GeForce RTX 4070 เทียบกับ GTX 1650 Max-Q
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1650 Max-Q กับ GeForce RTX 4070 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4070 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1650 Max-Q อย่างมหาศาลถึง 334% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 342 | 24 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 36 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 60.53 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 37.06 | 24.11 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU117 | AD104 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 23 เมษายน 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 12 เมษายน 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1024 | 5888 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 930 MHz | 1920 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1125 MHz | 2475 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 4,700 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 30 Watt | 200 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 72.00 | 455.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 2.304 TFLOPS | 29.15 TFLOPS |
ROPs | 32 | 64 |
TMUs | 64 | 184 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 184 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 46 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 240 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1751 MHz | 1313 MHz |
112.1 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.140 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 60
−258%
| 215
+258%
|
1440p | 30
−303%
| 121
+303%
|
4K | 18
−306%
| 73
+306%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 2.79 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 4.95 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 8.21 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 35−40
−721%
|
320
+721%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−493%
|
160−170
+493%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−575%
|
216
+575%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 35−40
−541%
|
250
+541%
|
Battlefield 5 | 64
−172%
|
170−180
+172%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−493%
|
160−170
+493%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−444%
|
174
+444%
|
Far Cry 5 | 38
−453%
|
210
+453%
|
Fortnite | 138
−119%
|
300−350
+119%
|
Forza Horizon 4 | 74
−246%
|
250−260
+246%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−361%
|
180−190
+361%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85
−108%
|
170−180
+108%
|
Valorant | 120−130
−197%
|
350−400
+197%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 35−40
−279%
|
148
+279%
|
Battlefield 5 | 54
−222%
|
170−180
+222%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−493%
|
160−170
+493%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 167
−66.5%
|
270−280
+66.5%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−347%
|
143
+347%
|
Dota 2 | 94
−326%
|
400−450
+326%
|
Far Cry 5 | 35
−483%
|
204
+483%
|
Fortnite | 80
−278%
|
300−350
+278%
|
Forza Horizon 4 | 69
−271%
|
250−260
+271%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−361%
|
180−190
+361%
|
Grand Theft Auto V | 56
−211%
|
174
+211%
|
Metro Exodus | 28
−500%
|
168
+500%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 71
−149%
|
170−180
+149%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 53
−562%
|
351
+562%
|
Valorant | 120−130
−197%
|
350−400
+197%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 49
−255%
|
170−180
+255%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−493%
|
160−170
+493%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−300%
|
128
+300%
|
Dota 2 | 88
−298%
|
350−400
+298%
|
Far Cry 5 | 33
−473%
|
189
+473%
|
Forza Horizon 4 | 55
−365%
|
250−260
+365%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−315%
|
170−180
+315%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 53
−234%
|
170−180
+234%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30
−467%
|
170
+467%
|
Valorant | 120−130
−197%
|
350−400
+197%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 59
−412%
|
300−350
+412%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 110−120
−345%
|
450−500
+345%
|
Grand Theft Auto V | 24−27
−448%
|
137
+448%
|
Metro Exodus | 16
−550%
|
104
+550%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 140−150
−18.2%
|
170−180
+18.2%
|
Valorant | 150−160
−188%
|
400−450
+188%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 36
−353%
|
160−170
+353%
|
Counter-Strike 2 | 18−20
−317%
|
75−80
+317%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−479%
|
81
+479%
|
Far Cry 5 | 30−35
−418%
|
171
+418%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−495%
|
220−230
+495%
|
Forza Horizon 5 | 27−30
−307%
|
110−120
+307%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 24−27
−538%
|
150−160
+538%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 36
−319%
|
150−160
+319%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 12−14
−400%
|
60−65
+400%
|
Counter-Strike 2 | 7−8
−543%
|
45−50
+543%
|
Grand Theft Auto V | 27−30
−421%
|
146
+421%
|
Metro Exodus | 10
−550%
|
65
+550%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 18
−539%
|
115
+539%
|
Valorant | 80−85
−299%
|
300−350
+299%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 19
−526%
|
110−120
+526%
|
Counter-Strike 2 | 7−8
−543%
|
45−50
+543%
|
Cyberpunk 2077 | 6−7
−500%
|
36
+500%
|
Dota 2 | 50−55
−326%
|
230−240
+326%
|
Far Cry 5 | 16−18
−481%
|
93
+481%
|
Forza Horizon 4 | 24−27
−562%
|
170−180
+562%
|
Forza Horizon 5 | 12−14
−323%
|
55−60
+323%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 17
−465%
|
95−100
+465%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 11
−618%
|
75−80
+618%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 60−65
+0%
|
60−65
+0%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1650 Max-Q และ RTX 4070 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 เร็วกว่า 258% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 เร็วกว่า 303% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 เร็วกว่า 306% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RTX 4070 เร็วกว่า 721%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 15.95 | 69.19 |
ความใหม่ล่าสุด | 23 เมษายน 2019 | 12 เมษายน 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 30 วัตต์ | 200 วัตต์ |
GTX 1650 Max-Q มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 566.7%
ในทางกลับกัน RTX 4070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 333.8% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%
GeForce RTX 4070 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1650 Max-Q ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce GTX 1650 Max-Q เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 4070 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป