Radeon 680M เทียบกับ GeForce GTX 1650 Max-Q
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1650 Max-Q และ Radeon 680M โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
GTX 1650 Max-Q มีประสิทธิภาพดีกว่า 680M อย่างน่าประทับใจ 86% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 342 | 506 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 37.06 | 11.93 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | RDNA 2.0 (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU117 | Rembrandt+ |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 23 เมษายน 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1024 | 768 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 930 MHz | 2000 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1125 MHz | 2200 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 4,700 million | 13,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 30 Watt | 50 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 72.00 | 105.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 2.304 TFLOPS | 3.379 TFLOPS |
ROPs | 32 | 32 |
TMUs | 64 | 48 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 12 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | System Shared |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | System Shared |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | System Shared |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1751 MHz | System Shared |
112.1 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | Portable Device Dependent |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 2.0 |
Vulkan | 1.2.140 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 60
+62.2%
| 37
−62.2%
|
1440p | 30
+76.5%
| 17
−76.5%
|
4K | 18
+63.6%
| 11
−63.6%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 35−40
−20.5%
|
47
+20.5%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
+0%
|
28
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−18.8%
|
38
+18.8%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 35−40
+5.4%
|
37
−5.4%
|
Battlefield 5 | 64
+77.8%
|
35−40
−77.8%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
+21.7%
|
23
−21.7%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
+14.3%
|
28
−14.3%
|
Far Cry 5 | 38
+0%
|
38
+0%
|
Fortnite | 138
+182%
|
45−50
−182%
|
Forza Horizon 4 | 74
+106%
|
35−40
−106%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
+7.9%
|
38
−7.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85
+193%
|
27−30
−193%
|
Valorant | 120−130
+50%
|
80−85
−50%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 35−40
+95%
|
20
−95%
|
Battlefield 5 | 54
+50%
|
35−40
−50%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
+33.3%
|
21
−33.3%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 167
+31.5%
|
120−130
−31.5%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
+52.4%
|
21
−52.4%
|
Dota 2 | 94
+32.4%
|
71
−32.4%
|
Far Cry 5 | 35
+0%
|
35
+0%
|
Fortnite | 80
+63.3%
|
45−50
−63.3%
|
Forza Horizon 4 | 69
+91.7%
|
35−40
−91.7%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
+105%
|
20−22
−105%
|
Grand Theft Auto V | 56
+55.6%
|
36
−55.6%
|
Metro Exodus | 28
+21.7%
|
23
−21.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 71
+145%
|
27−30
−145%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 53
+32.5%
|
40
−32.5%
|
Valorant | 120−130
+50%
|
80−85
−50%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 49
+36.1%
|
35−40
−36.1%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
+75%
|
16−18
−75%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
+77.8%
|
18
−77.8%
|
Dota 2 | 88
+44.3%
|
61
−44.3%
|
Far Cry 5 | 33
+0%
|
33
+0%
|
Forza Horizon 4 | 55
+52.8%
|
35−40
−52.8%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
+57.7%
|
26
−57.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 53
+82.8%
|
27−30
−82.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30
+25%
|
24
−25%
|
Valorant | 120−130
−18.7%
|
146
+18.7%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 59
+20.4%
|
45−50
−20.4%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 110−120
+80.6%
|
60−65
−80.6%
|
Grand Theft Auto V | 24−27
+47.1%
|
17
−47.1%
|
Metro Exodus | 16
+100%
|
8−9
−100%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 140−150
+252%
|
40−45
−252%
|
Valorant | 150−160
+67.4%
|
90−95
−67.4%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 36
+100%
|
18−20
−100%
|
Counter-Strike 2 | 18−20
+63.6%
|
10−12
−63.6%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
+40%
|
10
−40%
|
Far Cry 5 | 30−35
+57.1%
|
21
−57.1%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
+94.7%
|
18−20
−94.7%
|
Forza Horizon 5 | 27−30
+92.9%
|
14−16
−92.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 24−27
+41.2%
|
17
−41.2%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 36
+112%
|
16−18
−112%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 12−14
+71.4%
|
7−8
−71.4%
|
Counter-Strike 2 | 7−8
+250%
|
2−3
−250%
|
Grand Theft Auto V | 27−30
+47.4%
|
18−20
−47.4%
|
Metro Exodus | 10
+233%
|
3−4
−233%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 18
+38.5%
|
13
−38.5%
|
Valorant | 80−85
+97.6%
|
40−45
−97.6%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 19
+111%
|
9−10
−111%
|
Counter-Strike 2 | 7−8
+250%
|
2−3
−250%
|
Cyberpunk 2077 | 6−7
+50%
|
4
−50%
|
Dota 2 | 50−55
+200%
|
18
−200%
|
Far Cry 5 | 16−18
+100%
|
8−9
−100%
|
Forza Horizon 4 | 24−27
+100%
|
12−14
−100%
|
Forza Horizon 5 | 12−14
+117%
|
6−7
−117%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 17
+113%
|
8−9
−113%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 11
+37.5%
|
8−9
−37.5%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1650 Max-Q และ Radeon 680M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- GTX 1650 Max-Q เร็วกว่า 62% ในความละเอียด 1080p
- GTX 1650 Max-Q เร็วกว่า 76% ในความละเอียด 1440p
- GTX 1650 Max-Q เร็วกว่า 64% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ GTX 1650 Max-Q เร็วกว่า 252%
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ Radeon 680M เร็วกว่า 21%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 1650 Max-Q เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (90%)
- Radeon 680M เหนือกว่าใน 3การทดสอบ (4%)
- เสมอกันใน 4การทดสอบ (6%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 15.95 | 8.56 |
ความใหม่ล่าสุด | 23 เมษายน 2019 | 3 มกราคม 2023 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 30 วัตต์ | 50 วัตต์ |
GTX 1650 Max-Q มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 86.3% และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 66.7%
ในทางกลับกัน Radeon 680M มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%
GeForce GTX 1650 Max-Q เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 680M ในการทดสอบประสิทธิภาพ