่าสุด | 2 เมษายน 2020 | 3 มกราคม 2023 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 50 วัตต์ | 40 วัตต์ |
GTX 1650 Ti Max-Q มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 93.6%
ในทางกลับกัน Radeon 660M มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 25%
GeForce GTX 1650 Ti Max-Q เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 660M ในการทดสอบประสิทธิภาพ